ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่) นิยาย บท 81

“โห...ของเรานะ! แค่ใช้ให้ชนเดือนก็ถือว่าบุญแล้ว” เอื้องแสร้งบอกเสียงเศร้าๆ ทั้งที่มีเงินในบัญชีหลายล้าน แต่ก็ไม่กล้าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เพราะตั้งใจว่าจะเก็บเงินจำนวนนั้นเอาไว้เป็นทุนการศึกษาของบุตรสาวในวันข้างหน้า

“คิกๆๆ ถ้าแกไม่เล่นไฮโลนะเอื้อง ป่านนี้คงจะมีเงินเก็บเป็นล้าน” ส้มมองค้อนเพื่อนสาวที่ชอบดราม่า

“ตั้งแต่มีลูก ฉันก็เลิกเล่นการพนันทุกชนิดอย่างเด็ดขาด” เอื้องบอกพร้อมกับเชิดใบหน้าขึ้นนิดๆ

“ไวน์เองก็ได้เกียรตินิยมอันดับสองมานี่” ติช่าถามคนชอบถ่อมตัว

“ใช่! แค่นี้ก็สุดยอดแล้ว พวกเรายังไม่มีใครได้เลย” ส้มบอกอย่างรู้สึก ปลื้มใจ

“แฮ่ๆ พอดีเราขยันตามคาร่าน่ะ” วรันยาส่งยิ้มเจื่อนๆ ให้เพื่อนสาว

“ชิ! เธอเองก็เก่งมาแต่ไหนแต่ไรแล้วไวน์” เอื้องทำทีเป็นมองค้อน

“เดี๋ยวๆ มีใครเคยรู้บ้างว่าคุณภาคินก็คว้าเกียรตินิยมอันดับหนึ่งมาได้เหมือนกัน” ชิสาถามเรื่องที่คิดว่าเพื่อนสาวทุกคนยังไม่ทราบ

“โห...เพอร์เฟกต์ไปอีก แค่หล่อ รวยนี่ก็ว่าสุดๆ แล้วนะ” ติช่าบอกอย่าง รู้สึกทึ่ง

“หนุ่มตระกูลซานเตียนโน่คว้าเกียรตินิยมอันดับหนึ่งกันทุกคนจ้า ยิ่งเสี่ยรัญนะ เรียนจบตั้งหลายที่เชียวแน่ะ” คนที่รู้เยอะสปอยต่อ

“เสียดายที่ตอนงานแต่งของไวน์กับคุณภาคิน ได้เห็นแค่ไกลๆ” ติช่าบอก

“อืม! ยังดีนะที่ได้เห็นเสี่ยรัญ แต่ฝาแฝดของคุณภาคินนี่สิ ฉันยังไม่เคยเห็นหน้าเลย” เอื้องบอก

“แต่ฉันเห็น แอบถ่ายรูปเอาไว้ด้วย” ชิสาบอกพร้อมกับกดค้นหารูปในมือถือ

“ขอดูหน่อย” เอื้องบอกอย่างตื่นเต้น

“แหม...มีของดีก็ไม่ยอมบอกนะชิสา” ติช่าเอ่ยแซว

วรันยาหัวเราะเบาๆ กับท่าทีตื่นเต้นของเพื่อนๆ จึงกดค้นหารูปของภัคคินัยและหิรัญในมือถือแล้วส่งให้กับทุกคนดู ขณะเดียวกันก็รู้สึกสงสารมีนาที่เจอกระแส ตีกลับค่อนข้างแรง แถมบิดายังต้องมาแพ้การเลือกตั้งอีก

ที่งานศพของเสาวณี...ภาคินเดินทางไปร่วมงานศพกับสิงขรและเพื่อนรักอย่างจอมพล แม่ทัพ แล้วก็ขุนพัน ท่ามกลางสายตาผู้คนที่พากันหันมามอง

“สวัสดีครับคุณสา ผมเสียใจด้วยนะครับ” ภาคินเอ่ยพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้อีกฝ่าย

