ในเวลานี้ ศักดิ์ศรีนั้นสำคัญกว่าชีวิตงั้นเหรอ?
“โทรหาคุณหมอสวี ให้เขามาก็เพียงพอแล้ว”
ฉันมองไปทางคนสวนอย่างช่วยไม่ได้ เขากล่าว “ผมจะไปหาเหล่าจู”
เหล่าจูคือพ่อบ้านของที่นี่ คนสวนนั้นเดินไปหาพ่อบ้านแล้ว จากนั้นฉันจึงเดินกลับไปนั่งลงข้างกายและมองดูสีชิงชวนด้วยความเคารพ
“คุณเจ็บหรือเปล่า?”
เขาหลับตาลงและไม่สนใจฉัน
“เจ็บมากเลยใช่หรือเปล่า?” ฉันเป็นกังวลมากว่ากระดูกซี่โครงของเขาจะหักหรือไม่ เพราะว่าบนพื้นนั้นฉันไม่เห็นรอยเลือดเลยแต่เกรงว่าเขานั้นอาจจะมีอาการเลือดคลั่งภายในร่างกาย
หากว่าสีชิงชวนตาย เท่ากับว่าฉันได้ทำร้ายคนคนหนึ่ง คนตระหนี่เช่นเขาจะต้องกลายเป็นผีมาคอยหลอกหลอนฉันอย่างแน่นอน
ฉันกลัวมาก กลัวจนเริ่มร้องไห้ออกมา “ตรงนี้เจ็บหรือเปล่า?”
ฉันเหยียดมือออกไปและสัมผัสตรงบริเวณกระดูกซี่โครงของเขา ฉันผ่อนแรงลงไปมาก กลัวว่าเขาจะกระโดดขึ้นเพราะความเจ็บปวด
แต่ทว่าเขากลับไร้ซึ่งปฏิกิริยาตอบโต้ แม้แต่จะร้องออกมาก็ไม่มีเลยสักนิด
“สีชิงชวน ตรงนี้ไม่เจ็บใช่ไหม?”
“ถ้าคุณมาจับอีกครั้งผมก็จะเจ็บแล้ว!” ในที่สุดเขาก็เอ่ยออกมา
“คุณเจ็บจนชาแล้วใช่ไหม?”
“ต้องทำยังไงคุณถึงจะเงียบปาก?”
“คุณก็บอกฉันมาว่าตรงนี้น่ะเจ็บหรือเปล่า?”
“เจ็บมาก” เขากัดฟันตอบคำถามฉัน
โอ้ ก็สมเหตุสมผลดีแล้ว ฉันเงียบปากด้วยความเต็มใจ
ระยะเวลาสิบนาทีในระหว่างรอ หัวใจของฉันมีอาการเต้นระรัวและซับซ้อนเป็นอย่างมาก ฉันมองดูใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาที่กำลังนอนหงายอยู่ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าเขานั้นโดดเด่นมากจริงๆ
“สีชิงชวน หากคุณพิการ พวกเราก็จะไม่หย่ากัน ฉันจะดูแลคุณไปตลอดชีวิต”
“ความหมายของคุณคือ ผมไม่เพียงแต่จะพิการเท่านั้นแต่ยังจะต้องทุกข์ยากไปพร้อมกับคุณตลอดชีวิตใช่ไหม?”
ฉันเสียใจมากที่ไม่มีแม้แต่ความพยายามที่จะรู้สึกโกรธเขา ไม่ว่าสีชิงชวนคนนี้เวลาปกติเขาจะน่าเกลียดน่าชังมากแค่ไหน แต่ในทุกครั้งที่ฉันเกิดปัญหา เขาจะเป็นคนแรกที่เข้ามาช่วยฉัน
เหตุผลหลักคือการตอบสนองที่เร็วที่สุดของเขา คนอื่นยังไม่ทันจะมีปฏิกิริยาตอบโต้ แต่ทว่าเขานั้นกลับพุ่งตัวออกมาแล้ว
ครั้งนี้ คาดว่าร่างกายของเขานั้นไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ใด
ฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงรู้สึกเศร้าโศกเช่นนี้ เหมือนกับว่าสีชิงชวนกำลังจะต้องตายจริงๆอย่างไรอย่างนั้น
ความรู้สึกผิดภายในหัวใจของฉันนั้นหนักอึ้ง คนที่น่าเกลียดชังเช่นนี้ต้องมาตายเพราะฉัน ฉันเองก็รู้สึกทุกข์ใจเป็นอย่างมาก
ฉันร้องไห้จนสีชิงชวนนั้นหมดความอดทน “คุณกลับห้องของตัวเองไป ผมยังสามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้อีกสักหน่อย”
“ไม่ไป” ฉันร้องไห้จนภาพตรงหน้าพร่าเลือน สีชิงชวนในสายตาของฉันนั้นมองเห็นไม่ค่อยชัดเจนเท่าไรนัก
“คุณเช็ดหน้าของคุณหน่อย เหมือนผีสางอย่างไรอย่างนั้น”
ฉันค้นหาทั่วกระเป๋าของฉัน กระดาษทิชชูเพียงครึ่งแผ่นก็ยังหาไม่พบ
“ในกระเป๋าเสื้อโค้ทผมมีผ้าเช็ดหน้าอยู่”
ฉันร้องไห้และเดินไปหาเสื้อโค้ทที่เขาทิ้งไว้บนพื้น จากนั้นฉันก็พบผ้าเช็ดหน้าที่อยู่ด้านใน
ฉันสะอึกสะอื้นร้องไห้สั่งน้ำมูกและเช็ดหน้าด้วยผ้าเช็ดหน้าที่เป็นผ้าไหมของเขา ร้องไห้งอแงอยู่อย่างนั้น “คุณเป็นผู้ชายแมนขนาดนี้พกผ้าเช็ดหน้าติดตัวได้ยังไงกัน?”
