พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 178

ไม่นานยัยเซ่อเบธก็นำอาหารขึ้นมาเสิร์ฟ ฉันเพิ่งสังเกตเห็นว่าอาหารเช้าวันนี้เป็นอาหารจีนและเป็นเมนูเส้นหมี่ที่ฉันชอบด้วย

ฉันทานอาหารไปด้วยฟังพวกเขาพูดคุยไปด้วย ได้ความว่าตอนนี้เกาะสุริยากำลังเริ่มดำเนินการแล้วและมีการซื้อเรือสำราญมาแล้วหลายลำ ตอนนี้กำลังวางแผนเรื่องเส้นทางเข้าเกาะที่สั้นที่สุดอยู่

“ผมจะไปเกาะสุริยา คุณช่วยจัดการวันว่างที่ใกล้ที่สุดให้ผมที ส่วนเรื่องเรือสำราญผมจะไปทดลองเองแล้วจะไปดูด้วยว่างานดำเนินการไปถึงไหนแล้ว” สีชิงชวนพูดกับป๋ออวี่

“ได้ครับ เดี๋ยวผมจัดการให้ ได้ยินมาว่าคุณเซียวซือเองก็เคยบอกผมว่าอยากไปดูด้วยเหมือนกันครับ”

“หล่อนเป็นคนรับผิดชอบจะไปก็ไม่ผิด” จู่ๆ สีชิงชวนก็ใช้ปากกาแตะปลายจมูกของฉัน “เซียวเซิงคุณไปด้วยสิ”

ฉันกำลังมีความสุขอยู่กับการกินอยู่เลย จู่ๆ ก็พูดชื่อฉันขึ้นทำเอาฉันแทบสำลักออกมา

“ทำไมฉันต้องไปด้วย?”

“เซียวซือก็ไป”

“ฉันรู้ แต่ว่าทำไมเซียวซือไปแล้วฉันต้องตามไปด้วย?”

“เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย” เขาตอบสั้นๆ ได้ใจความ

เอาเถอะประชาสัมพันธ์ของสีชิงชวนทำงานละเอียดจริงๆ

“ไปเมื่อไหร่?”

“สามวันหลังจากนี้ คาดว่าแผลของคุณคงหายบ้างแล้ว”

ช่างเอาใจใส่ดีเหลือเกิน

“แล้วงานแถลงข่าวล่ะ?”

“รอให้กลับจากเกาะสุริยาก็ไม่สายเกินไป ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายสักหน่อย”

มีแต่เขานั่นแหละที่คิดว่าไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย

สีชิงชวนพูดคุยเรื่องงานกับป๋ออวี่เสร็จก็ลงไปทานอาหารเช้า ส่วนฉันก็พูดคุยเรื่องงานแถลงข่าวกับป๋ออวี่ต่อ

เขาบอกว่า “เรื่องนี้คุณไม่ต้องกังวลใจไป เดี๋ยวผมจัดการเอง เพียงแต่คุณเซียวคิดหรือไม่ว่าหากคุณออกมาชี้แจงแล้วผลลัพธ์จะมีเพียงสองอย่างเท่านั้น”

“เชื่อหรือไม่เชื่อ”

“ใช่ครับ แต่ผลลัพธ์ต่อไปของทั้งสองอย่างเป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก”

“ยุ่งยากแค่ไหน?”

“คุณกับคุณสีจะถูกโจมตีจากคนที่ไม่เชื่อ คุณก็รู้ว่าความรุนแรงจากโซเชียลมีเดียน่ากลัวแค่ไหน”

“จริงๆ ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น แล้วคนที่เชื่อล่ะ?”

“คนที่สนับสนุนคุณสีมาโดยตลอดจะโมโหเรื่องที่คุณพูดออกไป อย่างเช่นเรื่องที่คุณเข้าใจผิดคิดว่าพวกผมเป็นเกย์ แล้วก็มังกรดำที่ดำมาจากเม็ดกระดุมคู่นั้น รวมไปถึงเรื่องของคุณกับทนายครั้งก่อนที่ถูกปาปารัสซี่ถ่ายไว้ได้ด้วยครับ”

“สีชิงชวนยังไม่ถือสาเลยแล้วเกี่ยวอะไรกับพวกเขา?”

“แฟนคลับเป็นสิ่งที่บ้าคลั่งมาก”

“แฟนคลับ? สีชิงชวนมีแฟนคลับด้วยเหรอ?”

“อย่าว่าแต่คนอย่างคุณสีเลย ตอนนี้ไม่ว่าสายงานไหนต่างก็มีแฟนคลับทั้งนั้น”

ผู้คนในโซเชียลเดี๋ยวนี้ไม่มีอะไรทำแล้วหรือไงกันหรือว่ารู้สึกว่างเปล่าเกินจนต้องหาไอดอลคนหนึ่งมาเป็นที่บูชา เพื่อเติมเต็มความว่างเปล่าในใจของตัวเอง

ฉันคิดแล้วคิดอีก “ไม่สนใจอะไรมากแล้ว ไม่ว่ายังไงก็ต้องชี้แจง”

“คุณรู้ว่าคุณสีไม่สนใจเรื่องนี้?”

