น้ำเสียงของสีชิงชวนอ่อนโยนมากจริงๆ เพราะงั้นจึงมีคำบางคำที่ดูเหมือนว่าฉันจะพูดไม่ออก
เพราะคำพูดพวกนั้นล้วนแล้วแต่เป็นการตั้งคำถามกับเขาด้วยความสงสัย
ฉันเองก็ไม่อยากคิดมากเกินควรและถามเขาออกไป ว่าเซียวซือในวันนี้มันจะใช่ฉันในวันพรุ่งนี้หรือเปล่า?
เพราะคำพูดพวกนี้ สีชิงชวนคงไม่ให้คำตอบอะไรกับฉันแน่นอน
ในเมื่อมันเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ งั้นฉันก็ไม่ถามดีกว่า
ถึงฉันจะไม่มีอย่างอื่น แต่ฉันก็มีญาณทัสนะที่รู้ตัวเองดี
เพราะงั้นตำแหน่งซีอีโอของเซียวซื่อกรุ๊ปจึงกลับมาอยู่มือฉันอีกครั้ง ถึงฉันจะไม่อยากย้ายห้องทำงานของฉันกลับไป แต่เมื่อฉันไปที่เซียวซื่อกรุ๊ปในอีกวันถัดมา หร่วนหลิงและเลขาคนอื่นๆ ก็ช่วยย้ายห้องทำงานของฉันกับเซียวซือให้เสร็จเรียบร้อยแล้ว
คนเหล่านั้นในบริษัทก็กลับมาเคารพฉันอีกครั้ง ถึงฉันจะรู้ว่าการเคารพแบบนี้มันเป็นแค่เปลือกนอกก็ตาม
เพราะการที่แม่เลี้ยงป่วยและเรื่องที่เซียวซือเข้าสถานกักกันทำให้พวกเธอหมดอำนาจลง ดังนั้นทุกอย่างในเซียวซื่อกรุ๊ปจึงเหมือนจะกลับมาเป็นของฉันอีกครั้ง
สถานการณ์ต่างๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วขนาดนี้จึงทำให้ทุกคนตั้งรับไม่ทัน
แต่ในใจฉันรู้ดีว่าทุกอย่างนี่มันเป็นเพราะสีชิงชวน
ทุกคนที่จับตามองฉันพวกนั้นล้วนแต่กำลังสังเกตการกระทำของสีชิงชวนด้วยกันทั้งนั้น
วันนี้สีชิงชวนทำดีกับฉัน ทุกคนก็จะย้ายข้างมาอยู่ฝั่งฉัน ถ้าวันไหนสีชิงชวนเบื่อฉันและทอดทิ้งฉัน คนพวกนั้นก็จะเหยียบย่ำฉันให้จมเท้าอีกครั้ง
ธรรมชาติของมนุษย์มันก็ปราศจากการตกแต่งแบบนี้แหละ ไม่ให้โอกาสอื่นกันฉันเลยสักนิด
คุณหมอบอกว่าเซียวซือเจ็บป่วยแค่เล็กน้อยเท่านั้น แต่เธอกลับอยู่โรงพยาบาลตลอดไม่ออกมาสักที ฉันเองก็ไม่กล้าไปเยี่ยมเธอ จึงทำได้เพียงให้หร่วนหลิงไปถามข่าวคราวเธอมาให้
หร่วนหลิงบอกว่าเซียวซือหมดอาลัยตายอยากมาก นอนอยู่แต่บนเตียงทั้งวัน คุณหมอกังวลว่าเธอจะคิดสั้นไปต่างๆ นานา ก็เลยไม่ให้เธอออกจากโรงพยาบาลและให้อยู่ในโรงพยาบาลตลอด ยังไงก็จะได้มีเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าดูเธอ
วันผ่าตัดของแม่เลี้ยงได้กำหนดไว้แล้ว ฉันตกใจมาก เพราะฉันพบว่าวันที่เธอต้องเข้ารับการผ่าตัดวันนั้นก็คือวันเดียวกันที่ฉันจะจัดงานวันเกิด
ฉันลองไปปรึกษาเฉียวอี้ดูว่าไม่จัดงานวันเกิดฉันแล้วได้ไหม หรือว่าจะจัดล่วงหน้าหรือย้อนหลังเอาก็ได้
เฉียวอี้ทำตาค้อนปะหลับปะเหลือกใส่ฉัน “เธอเคยเห็นใครเลี้ยงวันเกิดล่วงหน้าหรือย้อนหลังบ้าง?”