“ฮึก...ฉันว่าคุณและคนของคุณกลับไปเถอะ” สาวิตรีตอบกลับด้วยสายตาขวางๆ

“เอ่อ...” ภาคินถึงกับไปไม่ถูก

“ผมว่าคุณคินได้ยินชัดแล้วนะครับ” ธรรมนัสที่ไปต้อนรับแขกตามโต๊ะรีบเดิมเข้ามาหาด้วยสีหน้าบึ้งตึง

“ออกไป ฉันบอกให้ออกไปยังไงล่ะ...กรี๊ดดดดด” สาวิตรีกระโจนเข้าทุบตีพ่อเลี้ยงคนดังอย่างบ้าคลั่ง ทำเอาคนที่มาร่วมไว้อาลัยพากันลุกขึ้นมองทั้งงาน

“นายครับ เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” สิงขรรีบเข้าไปดึงผู้เป็นนายออกมา

“ผมไม่เป็นไรครับ” คนที่โดนทุบไปหลายทีบอกด้วยสีหน้าเจื่อนๆ

“กลับเถอะคิน” จอมพลบอกพร้อมกับจ้องหน้าของธรรมนัสกลับอย่างไม่พอใจที่อีกฝ่ายมองมาราวกับว่า เพื่อนรักของเป็นคนฆ่าเสาวณีตายยังไงยังงั้น

“พวกผมแค่มาแสดงความเสียใจ ไม่เห็นต้องมองหรือทำกันแบบนี้” แม่ทัพต่อว่าอย่างรู้สึกเคือง

“เดี๋ยวนี้ร่ำรวยถึงขั้นเลี้ยงบอดี้การ์ดเลยหรือครับคุณธรรม” ขุนพันเอ่ย แซวอย่างอดไม่ได้

“แล้วมันหนักส่วนไหนของคุณขุนเหรอครับ” ธรรมนัสถามกลับด้วยน้ำเสียงกวนๆ

“ก็ไม่ได้หนักอะไรหรอกครับ แต่ถ้าใครอยากจะบวกล่ะก็ ผมจะรอที่ลานจอดรถข้างนอก” ขุนพันตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เย็นเฉียบ ทำเอาทุกคนที่อยู่ในบริเวณนั้นถึงกับเงียบกริบไปทันทีทันใด

“เอ่อ...ผมลาล่ะครับลุงธรรม น้าสา” ภาคินยกมือไหว้ก่อนจะสะกิดเพื่อนๆ ให้เดินออกจากงาน

“ให้ตามไหมครับนาย” เมฆหันไปถามผู้เป็นนายอย่างไม่พอใจที่ถูกเด็กเมื่อวานซืนท้าทายซึ่งๆ หน้า

“จะตามไปหาพระแสงอะไร พ่อมันเป็นถึงนายพล เดี๋ยวก็ซวยกันหมดหรอก” ธรรมนัสบอกก่อนจะเข้าไปประคองสาวิตรีเดินไปพักที่ด้านใน ท่ามกลางสายตาสงสัยของแขกในงานที่ยังมึนๆ งงๆ กับเหตุการณ์เมื่อครู่

ที่ลานจอดรถ...

“ฉันบอกแล้วว่าเราไม่น่ามาเลย” แม่ทัพบอกด้วยขึ้นด้วยสีหน้าเซ็งๆ

“ฉันว่าที่เรามาน่ะถูกแล้ว” ภาคินบอกพร้อมกับฉีกยิ้มกว้าง

“ถูกยังไงวะ?” ขุนพันถามอย่างข้องใจ ‘มันโดนทุบจนเพี้ยนไปหรือเปล่าวะ?’

“ก็น้าสายัดนี่ใส่มือให้ฉัน เดี๋ยวเราไปเปิดดูกันที่โรงแรม” ภาคินล้วง แฟลชไดร์ฟออกมาให้เพื่อนๆ ดู ก่อนจะพากันขับกลับโรงแรม

โรงแรมซานเตียนโน่...

