พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 368

ด้วยออร่ารังสีอันแข็งแกร่งของเขาสามารถบีบบังคับผู้อื่นได้ หลี่เฉิงหมิงพยักหน้าอย่างรวดเร็วราวกับกำลังโขลกกระเทียม “ครับ ครับ รับทราบครับ คำพูดของประธานเซียวผมก็ได้ยินครับ ผมเองก็ไม่ใช่คนปากมาก ผมจะเอาไปพูดมั่วซั่วกับคนอื่นได้อย่างไร? ผมไม่ได้เป็นคนชอบซุบซิบนินทาเหมือนพวกผู้หญิงเสียหน่อย”

ฉันจ้องมองเขา ฉันเองก็เป็นผู้หญิง ฉันไม่เห็นจะปากพล่อยเหมือนกับเขาเลย

สีชิงชวนจับมือฉันไว้และเดินจากมา เขาชอบเอามือไพล่หลัง จากนั้นจูงมือฉัน ราวกับว่าเป็นชายชรากำลังจูงวัวอย่างไรอย่างนั้น

ฉันเดินตามเขาพลางหันศีรษะกลับไปมองหลี่เฉิงหมิง เขาจ้องมองพวกเราอยู่ตลอดด้วยสีหน้าที่ยากจะอธิบายได้

“คุณดูโทรศัพท์ของเขาไปทำไม?” ขณะที่เดินเข้าลิฟต์ ฉันเอ่ยถามสีชิงชวน

“ดูการแบ่งแยกพรรคพวกภายในเซียวซื่อกรุ๊ปของพวกคุณ”

“จากสมุดโทรศัพท์ของเขางั้นเหรอ?”

“อือ เดี๋ยวผมจะจัดการรายชื่อให้คุณทีหลัง คนเหล่านี้คุณต้องระวังไว้ด้วย”

“คุณคัดลอกมาเหรอ?”

“ผมใช้ลูกตาผมคัดลอกได้งั้นเหรอ?” เขาหัวเราะเยาะฉัน

“งั้นคุณจดมาได้อย่างไรล่ะ?”

เขาใช้นิ้วจิ้มหน้าผากของฉัน “สมองไง เด็กโง่ ใช้สมอง”

ฉันเองก็มีสมอง แต่ใช้งานได้ไม่ดีเท่าเขา

ภายในลิฟต์ มือของเขาเคลื่อนขึ้นลงบนร่างกายของฉันอีกครั้ง ฝ่ามือของเขาสัมผัสเสื้อเชิ้ตตัวบางของฉันและเลื่อนลงอย่างเชื่องช้า

ฉันผลักมือของเขาที่กำลังยุ่มย่ามอยู่ตรงบริเวณเอวของฉันออก “คุณทำอะไรเนี่ย?”

“เหมือนว่าตรงนี้ของคุณจะมีแมลงเกาะอยู่” มือของเขาเป็นเหมือนปลาไหล เมื่อหลุดของจากมือของฉัน เขาก็ยังเคลื่อนไปยังบริเวณเอวของฉันอีกครั้ง

เขาหน้าไม่อายเลย ไหนแมลงที่เกาะอยู่บนร่างกายของฉัน?

“เฮ้ สีชิงชวน” มือของเขาเคลื่อนเข้ามาภายใต้เสื้อผ้าของฉันแล้ว ฝ่ามือของเขาร้อนผ่าวและแนบลงตรงผิวบริเวณเอวของฉัน ราวกับว่าฉันนั้นได้รับข้อความคลุมเครือบางอย่าง

ฉันเงยหน้าจ้องมองดวงตาของเขา นัยน์ตาของเขานั้นลุกโชนไปด้วยเปลวเพลิง

โอ้ อันตรายมาก

“สีชิงชวน” ฉันสัมผัสใบหน้าของเขาไว้ในขณะที่เขากำลังโน้มตัวเข้ามาหาฉัน “ที่นี่คือลิฟต์ คุณอย่าคิดจะทำอะไรเพี้ยนๆ”

“คุณรู้ไหมว่าตอนนี้การถ่ายทำภาพยนตร์สั้นนั้นมีต้นทุนต่ำมากเท่าไร?” เขาเงยหน้ามองกล้องวงจรปิดภายในลิฟต์ หน้าไม่อายเลยจริงๆ

“หมายความว่าไง?”

“ต้นทุนต่ำมาก แต่ถ้าหากว่าพระเอกและนางเอกนั้นมีเสน่ห์มากพอ อย่างไรก็สามารถขายได้ หากำไรได้มากมายมหาศาลแน่นอน”

“คุณวางแผนจะทำภาพยนตร์สั้นเหรอ? คุณอยากเป็นพระเอกก็ไม่ต้องมาวุ่นวายกับฉัน ฉันไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน” ฉันไม่รู้เลยว่าเขานั้นจะหมกมุ่นแบบนี้ ฉันดิ้นรนออกจากอ้อมแขนของเขา

นับว่าโชคดีขณะนี้ประตูลิฟต์เปิดออก มีคนสองสามคนเดินเข้ามา สีชิงชวนก็ไม่ได้เข้ามายุ่มย่ามกับฉันอีก

พวกเรากลับมายังห้องพักผู้ป่วยของแม่เลี้ยง หล่อนยังคงหลับตาอยู่เช่นเดิม ฉันไม่แน่ใจว่าหล่อนยังคงเสแสร้งอยู่หรือว่าเสแสร้งจนหลับไปแล้วจริงๆ

“สีชิงชวน” ฉันเงยหน้ามองเขา “ปล่อยเซียวซือและพวกหล่อนเถอะ!”

