พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 17

เกิดศึกมวยคู่ระหว่างฉันกับสีชิงชวนตลอดทาง เขาจะดันหน้าฉันออก แต่ฉันก็จะไปพิงไหล่เขาใหม่ทุกครั้ง ฉันไม่ได้พิสมัยไหล่เขาหรอก แต่เป็นเพราะร่างกายฉันอ่อนยวบ ไร้เรี่ยวแรงจะนั่งตัวตรง

เมื่อมาถึงบ้านตระกูลสี พวกคุณแม่สีลงจากรถก่อน ส่วนคนสุดท้ายก็คือสีชิงชวน

ฉันจับประตูรถแล้วโซซัดโซเซ แต่สีชิงชวนกลับเดินผ่านฉันหน้าตาเฉย มิหนำซ้ำยังเกือบชนฉันล้ม ฉันขบฟันด้วยความชิงชัง ถึงฉันจะป่วยตายก็จะไม่ขอร้องเขาเด็ดขาด

ฉันเดินโยกขวาทีโยกซ้ายทีเข้าไปภายในบ้าน เมื่อมาถึงห้องนอนก็ทิ้งตัวบนเตียงทันที

เฉียวอี้โทรหาฉัน บอกว่าเธอตามหาฉันแล้วแต่ไม่เจอ เลยฝากมือถือของฉันกับสีชิงชวน จากนั้นก็ถามว่าฉันไปไหน

ฉันบอกว่าฉันตากลมหนาวอยู่ในสวนดอกไม้ เธอบอกว่าฉันบ้าไปแล้วหรือไง?

ฉันไม่ได้บ้าหรอก แต่ฉันไม่สบาย

ฉันพูดด้วยอาการเวียนศีรษะ “ไว้คุยกันวันหลังนะ ฉันง่วงแล้ว”

ฉันดึงผ้าห่มคลุมหัวแล้วนอน ทว่ากลับรู้สึกคอแห้ง ซึ่งในห้องนอนของฉันไม่มีตู้เย็น แต่ห้องนอนของสีชิงชวนมี ถ้าลงไปดื่มชั้นล่างก็จะไกลเกินสำหรับฉันในตอนนี้

เพราห้องนอนของสีชิงชวนอยู่ข้างห้องฉัน ฉันบิดประตูลูกบิดห้องนอนของเขาก็พบว่าเขาไม่ได้ล็อคประตู เป็นความเคยชินที่ดีเยี่ยมเลย

ฉันย่องเข้าไปเปิดตู้เย็น จากนั้นก็หยิบโซดาออกมาหนึ่งขวด จากนั้นก็แหงนหน้ากระดกเข้าปากครึ่งขวด น้ำโซดาเย็นๆ ไหลเข้าคออันร้อนวูบของฉัน มันทำให้ฉันสดชื่นมากเลย

ฉันพิงตู้เย็นแล้วเพลิดเพลินไปกับความเย็นที่ได้สัมผัส และเรออย่างสบายใจเฉิ่ม จากนั้นก็หยิบขึ้นมาอีกหนึ่งขวดแล้วหมุนกาย แต่ฉันกลับชนอกแกร่งของใครบางคนเข้า

ไม่ต้องเงยหน้าฉันก็รู้ว่าเป็นใคร สีชิงชวนยังไม่นอนหรือนี่?

ฉันเงยหน้าขึ้นก็เห็นเขาในชุดนอนยืนจ้องฉัน

“มาเอาน้ำดื่ม” ฉันชูขวดน้ำให้เขา “ห้องนอนของฉันไม่มี”

เขาไม่พูดอะไร ฉันเลยเดินอ้อมตัวเขา ทว่าเขากลับคว้าข้อมือฉันกะทันหัน “เซียวเซิง” เขาเรียกชื่อฉันเย็นเยียบ

“หา”

“ลูกไม้คุณเยอะจริงๆ คิดจะทำอะไรกันแน่?”

“ฉันเข้ามาเอาน้ำจริงๆ คอแห้งมากเลย”

“ชั้นล่างไม่มีเหรอ?”

“ไกลเกินไป”

“ไกลขนาดไหน?”

“เอ่อ” ฉันอยากบอกว่าตัวเองไม่สบาย จึงไม่มีแรงเดินลงไป

เขาเข้าใกล้ฉัน จากนั้นก็มองสำรวจฉัน “คุณยังไม่เปลี่ยนเสื้อเหรอ?”