“มึงพูดจริงเหรอ?” ภาคินถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหูว่าเพื่อนรักจะทุ่มทุนสร้างเพื่อตน

“เออดิ!” ขุนพันมองค้อนทุกสายตาที่กำลังจับจ้องมายังตน

“ขอบใจมากเพื่อน” ภาคินตบไหล่ของเพื่อนรักเบาๆ อย่างซาบซึ้งใจ

“กูว่าจบเรื่องคดีของณี มึงเตรียมตัวไปร่วมงานแต่งของไอ้ขุนได้เลย” แม่ทัพกระซิบบอกอย่างรู้สึกขำ เพราะรู้ดีว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ขุนพันขอความช่วยเหลือจากผู้เป็นบิดาของอีกฝ่าย เมื่อนั้นก็จะมีข้อแลกเปลี่ยนที่เกี่ยวกับหญิงสาวชื่อดาหวันเข้ามาร่วมด้วย

“หึๆๆ” ภาคินหัวเราะเบาๆ อย่างเข้าใจในความหมาย

“ฉันว่ามีอีกเรื่องหนึ่งที่แกควรจะรู้” ขุนพันกลอกตา แล้วขยับโน้ตบุ๊กให้เพื่อนรักดูรูปภาพมากมายที่อยู่ในแฟ้มลับ

“! นี่ณีเป็นคนปล่อยข่าวของฉันกับลัมภาเองเหรอเนี่ย?” ภาคินมองภาพนับสิบๆ รูปของตัวเองกับอดีตคู่ขาเก่าอย่างรู้สึกอึ้ง

“ขอไวน์ดูหน่อยสิคะ” วรันยาหน้าตึงขึ้นมานิดๆ ที่สามีรีบกดปิดโน้ตบุ๊กไปโดยที่เธอยังไม่ทันได้เห็น

“เรื่องมันนานมาแล้วครับ พี่ไม่อยากจะให้เราต้องมาทะเลาะกันอีก” ภาคินบอกพร้อมกับส่งโน้ตบุ๊กให้สิงขรเอาไปเก็บ

“เอ่อ...ผมว่าเรารีบไปกันเถอะครับ” ขุนพันชวนหลังจากที่จุดไฟเผาเรือนเพื่อนรักเสร็จ

“โอเค!” แม่ทัพขานรับก่อนจะหันไปพยักหน้าให้จอมพลและสิงขรเตรียมตัว

“พรุ่งนี้อย่าลืมเลี้ยงข้าวเที่ยงกูด้วยนะ” ขุนพันหันมาสั่ง แล้วออกเดินตรงไปที่ประตูก่อนใคร

“จัดชุดใหญ่รอเลย” ภาคินตะโกนตามหลังอย่างขุ่นเคือง ‘เลื่อยขาเตียงกูเสร็จ แล้วรีบกลับเลยนะไอ้ขุน’

“ไปก่อนนะคิน ไว้เจอกันครับน้องไวน์” แม่ทัพส่งยิ้มให้ แล้วรีบเดินตามเพื่อนรักไปติดๆ

“ขอตัวก่อนนะครับ” จอมพลกับสิงขรเอ่ยพร้อมกัน

“ค่ะ” วรันยามองตามจนกระทั่งสี่หนุ่มออกไปจากห้องหมดแล้ว ก็หันมาถามสามีด้วยสีหน้าบึ้งตึง “ทำไมถึงไม่ยอมให้ไวน์ดูรูปคะ”

“พี่ไม่อยากให้น้องไวน์มองพี่ในอดีตครับ แต่อยากให้มองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้มากกว่า” ภาคินดึงเมียรักเข้ามากอด

“ชิ! ว่าแต่...สงสารคุณณีจังเลยนะคะ” วรันยายอมเปลี่ยนเรื่องคุย

“ครับ” ภาคินยิ้มก่อนจะช้อนอุ้มเมียรักเดินเข้าไปในห้องนอน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ภาคิน (ซีรีส์ 3 หนุ่มซานเตียนโน่)