“แต่วันที่แม่เลี้ยงฉันผ่าตัด ฉันต้องไปเฝ้าเธอนะ?”
เฉียวอี้โกรธจนตัดสายใส่ฉัน ก่อนวางสายเธอยังตวาดฉันลั่นอีกด้วย “เซียวเซิง ยังไงฉันก็เตรียมทุกอย่างให้เธอพร้อมหมดแล้ว ถ้าวันนั้นเธอไม่มา งั้นเราสองคนก็ขาดกัน ครั้งนี้ฉันจะไม่ยอมพูดกับเธออีกเด็ดขาด!”
ช่วยไม่ได้ ฉันจึงไปอ้อนวอนสีชิงชวนอีกครั้ง ดูว่าเขาจะช่วยฉันโน้มน้าวเฉียวอี้ได้ไหม
ถึงปกติพวกเขาสองคนจะไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่ แต่พอเป็นเรื่องของฉัน ดูเหมือนพวกเขาสองคนจะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมากเป็นพิเศษ
เหมือนว่าสีชิงชวนกำลังยุ่ง ส่งของเขาที่ส่งออกมาเหมือนกำลังใช้ไหล่กับแก้มหนีบโทรศัพท์ไว้และพูดกับฉัน
เขาหัวเราะในลำคอ “คุณช่วยรู้จักการแบ่งแยกระหว่างศัตรูกับญาติให้มันชัดๆ หน่อยได้ไหม?”
“แต่ตอนนี้เซียวซือสภาพจิตใจไม่ค่อยดี เซียวหลิงหลิงก็ไว้ใจไม่ได้อีก แม่เลี้ยงผ่าตัดมันก็เป็นเรื่องใหญ่ ฉันไม่อยู่ที่นั่นด้วยก็คงไม่ดีเท่าไหร่”
เธอส่งชุดสีฟ้ามาให้ฉันชุดหนึ่ง ชุดนั้นเป็นชุดสั่งตัดพิเศษ มันเหมือนกับชุดของซินเดอเรลล่าในภาพยนตร์ซินเดอเรลล่าเวอร์ชันนักแสดงเรื่องหนึ่งใส่เด๊ะๆ เลย
“ชุดนั้นมันดูเว่อร์ไปหรือเปล่า? ฉันไม่ได้จะแต่งคอสเพลย์สักหน่อย”
“มันใช่เหอะ ก็บอกแล้วไงว่าธีมเจ้าหญิงอะ เธอก็ต้องใส่ชุดเจ้าหญิงสิ นั่นมันชุดที่ฉันจ่ายเงินไปตั้งเยอะเพื่อสั่งตัดพิเศษให้เธอเลยนะ คนรวยจะซื้อยังซื้อไม่ได้เลยนะ”
ฉันต้านทานการหว่านล้อมไม่หยุดไม่หย่อนของเฉียวอี้ไม่ไหวจึงสวมชุดเจ้าหญิงชุดนั้นที่เธอให้ มันสวยมากจริงๆ แต่มงกุฎที่ต้องใส่ไว้บนหัวด้วยมันหนักไปหน่อย
ฉันอยากถอดมันออก แต่เฉียวอี้กลับกดมือฉันไว้และไม่ให้ฉันขยับตัวมั่วซั่ว “เจ้าหญิงที่ไม่ใส่มงกุฎจะนับเป็นเจ้าหญิงได้ไง?”
