ฉันว่าสีชิงชวนเปรียบเสมือนยาพิษ แถมยังเป็นพิษชนิดที่ร้ายแรงกว่ายาเบื่อหนูซะอีก ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ดีๆถึงอยากปลูกฝังสิ่งเหล่านี้ให้กับฉัน ฉันก็รับเข้าหูขวาทะลุออกหูซ้ายน่ะสิ ป๋ออวี่มาส่งเสื้อผ้าให้เขา ในห้องผู้ป่วยของฉันมีห้องอาบน้ำส่วนตัว เขาได้เข้าไปอาบน้ำ ป๋ออวี่ยืนข้างเตียงฉันแล้วพูดคุยกับฉันสองสามคำ
“ผลตรวจของวันนี้ออกมาหรือยังครับ?”
“ใช่ ไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก แค่ปอดอักเสบเฉยๆ พักผ่อนไม่กี่วันก็หายแล้วล่ะ”
“คุณได้รับความกดดันเยอะเกินไป จนทำให้เครียดหรือเปล่า?”
ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองเครียดไหม แต่โดยรวมยังถือว่าไหวอยู่นะ
“จนถึงตอนนี้ คนของเซียวซื่อกรุ๊ปยังไม่มีใครมาเยี่ยมคุณเลยเหรอ?”
จู่ๆป๋ออวี่ก็ถามเรื่องนี้ขึ้นมา ฉันรู้สึกสับสนเล็กน้อย
“ทำไมพวกเขาถึงต้องมาเยี่ยมฉันด้วย? อีกอย่างพวกเขาคงยังไม่รู้เรื่องที่ฉันเข้าโรงพยาบาลด้วยล่ะมั้ง”
“พวกเขาทราบแล้วครับ” ป๋ออวี่มองฉัน “ผมเป็นคนปล่อยข่าวออกไปเอง”
“ทำไมถึงทำแบบนั้นล่ะ?”
“คุณสีเป็นคนสั่งครับ” ป๋ออวี่ไม่ได้อธิบายอะไร พอฉันได้ยินชื่อของสีชิงชวน ก็ไม่อยากจะซักถามอะไรต่อแล้ว
สีชิงชวนชอบทำอะไรไม่มีเหตุผลอยู่แล้ว ฉันไม่จำเป็นต้องเอามาคิดให้ตัวเองปวดหัวหรอก หลังจากที่สีชิงชวนอาบน้ำเสร็จออกมา ใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนที่ทำมาจากไหมแท้ ฉันรู้สึกว่าเขาชอบสีฟ้าจริงๆ และยังชอบใส่เสื้อเชิ้ตที่ทำจากไหมแท้อีกด้วย ผ้าชนิดนี้จะพลิ้วไหวเมื่อลมพัด ทำให้เขาเหมือนดั่งคนที่เดินออกมาจากในภาพวาดเลย ขอแค่เขาอย่าเอ่ยปากด่าคน ไม่ยิ้มแบบชวนขนลุก เขาก็จะเป็นคนที่น่าหลงใหลที่สุดในโลก เขาใช้ผ้าขนหนูสีขาวเช็ดผม ผมของเขาเริ่มยาวเล็กน้อย เวลาผมเปียกดูฟูมาก เหมือนมันฝรั่งที่มีขนขึ้นเต็มตัว
“เซียวเซิง” เขาเดินมายืนที่ปลายเตียงของฉัน “โทรหาเลขาของคุณ แจ้งให้ผู้บริหารระดับสูงของเซียวซื่อกรุ๊ปมาประชุมที่นี่”
“ทำไมอ่ะ?” ฉันรู้สึกว่างานของฉันไม่ได้ยุ่งมากจนถึงขั้นต้องมาประชุมที่โรงพยาบาล ฉันไม่ใช่เขาสักหน่อย ที่ต้องจัดการเรื่องต่างๆทุกวัน
“คุณไม่ได้ไปที่บริษัทสองวันแล้วนะ”
“ถึงฉันจะไม่ได้ไปสองปี การทำงานของเซียวซื่อกรุ๊ปก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอก”
ฉันพูดความจริง แต่ทำไมเขาถึงได้ทำหน้าบึ้งก็ไม่รู้
“งั้นขอถามหน่อย คุณยังมีตัวตนอะไรอยู่ในเซียวซื่อกรุ๊ปอีก? ตำแหน่งประธานบริษัทของคุณมีหรือไม่มีก็ได้งั้นสินะ?”
