ฉันหิวจนแสบท้อง จึงไปซื้อแซนวิชรองท้องที่ร้านกาแฟ ทันใดนั้นคนขับก็โทรมา
“คุณนายสี แย่แล้ว จู่ๆรถของผมก็เสียกลางทาง ทำไงดีครับ?”
ได้ฟังเช่นนั้นฉันจึงเกิดความกระวนกระวายใจขึ้น “เสียตรงบริเวณไหน?”
“ไม่ทราบครับ แต่มันสตาร์ทเครื่องไม่ติด เดี๋ยวผมขอดูเครื่องยนต์ก่อนครับ ห๊ะ!” เขาร้องตะโกนขึ้น “เหมือนเครื่องจะไหม้เลย ซ่อมไม่เสร็จง่ายๆแน่ ทำไงดีครับ ?”
“งั้นคุณโทรหารถลาก”
“ผมไปหาไม่ได้แล้วครับ”
“สีชิงชวนยังมีคนขับคนอื่นอีกไหม?”
“วันหยุดพอดีเลยครับ”
“งั้นทำไงดีล่ะทีนี้?” ฉันกัดแซนวิชไปคำหนึ่งลืมเคี้ยวและเผลอกลืนมันลงไปในท้อง เกือบสำลักตายซะแล้ว “บ้านตระกูลสีมีรถหลายคัน เอาแบบนี้ละกัน คุณเรียกรถลากมาลากรถคันนี้ของคุณไปก่อน จากนั้นก็กลับไปขับรถคันอื่นมารับเขาแทน”
“มีแค่ทางนี้ทางเดียวแล้ว” คนขับทอดถอนใจ “วันนี้คุณสีอารมณ์ไม่ค่อยดีด้วย”
หมายความว่าถ้าไปรับเขาช้า อาจโดนตำหนิติเตียนก็เป็นได้
คนรอบกายเขาต่างก็รู้ดีว่าวันนี้สีชิงชวนอารมณ์ไม่ดีจะต้องจบไม่สวยแน่เลย แม้เหนื่อยฉันก็คงต้องยอม
หลังรับสายจากคนขับฉันก็รู้สึกทานอะไรไม่ลง ไม่นานป๋ออวี่ก็โทรมาอีกสาย มีผู้จัดการใหญ่โทรหาเขาแจ้งว่าในงานเลี้ยงสีชิงชวนกระดกเหล้าเอาเป็นเอาตาย ให้เธอไปดูเขาหน่อย
ทำไมฉันถึงโชคร้ายได้ถึงเพียงนี้ ฉันคาบแซนวิชไว้ในปาก ควักธนบัตรสีแดงสองใบจากในกระเป๋าตังค์มาวางไว้บนโต๊ะ ไม่ทันจะให้พนักงานทอนเงินก็รีบวิ่งออกจากร้านกาแฟไปอย่างฉับไว
ว่าไปแล้วฉันก็เป็นถึงท่านประธาน ทำไมถึงกลายมาเป็นเลขาของสีชิงชวนได้ล่ะ?”
ฉันวิ่งไปถึงหน้าประตูหอประชุมเตรียมจะเดินเข้าไป แต่ดันถูกรปภ.ขวางไว้ “คุณผู้หญิง โปรดแสดงการ์ดเชิญด้วยครับ”
“ฉันเป็น...ของสีชิงชวน” ฉันคิดไปชั่วขณะก่อนจะเอ่ยขึ้น “เป็นเลขาค่ะ ได้ยินมาว่าเขาดื่มไปเยอะมาก ฉันขอเข้าไปดูหน่อย”
“คุณผู้หญิง ถ้าไม่มีการ์ดเชิญก็เข้าไปไม่ได้ครับ”
“หัวหน้าฉันอยู่ด้านใน”
รปภ.ชักสีหน้าใส่ ปราดตามองทีหนึ่ง จากนั้นก็ไม่สนใจฉันอีก
ฉันถอนหายใจด้วยความห่อเหี่ยว จู่ๆก็ได้ยินคนเรียกชื่อของฉัน “เซียวเซิง!”
ฉันเงยหน้าขึ้นมอง ฉินกวนนี่เอง
อ้อ เขาก็มาร่วมงานเลี้ยงนี้ด้วย เขาเป็นถึงเถ้าแก่ใหญ่จะมาร่วมงานก็ไม่แปลก
ฉันกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ รีบวิ่งเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว “คุณอาฉิน คุณก็มาที่นี่ด้วย”
“ทำไมถึงไม่เข้าไปข้างในครับ?”
“ฉันไม่ได้มาเป็นเพื่อนสีชิงชวน เป็นเพราะวันนี้ผู้ช่วยของเขาลากิจเพราะติดธุระ ฉันจึงมาทำหน้าที่แทน”
“ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่ามีภรรยาคนไหนทำหน้าที่แทนเลขาเลยครับ” ฉินกวนขมวดคิ้ว “ผมมีธุระด่วนจำเป็นต้องขอตัวก่อน” เขามองไปหารปภสองคนที่ยืนอยู่หน้าประตู “ท่านนี้คือคุณนายสี”
รปภ.รีบปล่อยผ่านทันที “คุณนายสีเชิญครับ”
ฉินกวนตบบ่าฉัน “ในบางครั้งไม่จำเป็นต้องนุ่มนวลก็ได้ แสดงอำนาจของตัวเองออกมาบ้าง
ฉันมีอำนาจที่ไหนกันล่ะ?
