พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 375

โรงพยาบาลใหม่ที่แม่เลี้ยงย้ายมาเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่เพื่อนคนหนึ่งของเธอเปิด อุปกรณ์การรักษาล้วนมีความทันสมัย ที่นี่มีผู้เชี่ยวชาญหลายคน ที่สำคัญที่สุดคือไม่ว่าผลการตรวจจะออกมาเป็นยังไง เธอก็จะเชื่อถือมัน

แม่เลี้ยงเข้ามาพักได้ไม่นาน คุณหมอก็ให้เธอไปตรวจสแกนสมองส่วนลึก ฉันและเซียวหลิงหลิงรออยู่ข้างนอก

ฉันรู้ว่าขอแค่ฉันและเซียวหลิงหลิงได้อยู่ด้วยกันเมื่อไหร่ เธอก็จะไม่มีทางปล่อยฉันไปแน่นอน

เธอเอาแต่พูดฉอดๆ อยู่ข้างหูและใช้ปลายนิ้วที่เธอไว้เล็บแหลมๆ ของเธอจิ้มที่หน้าฉันอยู่ตลอดเวลา ขาดแค่จิกไม่โดนหน้าฉันเท่านั้น

ฉันบอกกับเซียวหลิงหลิง “ที่นี่เป็นโรงพยาบาลนะ คุณน้ากำลังตรวจอยู่ข้างใน พี่เบาเสียงหน่อยได้ไหม?”

“เซียวเซิง ดูไม่ออกเลยนะว่าเธอจะหน้าเนื้อใจเสือขนาดนี้”

ฉันขี้เกียจจะเสวนากับเธอจึงเบนหน้าไปอีกทาง แต่ไม่คิดว่าเธอจะหมุนตัวมาอยู่หน้าฉันและด่าฉันต่อ “เซียวเซิง ดูไม่ออกเลยนะเนี่ยว่าเธอเองก็เก่งใช่ย่อยที่เอาเซียวซือกับฉันเข้าสถานกักกันได้ ดูเหมือนเธอจะไปได้ดีในบ้านตระกูลสีนะ แม้แต่คุณหญิงท่านยังมาช่วยหนุนหลังให้เธอเลย เธอไปออเซาะฉอเลาะใส่พวกเขายังไงเหรอ? ดูท่าคงใช้วิธีเดียวกับที่ทำกับพ่อฉันล่ะสิ เธอไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลยสักนิด เขายังดูและเธอดีขนาดนี้อีก เธอบอกมาซิว่ายัยเด็กไม่รู้จักเจียมตัวอย่างเธอใช้วิธีอะไรมายั่วให้พ่อฉันหัวปักหัวปำได้ขนาดนั้นเหรอ?”

เซียวหลิงหลิงไม่มีเหตุผลเลยจริงๆ เธอยิ่งพูดยิ่งฟังดูไม่เข้าท่า เธอด่าจนน้ำลายกระเด็นมาโดนหน้าฉันหมดแล้ว

“เซียวหลิงหลิง พี่รู้ไหมว่าพี่พูดอะไรอยู่?”

“ให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะ ชายหญิงมันก็มีแค่เรื่องพวกนั้นนั่นแหละ อายุต่างกันแล้วไง? พ่อฉันก็ใช่ย่อยนะ เธอหน้าเหมือนแม่เธอ พอแม่เธอตาย เขามั่วแม่ไปแล้วก็ไปมั่วลูกอีก สุดยอดเลยจริงๆ!”

เซียวหลิงหลิงบ้าไปแล้วจริงๆ ที่กล้าพูดคำพูดพวกนี้ออกมา

ในตอนที่คำพูดพวกนี้ถูกพ่นออกมาจากปากเธอ ฉันก็ฟิวส์ขาดทันที

ความใจเย็นก่อนหน้านี้ของฉันก็ปลิวหายไปหมดแล้ว ฉันยกมือขึ้นตบหน้าเซียวหลิงหลิงอย่างรุนแรงโดยไม่ทันได้คิดอะไร

แถมยังตบซ้ายขวาสองทีติดๆ กันซะด้วย ทำให้ทั้งเซียวหลิงหลิงและฉันชะงักไปในทันที

ฉันไม่เคยตบหน้าใครมาก่อน และตอนที่ฉันอยู่กับเซียวหลิงหลิง ฉันเป็นฝ่ายโดนเธอตบมาโดยตลอด นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันตบเธอ

เซียวหลิงหลิงกุมใบหน้าของเธอไว้และเบิกตามองฉันอย่างงุนงง

ฉันเห็นแก้มซ้ายที่เธอไม่ได้ยกมือขึ้นมากุมไว้บวมแดงขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อกี้ฉันออกแรงไปเยอะเลย แม้แต่ตัวฉันเองก็ไม่รู้เลยว่าฉันใช้แรงไปเยอะขนาดนั้น

ผ่านไปครู่หนึ่งกว่าเธอจะตั้งสติได้ เธอชี้มาที่หน้าฉันด้วยนิ้วที่สั่นเทา “เซียวเซิง แกกล้าตบฉันเหรอ!”