ฉันรู้สึกว่าเฉียวอี้จับฉันแต่งตัวซะจนมันดูไม่ค่อยเข้าท่าเท่าไหร่ แต่เมื่อสีชิงชวนมาแล้ว สายตาของเขากลับพราวระยับ ดูท่าทางเหมือนกับจะพอใจมาก
“อืม ไม่เลวเลย สวยมาก”
น้อยครั้งที่เขาจะเห็นด้วยกับเฉียวอี้ เฉียวอี้ยิ้มอย่างมีความสุข “ความคิดของฉันไม่เลยเลยใช่ไหมล่ะ เซียวเซิงเหมาะกับชุดเจ้าหญิงมาก ฉันว่าเธอมีความเป็นเจ้าหญิงอยู่ในตัวมากเลย ไม่เหมือนเซียวซือ อย่าเห็นว่าเธอชอบแสร้งทำท่าทางแบบนั้นเหอะ แต่เสแสร้งยังไงมันก็คือเสแสร้งนั่นแหละ”
“ไม่เกี่ยวกับคุณ มันเป็นเพราะพื้นฐานเซียวเซิงเป็นคนดีต่างหาก” สีชิงชวนเปิดกล่องเครื่องประดับที่เขาเอามาด้วยออก ในนั้นเป็นสร้อยอัญมณีที่ระยิบระยับจับตามากๆ เส้นหนึ่ง
อัญมณีนั่นมีหลากสีสันจนฉันดูไม่ออกว่ามันเป็นอัญมณีชนิดไหนบ้าง
“สวมสร้อยเส้นนี้ไปด้วยก็จะสวยขึ้นไปอีก” เขาช่วยสวมสร้อยเส้นนั้นให้ฉันเอง มันเย็นซะจนฉันสะดุ้งขึ้นด้วยความตกใจ
สีชิงชวนพยักหน้าด้วยความพอใจ “ต้องประดับด้วยแก้วมณีแบบนี้สิถึงจะเป็นการเปิดตัวเจ้าหญิงที่ถูกต้อง”
ฉันว่าพวกเขาสองคนไม่เคยเล่นตุ๊กตาบาร์บี้ตอนเด็กๆ แน่ๆ ตอนนี้ถึงได้ทำเหมือนฉันเป็นตุ๊กตาบาร์บี้และจับฉันแต่งตัวเล่นแบบนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)
สนุกมากเป็นอะไรที่ลุ้นตามตลอดถึงนางเอกจะดูโง่ๆแต่ก็สนุกมากครับชอบแนวนี้มากก...
จบซะแล้วลงตอนไม่ครบค่ะ ขาดตอนที่ 501,506...
เย้ อัพต่อแล้ว 👍👍👍...
แอด...ยังรออัพเดทนะคะ😁😁...
รอมาอัพต่อค่ะ...
กี่ตอนจบค่ะ...
Please up Chapter495...
สนุกมากๆ ค่ะ ติดตามอยู่นะคะ...
นางเอกไม่ได้โง่แต่จิตใจดีเกินไปและพระเอกอยากสอนนางเอกแต่สอนผิดวิธี ในเรื่องทุกคนมีปมหมด นักเขียนค่อยๆขยายแต่ละคน เราว่าสนุก อัพต่อค่ะplease...
เป็นเรื่องที่อ่านแล้วอึดอัดมาก เพราะนางเอกโคตรโง่เลย อ่านแล้วลุ้นแต่ก็ลุ้นไม่ขึ้น มันรู้สึกสงสารนางเอก แต่เป็นสมน้ำหน้า พระเอกก็ใจดำเอาแต่ใจตัวเอง ทำตัวแย่ ทำให้รำคาญ อ่านแล้วไม่ลุ้นให้ได้จบลงด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ให้รับผลจากความโง่และการกระทำของตัวเอง...