เมื่อกี้ปวดหัวมาก จึงทิ้งตัวนอนแบบนี้เลย ใครจะไปรู้ว่าคอแห้งจนตื่น

ตอนนี้เหมือนไข้จะสูงขึ้น ฉันเดินซวนเซแล้วก็สะดุดไปอยู่ในอ้อมแขนของเขา

เขาน่าจะไม่ยินดีประคองตัวฉัน ทว่าฉันกลับเหมือนเถาวัลย์ที่พันตัวเขา

เพราะร่างกายของสีชิงชวนเย็น โดยเฉพาะนิ้วของเขาจะเย็นเป็นพิเศษ บวกกับชุดนอนอันนุ่มลื่นและเย็นนิดๆ ฉันได้กอดแล้วก็รู้สึกสบายยิ่ง

ดังนั้นฉันจึงกอดแขนเขาไม่ปล่อย เสียงยิ้มเย็นของเขาลอยเหนือศีรษะของฉัน “ที่แท้ก็คิดแผนจะมายั่วผมที่ห้องนี่เอง”

เขาจะพูดยังไงก็แล้วแต่ ตอนนี้ฉันรู้สึกปวดหัวจากพิษไข้มาก ทว่าเขาดันแกะตัวฉันออก จากนั้นก็ผลักฉันออกจากห้องนอนของเขา

ก่อนจะเกิดเสียงปัง!ขึ้น ประตูด้วยระยะห่างจากจมูกของฉันเพียงหนึ่งเซนติเมตร

ฉันหลับตาพริ้ม เขากลับดึงแขนของฉัน “มองได้แต่กินไม่ได้แบบนี้ คุณกลับห้องตัวเองไปเลย”

“ฉันปวดหัว” ฉันพลิกกายหนึ่งตลบ “ขอนอนคืนหนึ่ง”

ฉันไม่รู้หรอกว่าเขาจะทำหน้ายังไง รู้เพียงว่าฉันปวดหัวจะตายอยู่แล้ว ถึงเขาจะโยนฉันออกไป แต่ฉันก็ไม่ไปหรอก ทว่าต่อมาเหมือนเขาจะไม่ทำแบบนั้นแล้ว

ฉันนอนสะลึมสะลือบนเตียงใหญ่ของเขา ทุกครั้งที่ฉันเป็นไข้หรือไม่สบาย ฉันจะนึกถึงคุณแม่ของฉันตลอด

ตอนสมัยฉันยังเด็ก หากฉันไม่สบายนิดหน่อย อย่างเช่นไอเล็กน้อย คุณแม่ก็จะกลุ้มใจมาก และเวลาที่ฉันเป็นไข้ คุณแม่ฉันจะนั่งเช็ดตัวให้ฉัน จนฉันรู้สึกเย็นสบาย

ฉันลืมตาพรืบ มองเห็นมีคนหนึ่งนั่งข้างเตียงฉันเลือนราง เขาที่อยู่ใต้แสงไฟช่างพร่ามัวยิ่ง

แต่เขาไม่ได้เช็ดตัวให้ฉัน หากแต่เป็นการถือกรรไกรแล้วตัดเสื้อบนกายฉัน

ฉันอยากตะโกนด่าเขาว่าโรคจิตเหลือเกิน ทว่าร่างกายอ่อนล้าจนไม่มีแรงพูด

หากจะพูดถึงคนที่ไร้ความเป็นมนุษย์ สีชิงชวนก็ต้องได้อันดับหนึ่งเป็นแน่ ฉันไม่สบายขั้นนี้แล้ว สัญชาตญาณสัตว์ร้ายของเขายังสำแดงฤทธิ์เดชอีก

ฉันจ้องด้วยดวงตาอันพร่ามัว ทว่ากลับรู้สึกเย็นบริเวณผิวหนัง ราวกับคุณแม่กำลังเช็ดตัวให้ฉันอยู่ ฉันคงเป็นไข้จนเกิดปัญหาด้านการวิเคราะห์เหตุการณ์เป็นแน่ ไม่งั้นสัตว์ร้ายอย่างสีชิงชวนจะใจดีกับฉันขนาดนี้เหรอ?

ฉันคิดถึงคุณแม่จัง อยากมีคนที่รักฉันโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆสักคน

ฉันรู้ว่าคุณพ่อก็รักฉันเหมือนกัน มิฉะนั้นคงไม่พาฉันกลับเข้าบ้านตระกูลเซียวหรอก และยังบอกให้แม่เลี้ยงเอ็นดูฉันเหมือนลูกแท้ๆด้วย เพียงแต่แม่เลี้ยงจะดีกับฉันก็ต่อเมื่ออยู่มีคุณพ่ออยู่เท่านั้น แต่ลับหลังคุณพ่อคืออีกมาตรฐานหนึ่ง

คุณพ่อทำงานก็เหนื่อยเกินพอแล้ว และคนในบ้านตระกูลเซียวก็ล้วนเป็นพวกผลาญเงินกันทั้งนั้น ฉันไม่อยากให้ท่านต้องมีเรื่องรำคาญใจอีก

ฉันจับมือของคุณแม่มาแตะหน้าฉัน มันช่างนุ่มและสบายเหลือเกิน

“คุณแม่” ฉันพูด “หนูคิดถึงแม่ค่ะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)