เซียวหลิงหลิงพุ่งเข้ามาหาฉันเพื่อหวังจะแหกอกฉัน เธอพุ่งเข้ามาหาฉันเหมือนกับสิงโตตัวเมียที่กำลังโกรธตัวหนึ่ง

ฉันไม่ได้หลบ จากนั้นเธอก็ชูมือทั้งสองข้างขึ้นเพื่อมาจิกหน้าฉัน

เล็บของเธอทั้งยาวทั้งแหลม แถมยังทาเล็บอีก ถ้าเธอจิกหน้าฉันเป็นแผลขึ้นมา จะต้องอักเสบแน่ๆ

เซียวหลิงหลิงยกเล็บแหลมๆ ของเธอขึ้นมาและกำลังจะจิกหน้าฉันได้สำเร็จ

ในตอนนั้นเองก็มีมือคู่หนึ่งคว้ามือของเซียวหลิงหลิงไว้ และยังเอามือของเธอไปไขว้ข้างหลังอีกด้วย

เซียวหลิงหลิงกรีดร้องออกมา ฉันเองก็ยืนหอบหายใจ เพิ่งเห็นชัดๆ ในตอนนั้นเองว่าเจ้าของมือคู่นั้นก็คือสีชิงชวน

เขาผลักเซียวหลิงหลิงออกไป จากนั้นก็ปกป้องฉันให้ฉันอยู่ข้างหลังและหันมาถามฉัน “ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

ยังดีที่ยังไม่ทันได้เกิดเรื่องอะไร เขาก็มาถึงก่อนแล้ว

“คุณมาได้ไง?” ฉันถามสีชิงชวน

“ทำไมคุณไม่บอกผมว่ามาทำเรื่องย้ายโรงพยาบาลให้ฮวาหยุน”

“เซียวซือเพิ่งรับตำแหน่งซีอีโอได้ไม่นาน เธอไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับเซียวซื่อกรุ๊ปมาก เซียวซื่อกรุ๊ปก็ไม่ได้อยู่ในสถานะที่ขาดเธอแล้วจะดำเนินกิจการไม่ได้ แม่เธอตรวจเจอโรค แทนที่เธอจะมาอยู่กับแม่เธอแต่เธอกลับไปทำงานที่เซียวซื่อกรุ๊ป คุณคิดไหมว่าความรู้สึกส่วนใหญ่ที่เซียวซือมีมันเลือดเย็นมากๆ เลย?”

ที่จริงฉันคิดว่าถ้าอิงตามนิสัยเธอ การที่เซียวซือทำแบบนี้มันก็ไม่ได้แปลกอะไร แต่พอสีชิงชวนพูดมาแบบนี้ ฉันก็รู้สึกเหมือนว่ามันแปลกจริงๆ นั่นแหละ

“คุณวิเคราะห์หน่อย ว่าทำไมเธอถึงทำแบบนี้?”

เขายังให้ฉันใช้สมองอีก ฉันครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและจำต้องพูดออกมา “เซียวซือให้ความสำคัญกับตำแหน่งซีอีโอมาก เธออาจจะเป็นกังวลเพราะเรื่องที่เธอเข้าสถานกักกันจะทำให้เธอเสียตำแหน่งนี้ไปได้”

“อะไรอีก?” เขาถามฉันต่อ

ยังมีอะไรอีก? ฉันมองเขาอย่างงงงัน

“เธอกำลังใช้ความใจดีของคุณทำให้คุณตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เซียวเซิง คุณรู้ไหมว่าปัญหาใหญ่ที่สุดของคุณคืออะไร?”

ฉันจำได้ว่าคำถามนี้เขาเคยพูดกับฉันเมื่อวาน เขาบอกว่าฉันใจดีแบบไม่มีขอบเขต

เขาส่ายหน้า “คุณปฏิเสธไม่เป็น สำหรับบางเรื่องที่คุณไม่สามารถรับได้ คุณต้องหัดปฏิเสธให้เป็น”

เรื่องที่ฉันต้องเรียนรู้มีเยอะจัง เรียนด้านวิชาการ ด้านวัฒนธรรม แล้วยังต้องเรียนรู้ที่จะปฏิเสธอีก

“ตอนนี้คุณน้าป่วย สถานการณ์ของเซียวซือก็ไม่ดี แย่ทั้งหน้าทั้งหลัง ถึงยังไงฉันก็ต้องช่วยเธอ”

สีชิงชวนมองฉันอย่างไม่ละสายตาอยู่นาน สายตาของเขาแปลกมาก ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาต้องเมินเฉยใส่ฉันไปนานแล้วแน่ๆ

จู่ๆ เขาก็ยื่นมือออกมาลูบหัวฉัน “ยัยบื้อ ดูท่าคงหมดหวังแล้วที่จะทำให้คุณโตขึ้น งั้นผมคงทำได้แค่ปกป้องคุณแล้วล่ะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)