“อันที่จริงมันก็เป็นแบบนั้นอยู่แล้ว” ฉันพึมพำ
“การดูแคลนตัวเองไม่ได้ช่วยให้คุณดูแลเซียวซื่อกรุ๊ปได้ดีขึ้นหรอกนะ” เขาโยนผ้าขนหนูที่ใช้เช็ดผมให้กับป๋ออวี่ “เธอไม่ยินดีที่จะโทร งั้นคุณช่วยไปติดต่อสาวห้าวคนนั้นให้หน่อย ให้หล่อนบอกเลขาอีกที”
ตอนแรกฉันยังอยากปลอบโยนเขา เรื่องที่เขาถูกคุณย่าทุบตี แต่สิ่งที่เขาปฏิบัติต่อฉันในตอนนี้มันโหดร้ายมาก ความเห็นอกเห็นใจที่ฉันมีก็หายไปทันที สิ่งที่สีชิงชวนสั่ง แน่นอนว่าป๋ออวี่จะต้องรีบไปปฏิบัติทันที
สีหน้าของพวกผู้จัดการเปลี่ยนไปหมด โบกไม้โบกมือและส่ายหัวไปมา “ไม่ๆๆ พวกเราไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นครับ เพราะประธานเซียวกำลังป่วย เลยไม่อยากให้เป็นห่วงอะไรมากน่ะครับ”
“ถึงแม้ประธานเซียวจะป่วย แต่ก็ยังเป็นห่วงบริษัท จากนี้ไปพวกคุณจะต้องมารายงานการทำงานหลังเลิกงานของทุกวัน” สีชิงชวนยกแขนขึ้นมาดูนาฬิกา “ให้เวลากับพวกผู้จัดการที่ไปสังสรรค์สิบห้านาที ไม่รู้ว่าจะมาโรงพยาบาลกันทันไหม?”
พวกเขานิ่งไปสักพัก แล้วรีบหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าเสื้อ เดินออกไปโทรเรียกพวกผู้จัดการที่ยังไม่ได้มาทันที ตอนแรกฉันอยากพูดอะไรกับสีชิงชวนนิดหน่อย แต่กลับเห็นเขาลุกขึ้นมาแล้วเดินออกนอกห้องไป
ฉันไม่เข้าใจ ว่าทำไมเขาถึงต้องทำแบบนี้ เฉียวอี้ยืนอยู่ข้างฉันแล้วพูดอย่างเฉยชา “สีชิงชวนต้องไม่ปกติแน่ๆ เขาทารุณพนักงานของตัวเองก็พอแล้วสิ ทำไมต้องมาทารุณของเธออีกด้วย?”
“หรือเพราะคิดว่าทารุณฉันแค่คนเดียวแล้วมันไม่สะใจหรือเปล่า?”
“เธอนี่ก็ทารุณง่ายเกินไป๊” เฉียวอี้ผลักหัวฉัน เป็นเพราะฉันมีไข้ น้ำหนักมือของหล่อนจึงค่อนข้างอ่อนโยนกว่าปกติ ไม่ได้ผลักฉันจนหัวทิ่ม “เธอดูออร่าของสีชิงชวนสิ ไม่ได้อยู่แค่ในรัศมีแปดร้อยเมตร หากว่าเธอได้ความน่าเกรงขามของเขามาสักนิด ผู้บริหารระดับสูงพวกนั้นคงไม่กล้าไม่มากันหรอก เธอต้องรู้ไว้ด้วยนะ ว่าฉันกับหร่วนหลิงถึงกับต้องโทรแจ้งทีละคนๆ ทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าท่านประธานแอดมิดโรงพยาบาล ถึงจะไม่มารายงานการทำงาน แค่มาเยี่ยม ก็ยังหาข้ออ้างต่างๆนาๆไม่ยอมมากัน เธอนี่ก็ช่างไม่มีความน่าเกรงขามอะไรซะเลย”
สิ่งที่เฉียวอี้ถนัดที่สุดคือการโรยเกลือใส่บนแผลให้คนอื่นรู้สึกเจ็บมากขึ้น หรือไม่ก็ซ้ำเติมคนอื่น ทั้งๆที่รู้ว่าคนทั้งบริษัทรวมไปถึงพนักงานต้อนรับมีเพียงไม่กี่คนที่จริงใจกับฉัน ทำไมถึงไม่รู้จักไว้หน้าฉันสักหน่อยกันนะ คราวที่แล้วสีชิงชวนได้ไปที่บริษัทเพื่อจัดวางระเบียบใหม่ ตอนนี้ถือว่าดีขึ้นมาหน่อยแล้ว ยังไงเวลาที่พนักงานเห็นหน้าฉัน จะทำความเคารพแล้วเรียกฉันว่าท่านประธาน แต่ฉันรู้ดีว่ามันก็เป็นแค่ภายนอก ความเคารพและความเกรงขามต้องออกมาจากภายใน แต่ฉันกลับรู้สึกว่ามันไม่มีเลย
พอผู้บริหารระดับสูงโทรบอกกันเสร็จก็มาบอกฉัน “พวกเขายกเลิกงานสังสรรค์แล้วครับ ตอนนี้กำลังมาที่นี่กันครับ”
ฉันเตรียมบอกเฉียวอี้ให้ไปชงชา โทรศัพท์ของฉันก็มีเสียงแจ้งเตือนจากข้อความดังขึ้น สีชิงชวนเป็นคนส่งวีแชทมา แล้วตัวเขาไปไหนแล้วล่ะ? เมื่อกี้เฉียวอี้ยังบอกอยู่เลยว่าเขาอยู่ในห้องผู้อำนวยการ อยู่ใกล้กันขนาดนี้จะส่งวีแชทมาทำไม?
ฉับหยิบโทรศัพท์มาดู มีข้อความสั้นๆจากเขา “ให้เฉียวอี้บอกกับพวกเขาว่า คุณจะพักผ่อนสักครู่ ให้พวกเขารอกันก่อน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
สนุกมากเป็นอะไรที่ลุ้นตามตลอดถึงนางเอกจะดูโง่ๆแต่ก็สนุกมากครับชอบแนวนี้มากก...
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...