พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 489

ฉันไปที่สถานีตำรวจกับเฉียวอี้ ฉันคิดว่าจะให้ปากคำกับตำรวจ และอธิบายเรื่องราวให้ฟัง ถ้ามันร้ายแรงกว่านั้นก็แค่ขอโทษแล้วก็เสียค่าปรับนิดหน่อย เรื่องทุกอย่างก็จะจบลง

แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องนี้มันจะร้ายแรงมากกว่านั้น ตำรวจได้บอกว่าเซียวซือว่าได้ดำเนินคดีกับเราแล้ว บอกว่าฉันเป็นคนสั่งให้เฉียวอี้ไปทำร้ายร่างกายของเซียวซือ

“พวกเรามีปากเสียงกัน เซียวซือใช้ก๊าซเคมีอันตรายทำให้เรามึนหัวนานกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมง ฉันก็แค่อยากจะสั่งสอนเธอนิดหน่อยก็เท่านั้น ตอบแทนตามมารยาททำไมงั้นเหรอ?พวกเรายังไม่ได้แจ้งตำรวจเลย แต่คนชั่วอย่างเธอก็ชิงแจ้งไปสักก่อน”

“สงบคำของคุณก่อน” ตำรวจพูดกับเฉียวอี้อย่างเคร่งขรึม “อะไรคือตอบแทนตามมารยาท?ทะเลาะกันคือตอบแทนตามมารยาทงั้นเหรอ?ถ้าหากพวกคุณได้รับบาดเจ็บก็สามารถแจ้งตำรวจได้เสมอ หรือว่าโลกใบนี้ไม่มีกฎหมายแล้ว?เวลามีเรื่องอะไรพวกคุณก็สามารถแก้ปัญหากันเอง แล้วจะมีตำรวจอย่างพวกเราไว้ทำไม?”

ฉันดึงกระโปรงของเฉียวอี้ เพื่อให้เธออยู่ห่างจากตำรวจ

ตำรวจก็พูดต่ออีก สิ่งที่คุณทำคือการมุ่งร้าย คุณลงมือหนักไปแล้ว ใบหน้าของนักข่าวคนนั้นดั้งจมูกร้าว ทั้งหน้าบวมจนจำแทบไม่ได้ ตอนนี้ยังอยู่ในห้องฉุกเฉินให้การช่วยเหลืออยู่เลย!”

“มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอคะ?”

“แน่นอนว่าร้ายแรงมาก หมัดเท้าของคุณหนักแค่ไหนคุณไม่รู้เลยเหรอ”

ฉันคิดว่าคุณตำตรวจไม่น่าจะตื่นตระหนกนะ เพราะว่าเฉียวอี้เมื่อก่อนเป็นนักมวยมาก่อน หมัดของเธอหนักมากจนผู้ชายส่วนใหญ่ยังรับไม่ไหว ไม่ต้องพูดถึงผู้หญิงพิการทางสมอง อย่างเซียวซือเลย

ฉันอยากจะบอกกับคุณตำรวจว่า “สามารถเรียกทนายได้ไหมคะ ?”

“ได้ แต่ถ้าเธอยังไม่พ้นขีดอันตราย คุณก็ไม่สามารถประกันตัวได้”

“ไม่ต้องห่วง”เฉียวอี้บอกกับฉัน “ทนายของฉันมีความสามารถมาก รับรองว่าจะสามารถพาเราออกไปได้อย่างแน่นอน”

ฉันจำได้ว่าเฉียวอี้ดูเหมือนจะรู้จักเพื่อนอยู่ไม่น้อย

ถือว่าคุณตำรวจยังมีความใจดีอยู่ ให้เวลาพวกเราได้โทร

แต่ว่าเฉียวอี้ได้โทรไปแล้วหลายรอบ ก็ยังไม่มีเพื่อนทนายคนไหนยอมรับสายเลยสักคน

“ให้มันได้อย่างงี้สิ”เฉียวอี้อดไม่ได้ที่จะสบถคำหยาบออกมา “คนไปแล้วชาก็เย็นเรื่องจริงสินะ ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย คนพวกนี้ก็ห่างจากฉันเป็นแสนฟุต รอฉันเฉียวอี้ตงซานกลับมาก่อนเถอะ ดูว่าฉันจะจัดการกับพวกเขาทีละคนทีละคนออกไปจากเมืองฮัวยังไง”

“ไม่จำเป็นต้องพูดคำรุนแรง”ฉันทุกข์ใจมาก แม้แต่เฉียวอี้ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ทนายของฉันที่อยู่เมืองฮัว นอกจากหนีอีโจว ก็ไม่รู้จักใครอีกเลย

แต่ว่าฉันกับหนีอีโจวได้แยกการแล้ว ฉันจะไม่มีทางกลับไปหาเขาอีก

ฉันคิดแล้วคิดอีกทั่วเมือฮัว นอกจากสีชิงชวน ก็มีเพียงเขาคนเดียวที่ฉันสามารถขอความช่วยเหลือได้ เขาน่าจะสามารถช่วยฉันได้ล่ะมั้ง

