พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 117

สำหรับโปรเจกต์ลงทุนบนเกาะนั้น เซียวซื่อกรุ๊ป สีซื่อกรุ๊ปและตงฟางกรุ๊ปได้เซ็นสัญญาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังเลิกประชุม เซียวซือเรียกฉันให้หยุดคุยด้วย

ตอนนี้คนในห้องประชุมพากันออกไปกันหมดแล้ว เหลือเพียงพวกเราสองคน

ฉันคิดว่าเซียวซือจะคุยเรื่องงาน จึงก้มหน้าหาเอกสารที่พึ่งประชุมเสร็จไปหมาดๆ

เซียวซือกล่าว “ไม่ได้คุยเรื่องงาน แค่อยากคุยอะไรกับเธอหน่อย”

เหมือนเซียวซือจะไม่เคยคุยเรื่องทั่วไปกับฉันมาก่อน ฉันมองเธอด้วยความสงสัย “มีเรื่องอะไร?”

“ช่วงนี้” เธอเลิกคิ้วราวกับไม่สะดวกใจพูด

“ทำไมเหรอ?”

“ได้ยินว่าช่วงนี้สีชิงชวนกำลังจีบเพื่อนสนิทของเธอ เฉียวอี้ เธอรู้เรื่องนี้ไหม?” ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง ชักจะเอิกเกริกใหญ่โตแล้วสิ

สีชิงชวนเป็นคนมีชื่อเสียง ทำอะไรนิดอะไรหน่อยก็เป็นที่จับตามองไปเสียทุกเรื่อง ยิ่งไปกว่านั้น เขาทำเปิดเผยขนาดนั้น พนักงานในบริษัทเซียวซื่อกรุ๊ปรู้กันหมดแล้ว

ดังนั้นหากเซียวซือจะรู้ก็ไม่แปลก

ฉันยิ้มฝืดๆ กับเธอ “คงไม่ได้จีบกันหรอก พวกเขาสนิทกันอยู่แล้ว”

“ถ้าเธอยังทำตัวไม่สะทกสะท้าน ฉันก็จนปัญญา แต่เธอดูนั้นสิ” เธอชี้ไปยังตึกใหญ่นอกหน้าต่าง “เธอเห็นจอยักษ์นั้นหรือยัง?”

ฉันเห็นแล้ว ซึ่งเป็นภาพที่เฉียวอี้กำลังเล่นหุ่นยนต์อยู่

“สีชิงชวนซื้อจอยักษ์นี้มาฉายภาพเฉียวอี้ เพื่อจะจีบเฉียวอี้ไงละ”

“ออ” ฉันมองอยู่นานกว่าจะหันกลับมามองเซียวซือ “โอเค”

“โอเค?” เธอเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ “เธอไม่คิดว่ามีปัญหาเหรอ?”

“พี่ก็รู้จักนิสัยของสีชิงชวนดีนี่ ฉันคุมพฤติกรรมของเขาได้เสียเมื่อไหร่?”

“เธอคุมสีชิงชวนไม่ได้ แต่เธอก็ไปคุยกับเพื่อนรักของตัวเองได้ พวกเธอเป็นเพื่อนสนิทกันไม่ใช่เหรอ?”

ฉันเอาแต่ยืนจ้องเซียวซือ ไม่รู้จะตอบเช่นไรดี ทันใดนั้นเธอก็ยิ้มเย็นใส่ฉัน “ก็ถูกอยู่ สีชิงชวนตามจีบขนาดนี้ มิตรภาพของความเป็นเพื่อนจะไปสำคัญอะไร?”

เหมือนเซียวซือจะถูกตรงจุด เธอมองปราดเดียวก็มองทะลุปรุโปร่งแล้ว

หรือมิตรภาพของฉันกับเฉียวอี้สู้การตามจีบอันบ้าระห่ำของสีชิงชวนไม่ได้ แถมยังพึ่งจะจีบไม่กี่วันด้วย?

ฉันอยากจะยิงสีชิงชวนให้ลอยไปอยู่บนอวกาศมาก

ฉันเดินออกจากห้องประชุมก็เห็นพนักงานสาวส่วนใหญ่พากันมุดดูจอยักษ์ที่ริมหน้าต่าง พลางพูดด้วยความอิจฉาว่า “โอ๊ย! บุญหล่นทับคุณเฉียวจริงๆ ประธานสีชอบเธอ”

“แต่คุณเฉียวกับประธานเซียวของพวกเราเป็นเพื่อนสนิทกันไม่ใช่เหรอ?”

“เพื่อนสนิทกับสามีที่ดี อันไหนสำคัญกว่ากันล่ะ? เพื่อนสนิทแล้วไง ถ้าผลประโยชน์มากองตรงหน้าก็หักหลังกันได้ทั้งนั้นแหละ”

ทำไมทุกคนจึงพูดเป็นเสียงเดียวกันแบบนี้? หรือว่าบนโลกใบนี้ไม่มีมิตรภาพที่แท้จริง?