ตอนนี้แม่เลี้ยงของฉันป่วย ฉันเลิกยืนกรานเรื่องการขอโทษของพวกเขาแล้ว

ครั้งนี้ในที่สุดสีชิงชวนพยักหน้า “ตกลง”

ฉันเห็นว่าลูกตาของแม่เลี้ยงนั้นกำลังขยับเขยื้อนอยู๋ภายใต้เปลือกตาของหล่อน

หล่อนคิดว่าจุดประสงค์ของหล่อนนั้นสำเร็จแล้ว แต่เมื่อหล่อนตื่นขึ้นจากการแสร้งทำเป็นหลับ คาดว่าหล่อนก็ยังคงทำเป็นไม่รู้

ฉันขอให้เซียวซือออกมาพูดคุยกับฉัน เธอไม่รู้ว่าฉันกำลังจะพูดอะไรกับเธอ เธอก้มศีรษะและเดินตามฉันออกมา

พวกเรายืนอยู่ตรงสุดปลายทางเดิน หน้าต่างกำลังเปิดอยู่ วันนี้ลมแรงมาก แทบจะพัดศีรษะของฉันจนปลิว

ฉันปิดหน้าต่าง เช็ดฝุ่นออกจากมือด้วยกระดาษเช็ดมือ ไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดจากส่วนไหน

“เซียวเซิง เธอมีเรื่องอะไรเหรอ?” เซียวซือเอ่ยถามด้วยเสียงแผ่วเบา เบาราวกับว่าเป็นเสียงที่ลอยมาจากด้านนอก

“วันนี้คุณน้ามาที่บริษัท ฉับพลันก็ล้มลงจากโต๊ะและหมดสติ” ฉันกล่าว

“อือ” เธอตอบอย่างแผ่วเบา “เรื่องนี้มีคนบอกฉันแล้ว เซียวเซิง ฉันรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเธอ ฉันจะไม่สร้างความลำบากให้กับเธอแน่นอน”

“ฉันไม่ได้จะมาอธิบายเรื่องนี้ ฉันจะบอกเธอ” ฉันหยิบเอกสารการตรวจร่างกายของแม่เลี้ยงออกจากกระเป๋าและยื่นให้กับเซียวซือ “อันนี้ เธออ่านและทำความเข้าใจก่อน จากนั้นพวกเราค่อยไปพูดคุยเกี่ยวกับแผนการเฉพาะกับหมอ”

“แผนอะไร?” เซียวซือไม่เข้าใจ เธอรับเอกสารและเปิดอ่าน เธออ่านด้วยความรวดเร็ว จากนั้นชำเลืองมองฉันและก้มหน้าอ่านอย่างละเอียด

“เนื้องอกในสมองซีกซ้าย?” เธอเอ่ยเสียงเสียงเบาหวิว จากนั้นมองชื่อของผู้ทำการตรวจอีกครั้ง

เธอชะงักไปชั่วขณะและเงยหน้าขึ้นราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่าง ฉันรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไร

ฉันบอกเธอ “ฉันรู้ว่าวันนี้คุณน้าแสร้งทำเป็นป่วย แต่ทว่าเอกสารฉบับนี้คือเรื่องจริง”

เซียวซือมองฉันเนิ่นนาน ราวกับว่าไม่เข้าใจว่าฉันกำลังพูดอะไร “ฮะ?”

“คุณน้าแสร้งทำว่าป่วยและเป็นลม แต่เมื่อได้ทำการตรวจก็พบว่ามีอาการป่วยจริงๆ ก็คืออาการที่เธอเพิ่งพูดออกมาเมื่อกี้”

“แม่ฉันเป็นเนื้องอกงั้นเหรอ?” ฉับพลันร่างกายเซียวซือสั่นสะท้าน ฉันกังวลว่าเธอจะทรุดลงกับพื้น เช่นนั้นฉันจึงรีบเข้าไปประคองเธอ

“ตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นเนื้อร้ายหรือเปล่า เธออย่าเพิ่งกังวลเลย”

“ดังนั้นนี่คือเหตุผลที่พวกเธอปล่อยพวกเราออกมางั้นเหรอ?” เซียวซือเบิกตากว้าง นัยน์ตาของเธอมีน้ำตาเอ่อล้นอย่างรวดเร็ว “ถ้าหากแม่ของฉันไม่ป่วย ฉันและเซียวหลิงหลิงก็คงจะไม่ได้ออกมาจากสถานที่แห่งนั้นใช่ไหม?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)