ฉันกับฉียวอี้เรามองหน้ากัน และเรียกชื่อคนๆหนึ่งออกมาพร้อมกัน “ป๋ออวี่”

“ใช่แล้ว โทรไปหาป๋ออี้ เขาจะต้องช่วยพวกเราออกไปได้แน่นอน พูดถึงป๋ออี้ เขาก็ชอบเธอมากนิ”เฉียวอี้ใช้ศอกกระแทกใส่ฉันไปหนึ่งที อิอิอิ

เวลาแบบนี้ฉันไม่มีอารมณ์มาเล่นกับเธอหรอก ถ้าหากเป็นแค่เพื่อน ฉันก็ไม่มีปัญหาอะไรที่จะเรียกหาเขามาหรอก แต่ว่าฉันรู้อยู่แล้วว่าป๋ออี้ชอบฉัน ไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งฉันก็ยังไปสร้างความเดือดร้อง ให้กับคนอื่น นั่งไม่ใช่ว่ากำลังหลอกใช้เขาอยู่เหรอ เท่ากับว่าฉันผิดศีลธรรมเลยนะ

ฉันเลียริมฝีปากแล้วพูด “งั้นฉันเรียกหาสีชิงชวนดีกว่า”

“โทรหาป๋ออี้นั่งแหละ”เฉียวอี้หยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วกดเบอร์ป๋ออวี่ จากนั้นก็ยื่นให้เธอ

ป๋ออี้รับสายอย่างไว มือถือพึ่งจะถือไว้ข้างหู ฉันก็ได้ยินเสียงของป๋ออวี่พูดว่าฮาโหลดังออกมาจากไมโครโฟน “เฉียวอี้”

ฉันพูดเสียงเบา “ฉันไม่ใช่เฉียวอี้ ฉันคือเซียวเซิง”

ทนายของป๋ออวี่เก่งขนาดนั้นเลยเหรอ?เมื่อกี้ตำรวจยังบอกกับเราอยู่เลยว่าเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่เราจะได้รับการประกันตัว นี้เวลาแค่เท่าไหร่เอง?

ฉันกับเฉียวอี้เดินออกไป เดินไปถึงห้องโถงก็เงยหน้าขึ้น แล้วมองเห็นป๋ออวี่

เขาสวมใส่เสื้อกันลมขาสั้นสีไข่ขาว ยีนส์สีฟ้าอ่อน และขาเรียวยาว ช่างสะดุดตาจริงๆ และมีตำรวจหญิงหลายคนแอบมองเขาอยู่

ความหล่อของป๋ออวี่กับความหล่อของสีชิงชวนแตกต่างกันอย่างสิ้งเชิง

ป๋ออวี่เป็นเหมือน นกกระเรียนบนชายหาดป่า ไม่ดุร้าย แต่เห็นคุณค่า

แต่สีชิงชวนเปรียบสเหมือนเสือชีต้าที่พอดี ตอนที่มันวิ่งล่าเหยื่อมันดูมีเสน่ห์ที่สุด แต่เขาก็สามารถเอาชีวิตฉันเมื่อไหร่ก็ได้

ทำไมเวลาแบบนี้ต้องมาคิดถึงสีชิงชวนด้วย?เขาทำฉันโกรธ หลายวันมาฉันจะไม่คิดถึงคนอย่างเขาเด็ดขาด

ฉันเดินไปหาป๋ออวี่ “คิดไม่ถึงว่านายจะมาเอง”ฉันรู้สึกเกรงใจเขานิดหน่อย “ตอนแรกแค่คิดว่าอยากจะให้นายช่วยหาทนายให้สักคน”

”เรื่องแบบนี้ ไม่จำเป็นต้องเรียกหาทนายหรอกครับ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”

“แต่ว่าเซียวซือตอนนี้เธออยู่ในห้องฉุกเฉิน”

”เธอไม่ได้เป็นอะไรมากหรอก ในตอนนี้ไม่ว่าจะมีไข้หรือเป็นหวัด ก็ต้องเข้าห้องฉุกเฉินกันทั้งนั้นแหละ”ป๋ออวี่ตบบนไหร่ฉันเบาๆ ท่าทางของเขาอ่อนโยนมาก มันช่วยทำให้อารมณ์ของฉันสงบลง “เรื่องเล็กน้อย พวกคุณไม่ได้ขับรถมาใช่ไหมครับ จะไปที่ไหนเดียวผมไปส่ง”

เฉียวอี้ยิ้มอย่างมีชัยชนะมาที่ฉัน ยังกระซิบฉันเบาๆ “โบราณกล่าวไว้ตัวสำรองใช้งานง่ายสุด บางครั้งตัวจริงก็ไว้ใจไม่ได้ ฉันคิดว่าเธอจะไม่รีบเอาเขามาเป็นคู่ขาหรอกนะ”

“เธอพูดบ้าอะไรของเธอ!”ฉันทะลึงตาใส่เฉียวอี้ไปหนึ่งที และบีบแขนเขาแรงๆ เธอหัวเราะชอบใจใหญ่เลย

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)