ฉันกลับเข้าห้องทำงานส่วนตัว แต่เฉียวอี้ไม่อยู่

ฉันถามหร่วนหลิง “เฉียวอี้ล่ะ?”

“เอ่อ...” เธอพูดอ้ำๆ อึ้งๆ “ดิฉันไม่ทราบค่ะ”

ฉันเดินไปดูที่หน้าต่าง ถึงฉันจะอยู่ชั้นที่ยี่สิบกว่าของตึก แต่ก็ยังคงเห็นภาพเฉียวอี้เดินออกจากบริษัทได้อย่างชัดเจน ก่อนจะเห็นสีชิงชวนยืนรอเธอหน้ารถแข่งสีม่วงอ่อน

เฉียวอี้เดินไปถึงเขาก็เปิดประตูรถให้เฉียวอี้ เขารู้จักเฉียวอี้จริงๆ รู้ว่าเธอชอบซิ่งด้วย

เอาใจถึงขั้นนี้แล้ว แถมคนจีบยังเป็นสีชิงชวนไอ้โรคจิตอีกต่างหาก แล้วผู้หญิงคนไหนจะไม่หวั่นไหวกัน?

เธอยืนกรานว่าจะพาฉันไปกินลมชมวิวให้ได้ “เซียวเซิง เธอรู้ไหมว่าเสียงรถคันนี้มันสะใจมาก กลายเป็นว่ารถคันเก่าของฉันห่วยแตกไปเลย”

เธอขับรถออกจากบ้านอีกครั้ง อากาศตอนกลางคืนเริ่มหนาวนิดๆ ฉันนั่งกอดขา เธอหันมามองฉัน “เธอหนาวเหรอ?”

“อืม”

“แถวหลังมีเสื้อตัวนึง เธอหยิบมาใส่สิ”

“เธอขับช้าๆ หน่อย” ฉันกลัวตัวเองจะเซล้มตอนไปหยิบเสื้อ

เสื้อแจ็คเก็ตของเธออยู่ด้านหลัง ซึ่งมันใหญ่มาก แต่ก็จะทำให้อุ่นมากเช่นกัน

ฉันหยิบเสื้อแจ็คเก็ตของเธอขึ้นมา ทว่ากลับเห็นซองเอกสารด้วย และฉันก็จำซองเอกสารนี้ได้เป็นอย่างดี ก็คือซองที่สีชิงชวนให้ฉันดู แล้วเขาบอกว่าจะให้เฉียวอี้เอามาให้ฉันเซ็น

มือของฉันสั่นระริกกะทันหัน เฉียวอี้ดึงตัวฉัน “ฉันจะเร่งความเร็วแล้วนะ เธอคาดเข็มขัดนิรภัยเร็วๆ”

พอฉันใส่เสื้อและคาดเข็มขัดนิรภัยเสร็จ เฉียวอี้ก็เหยียบคันเร่งจนฉันต้องกรี๊ดร้องเสียงดัง

แต่เธอร้องเสียงดังกว่าฉันอีก “ใช่แล้วเซียวเซิง ต้องกรี๊ดดังๆ แบบนี้แหละ มันจะสะใจกว่า”

ฉันกรี๊ดร้องได้ชั่วครู่ก็ไม่มีเสียงแล้ว กระแสลมมันแรงจนติดคอของฉัน

เมื่อก่อนเวลาที่เฉียวอี้ขับรถสปอร์ต ฉันจะไม่กล้านั่ง เพราะเธอจะขับแบบไม่คิดชีวิต ฉันกลัวเธอจะขับตกเหวเอามากๆ ทว่าวันนี้ฉันกลับไม่กลัวเลยสักนิด ฉันลอบมองใบหน้าอันตื่นเต้นเร้าใจและเปี่ยมไปด้วยแสงไฟของเธอ

ถ้าเฉียวอี้จะคบกับสีชิงชวนต่อ และถ้าเฉียวอี้เอาหนังสือหย่าให้ฉันเซ็น แล้วเธอก็ยังเป็นเพื่อนฉันต่อ คำถามที่ตามมาคือเธอยังคงเป็นเฉียวอี้คนเดิมในใจฉันเหมือนเดิมไหม?

บางทีเธออาจจะคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร เพราะยังไงซะฉันกับสีชิงชวนก็จะหย่ากันไม่ช้าก็เร็วอยู่แล้ว ทว่าแค่คิดก็รู้สึกไม่สบอารมณ์แล้ว

เฉียวอี้จอดรถริมทาง แล้วเบนสายตามองฉันด้วยความฉงนสนเท่ห์ “เอ๋! เซียวเซิง วันนี้เธอใจกล้ามากเลยนะ ฉันขับเร็วขนาดนี้เธอยังไม่กลัวเลย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)