คาดว่าเขาเองก็เกียจคร้านเกินกว่าจะตอบฉัน เขาใช้ความเงียบแสดงท่าทีต่อต้าน
ผ้าเช็ดหน้าของเขามีประโยชน์มาก ใบหน้าของฉันถูกเช็ดจนสะอาดสะอ้าน
จากนั้นหมอก็มาถึง เขาคุกเข่าลงบนพื้นและทำการตรวจร่างกายสีชิงชวน
“กระดูกซี่โครงไม่หัก” หมอบอกกับฉัน “ผมจะตรวจบริเวณอื่น”
เขาจับและสัมผัสไปยังส่วนอื่นบนร่างกายของสีชิงชวน “กระดูกขาไม่หัก ข้อเท้าไม่หัก กระดูกบริเวณคอไม่เป็นอะไร กระดูกสันหลังส่วนเอวก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร คุณชายสาม คุณยังจะนอนอยู่ตรงนี้ไปเพื่ออะไร?”
“นับว่ายังดี” หมอทอดถอนหายใจอย่างโล่งอก “เพียงแค่ผิวหนังถลอกเท่านั้น บริเวณเอวไม่ได้รับบาดเจ็บ เนื้อเยื่ออ่อนบริเวณไหล่ฟกช้ำ แต่ไม่ร้ายแรง คุณชายสามออกกำลังกายเป็นประจำ รู้ว่าควรใช้ท่าทางอย่างไรเพื่อป้องกันตัวเองเมื่อตกจากที่สูง”
ถ้าหากเป็นจริงเช่นนั้นก็ยอดเยี่ยมเลย
ฉันยืนอยู่ด้านข้างมองหมอล้างแผลให้สีชิงชวนด้วยไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์[1] บาดแผลของเขานั้นไม่ลึก แต่เป็นรอยถลอกยาวและหลายจุด การล้างแผลเช่นนี้คงจะเจ็บปวดมาก
อย่างไรเสียฉันก็รู้สึกเจ็บแทนเขา
สีชิงชวนนั้นมีความอดทนเป็นอย่างมาก เขาไม่ร้องออกมาสักแอะ
ฉันไม่อยากมองเช่นนี้ แต่ทว่าฉันต้องช่วยหมอจัดอุปกรณ์และยา ราวกับพยาบาลที่ต้องส่งสิ่งของที่เขาต้องการ
แม้ว่าที่ผ่านมาความสัมพันธ์ระหว่างฉันและสีชิงชวนจะไม่ดีมากนัก แต่ความตั้งใจเดิมคือต้องการช่วยฉัน และตัวเขาเองต้องมาเจ็บ ในขณะที่เขาใส่ยา น้ำตาของฉันก็รินไหลอย่างไม่หยุดหย่อน เห็นได้ชัดว่าฉันไม่ใช่คนที่ชอบร้องไห้
น้ำตาของฉันหยดลงบนใบหน้าของสีชิงชวน เขาลืมตาขึ้นและมองมาที่ฉัน “คุณกล่าวอำลาหน้าศพอยู่หรือไง?”
“ไม่ใช่”
“ไปล้างหน้า”
“ฉันยุ่งอยู่” ฉันสูดจมูกและไม่ได้ยกมือขึ้นมาเช็ดน้ำตา
เขามองฉันด้วยความรังเกียจ “คุกเข่า”
“ฮะ?”
“คุกเข่าลง!” เขาเอ่ยย้ำอย่างหนักแน่น
ฉันมองไปที่หมอจากนั้นคุกเข่าลง เขาเหยียดมือออกมา ฉันตื่นตกใจจนก้นแทบจะแนบชิดกับพื้น ฉันคิดว่าเขาจะชกฉัน
แต่ทว่า มือของเขานั้นสัมผัสลงบนใบหน้าของฉันอย่างแผ่วเบา ใช้นิ้วหัวแม่มือที่แห้งและอ่อนนุ่มของเขาเช็ดน้ำตาบริเวณใต้ตาของฉัน
“เลิกร้องไห้ได้แล้ว” น้ำเสียงของเขาเหมือนมีความอ่อนโยนเล็กน้อย “น่าเกลียดมาก”
ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์[1] หมายถึง เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อฤทธิ์อ่อนสำหรับใช้ป้องกันการติดเชื้อจากบาดแผล รอยถลอก หรือแผลไฟไหม้ที่มีขนาดเล็ก ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide)
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
สนุกมากเป็นอะไรที่ลุ้นตามตลอดถึงนางเอกจะดูโง่ๆแต่ก็สนุกมากครับชอบแนวนี้มากก...
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...