“เขาไม่สนใจได้ แต่กับสีซื่อกรุ๊ปไม่ได้”

ป๋ออวี่ยืนอยู่ตรงปลายเตียงและจ้องมองฉันอยู่นาน

ความรู้สึกที่ป๋ออวี่มองฉันต่างจากสีชิงชวน ถึงแม้จะถูกเขาจ้องมองอยู่นานก็ไม่รู้สึกอึดอัดหรือว่าเหมือนถูกเข็มทิ่มแทงเลย

แต่สีชิงชวนต่างออกไป

“คุณเซียว” เขาเงียบอยู่นานพอควรจึงจะปริปากพูด “ความจริงแล้วผมไม่แนะนำเท่าไหร่”

ฉันสงสัยจริงๆ “เพราะอะไร? ชี้แจงไปแบบนี้ก็เป็นผลดีต่อคุณ สีชิงชวนและสีซื่อกรุ๊ปด้วย”

“ผมรู้ครับ แต่ว่ามันไม่เป็นผลดีต่อคุณ ไม่จำเป็นต้องเอาคุณไปเสี่ยงหรอกครับคุณเซียว” น้ำเสียงของเขามีความหมายของการเกลี้ยกล่อมปนอยู่ “เรื่องเล็กน้อยแค่นี้คุณสีรับได้อยู่แล้ว”

“สีชิงชวนสั่งให้คุณมาเกลี้ยกล่อมฉันใช่ไหม?” เมื่อกี้เขายังตอบตกลงอยู่เลย

“นายมาทำอะไรที่เซียวซื่อกรุ๊ป?”

สีจิ่นยวนยังไม่ทันได้ตอบก็มีเสียงของเฉียวอี้ดังมาจากลำโพง “ไอ้คนขี้แพ้ นายเอาโทรศัพท์ฉันไปไหน?”

น้ำเสียงของสีจิ่นยวนลับๆ ล่อๆ “วันนี้ผมต้องไปตรวจซ้ำ คุณไปเป็นเพื่อนผม”

“ตระกูลสีมีคนมากมายขนาดนั้น ไม่มีคนไปเป็นเพื่อนนายเลยหรือไง?”

“ก็ผมไม่รู้ว่าต้องบอกหมอยังไง ถ้าเขาถามผมว่าใช้ยาอะไรทำไมถึงหายเร็วขนาดนี้ผมจะตอบยังไง? ถ้าไม่บอกเขาก็คงคิดว่าการรักษาของเขาคงได้ผลมากอีก!”

ตอนนี้ฉันอยู่ที่บ้านพักตากอากาศของสีชิงชวนจะไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนเขาได้ยังไง?

หมาน้อยขี้อ้อน “เซียวเซิงคุณไปเป็นเพื่อนผมนะๆ อีกอย่างคุณไม่ทายาให้ผมหลายวันแล้วด้วย เมื่อวานผมทายาด้านหลังเองจนแขนพลิกแล้วด้วย ตอนนี้แค่ยื่นแขนออกไปก็เจ็บแล้ว”

“นั่นเป็นเพราะนายโง่เอง” ฉันพูดแบบนี้ก็จริง แต่น้ำเสียงกลับนุ่มนวลลงโดยไม่รู้ตัว

ทำยังไงดี?

ฉันบิดตัวไปมารู้สึกว่าไม่ได้ปวดหลังขนาดนั้นแล้ว

ความจริงขยับได้ปกติแล้ว แต่ว่าถ้าสีชิงชวนรู้เขาต้องไม่ยอมให้ฉันออกไปแน่

ฉันแอบแง้มประตูดูลาดเลา ไม่เห็นเงาของสีชิงชวน

ฉันพูดเสียงต่ำลง “เอาอย่างงี้ นายให้เฉียวอี้ขับรถพาคุณมารับฉัน เดี๋ยวฉันส่งโลเคชั่นให้หล่อน”

“ทำไมต้องให้เฉียวอี้ขับด้วย คุณขับรถไม่ได้เหรอ?”

“ใบขับขี่ฉันถูกยึดน่ะ อีกอย่างฉันบาดเจ็บด้วย พวกเราที่เป็นคนแก่คนป่วยต้องมีคนปกติอย่างเฉียวอี้อยู่ด้วยถึงจะถูก”

“หล่อนปกติจริงไหมไม่รู้ พิการทางสมองเป็นโรคร้ายแรงนะ”

พวกเขาสองคนชอบทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ฉันพูดได้เพียง “ถ้านายไม่อยากโดนหล่อนต่อยก็เงียบปากไป”

“เซียวเซิง คุณเป็นอะไรทำไมถึงบาดเจ็บ?”

“เกี่ยวอะไรกับนาย?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)