ฉันส่งยิ้มขอบคุณเขา “งานเลี้ยงเพิ่งเริ่มเอง จะไปแล้วหรือคะ?”
“ครับ พอดีว่ามีธุระด่วน” ฉิวกวนโบกไม้โบกมือให้ฉัน “ผมไปก่อนนะครับ”
โชคดีที่เจอฉินกวน มิเช่นนั้นฉันก็คงติดแหง็กอยู่หน้าประตู งานเลี้ยงอลังการมาก ข้างในมีผู้คนพลุกพล่าน กวาดตามองไปรอบๆก็ยังไม่รู้ว่าสีชิงชวนอยู่ตำแหน่งไหน
ฉันแทะขนมปังไปตามหาตัวเขาไป ในที่สุดก็เห็นสีชิงชวนอยู่จุดกึ่งกลางที่มีผู้คนล้อมรอบเต็มไปหมด ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนก็ล้วนเป็นจุดสนใจของผู้คนทั้งสิ้น ทุกคนต่างรุมแย่งตัวเขาเพื่อต้องการพูดคุยด้วย เขายกแก้วพร้อมชนกับคนนี้ทีคนโน้นที
เขาจ้องฉันตาเขม็ง จากนั้นก็ดึงแก้วออกจากมือฉัน ทำให้เหล้ากระฉอกออกมาโดนเสื้อของฉัน
“เดิมทีผมนึกว่าไอคิวของคุณคงจะเป็นท่านประธานไม่ได้ แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่าแม้แต่เลขาก็ยังเป็นไม่ได้เลย”
เขาประชดประชันฉันได้อย่างเจ็บแสบ แต่ก็ช่างเถอะ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะมาทะเลาะกับเขา ทันใดนั้นเองมีคนมาชนแก้วกับเขาอีก จู่ๆเขาก็ยกแก้วแล้วหันมามองฉัน “ถ้าคุณกลัวผมดื่มมากไป งั้นก็ดื่มแทนผมเลยซะสิ?”
ฉันดื่มไม่เก่งใช่ว่าเขาจะไม่รู้ เมื่อเที่ยงของวันวานได้ดื่มไปแค่สองขวด จากนั้นก็ดื่มน้ำโซดาแทนยังรู้สึกว่าตัวเองดื่มเยอะเกินไปเลย
ฉันฝืนใจ ในเมื่อรับปากป๋ออวี่ไปแล้วก็ต้องส่งคืนสีชิงชวนกลับในสภาพเดิม
ฉันหยิบแก้วในมือของเขามาชนกับอีกฝ่าย จากนั้นก็กระดกจนหมดแก้ว
ของเหลวสีเหลืองส้มผ่านปากลงไปยังท้อง รู้สึกได้ถึงความเย็นวูบวาบข้างใน เป็นเหล้าฝรั่งจึงไม่รู้สึกถึงความเผ็ดร้อนเหมือนดื่มเหล้าขาว แต่จะรับรู้ได้หลังจากนั้น
สีชิงชวนที่อยู่ด้านข้างยังคงยืนแกร่วอยู่ตรงนั้น ดีมาก ฉันยังดื่มได้อีก
คนที่มาชวนเขาดื่มมีมากมายหลายคน บ้างก็เป็นคนสนิทบ้างก็เลื่อมใสในตัวเขา ฉันคิดอยู่ในใจว่ายังไงแล้วดื่มหนึ่งแก้วสองแก้วหรือกี่แก้วก็ตามก็มีค่าเท่ากัน สู้ดื่มแทนเขาให้หมดทุกแก้วไปเลย เจอป๋ออวี่จะได้พูดได้อย่างเต็มปาก
ดังนั้นฉันจึงดื่มแทนเขาหมดทุกแก้ว
ตอนที่สายตาฉันมองไปยังสีชิงชวนแล้วเห็นเหมือนสาหร่ายทะเลที่พริ้วไหวไปมา ฉันจึงรู้ว่าตัวเองเมาแล้ว
เมื่อไหร่ที่ดื่มไปเยอะฉันก็อยากหัวเราะ ดังนั้นฉันจึงหัวเราะไม่หยุด
และเมื่อฉันได้หัวเราะขึ้นมาก็น่าจะดูดีเลยแหละ เฉียวอี้บอกว่าฉันหัวเราะแล้วกลายเป็นสาวหวานขึ้นทันที หวานแบบมดขึ้นเลยล่ะ
เท่าที่ฉันจำได้มีผู้ชายหลายคนปรายตามองฉัน และฉันก็ทักทายพวกเขาไปด้วย
โดยปกติฉันจะป๊อดมาก พอได้ดื่มเยอะหน่อยก็เฟรนลี่ขึ้นมาทันที
คนขับโทรหาฉัน ฉันกดเปิดลำโพง พยายามฟังสิ่งที่เขาพูดทางโทรศัพท์ให้เข้าใจ “คุณนายสี กฎจราจรตรงบริเวณนี้ไม่อนุญาติให้รถลากผ่าน ผมไปหาไม่ได้แล้วครับ ทำไงดี? งานเลี้ยงของคุณสีใกล้จะเลิกแล้วใช่ไหมครับ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
สนุกมากเป็นอะไรที่ลุ้นตามตลอดถึงนางเอกจะดูโง่ๆแต่ก็สนุกมากครับชอบแนวนี้มากก...
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...