พ่ายรักเมียในนาม(จบ) นิยาย บท 67

เขาเดินเข้ามาใกล้ฉันขึ้นเรื่อยๆ และเขาก็ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตหมดพอดี เผยกล้ามหน้าอกของเขาออกมา

ทันใดนั้นกลิ่นบุรุษเพศของเขาฟุ้งกระจายเต็มทั่วห้อง ฉันอยากตะโกนเรียกป้าสวีให้ลากตัวคนบ้ากามนี้ออกไปเหลือเกิน แต่เขามีสิทธิ์ขาดในตระกูลสี ฉันจึงได้แต่ถอย ถอยจนไม่มีที่ให้ถอยแล้ว

แผ่นหลังของฉันสัมผัสผนังอันเย็นเฉียบ ฉันแอบสาบานในใจว่าหากเขาลงมือกับฉัน ฉันจะฉีกกระชากตัวเองสุดแรง

และความเป็นจริง มือของฉันก็ชูขึ้นสูงรอแล้ว ทว่ายังไม่ทันปล่อยฝ่ามืออรหันต์ เขาก็คว้าข้อมือของฉันไปจับหน้าอกของเขาเสียแล้ว

ฉันกรีดร้อง “สีชิงชวน คุณอย่าฝืนใจฉันสิ คุณอยากได้ผู้หญิงแบบไหนก็แล้วแต่คุณเลือกไม่ใช่เหรอ...”

“หุบปาก” ฟังจากเสียงของเขาแล้วรู้สึกเขาจะโมโหอย่างแรงเลยละ “ลืมตาสิ”

เขาจะฝืนใจฉันแล้วจะให้ฉันลืมตาอีก โรคจิตหรือเปล่า?

ใช่เขาเป็นคนโรคจิตอยู่แล้ว เขาชอบทั้งผู้หญิงและผู้ชาย เขายังชอบมีอะไรในสถานที่แปลกๆ เขาไม่ใช่โรคจิตแล้วจะเป็นอะไร?

มือของเขาราวกับเป็นคีมเหล็ก “ลืมตาดูนี่ ไม่รู้เมื่อคืนใครเป็นบ้า ผมแค่ให้คุณดื่มหนึ่งแก้ว แต่หลังจากนั้นก็ดื่มเองทั้งนั้น ห้ามก็ห้ามไม่อยู่ จากนั้นก็วิ่งไปตะโกนหน้าระเบียง ร้องทักทายคุณพ่อ คุณแม่ และทนายนั่น แล้วยังมีบรรพบุรุษทั้งสิบแปดยุคอีก”

พอฉันเปิดตาขึ้นมา สิ่งที่เข้าสู่สายตาของฉันคือรอยฟันสีแดงทรงกลมบนหน้าอกของเขาที่กระจัดกระจายไปทั่ว

ฉันกะพริบตารัวๆ เพราะอยู่ใกล้กันมาก รอยฟันพวกนั้นจึงเริงระบำตรงหน้าฉันอย่างเด่นชัด

“จากนั้นคุณก็โทรหาเฉียวอี้กับทนาย ตอนคุยก็ร้องไห้ด้วยหัวเราะด้วย ผมเลยลากตัวคุณกลับบ้าน พอถึงบ้านผมก็สั่งให้เสี่ยวจูอาบน้ำให้คุณ แต่คุณกลับปีนออกจากอ่างอาบน้ำตัวเปลือยเปล่าเหมือนผีในหนังเดอะริงเลย”

“ผีในเดอะริงมันปีนออกจากทีวีแล้วใส่เสื้อด้วย” ฉันเถียงเขาเสียงแผ่ว

ทว่าสีชิงชวนเหมือนโมโหจนสูญเสียสติสัมปชัญญะไปแล้ว “ผมให้คนใช้เฝ้าคุณสามคน แต่ก็ยังดูคุณไม่ไหว จากนั้นคุณก็ปีนขึ้นเตียงผมกลางดึก มากัดผมด้วย”

ห้ะ! ฉันปวดหัวเหลือเกิน ฉันจำเป็นต้องสงบสติอารมณ์ก่อน

ฉันก้มหน้าเอี้ยวตัวหลบไปด้านข้าง ทว่ากลับถูกเขากดไหล่ไว้แน่น “ทำไม รู้สึกผิดแล้วคิดจะหนีเหรอ? ไม่ว่าผมฉวยโอกาสแล้วเหรอ?”

มิน่าล่ะฉันถึงได้อยู่ในห้องนอนของเขา ฉันคิดว่าถึงสีชิงชวนจะนิสัยแย่แค่ไหน แต่ก็ไม่พูดปดมดเท็จหรอก

ฉันลูบจมูก “แล้ว ทำไมที่คอฉันถึงมีรอยจูบล่ะ?”

“ผมเป็นผู้ชาย” เขาจ้องมองฉัน “คุณกอดผมแล้วไปเรียกชื่อหนีอีโจวด้วย”

มุมปากเขาเผยรอยยิ้มอันตรายออกมากะทันหัน ฉันตกใจจนหัวใจเต้นตึกตัก

“ฉัน...ฉันดื่มเยอะไปหน่อย”

“ผมรู้ ไม่งั้นคุณคงไม่เห็นผมเป็นหนีอีโจวหรอก” เขาบีบไหล่ของฉันแรงๆ “คุณคงยังไม่เคยขึ้นเตียงกับทนายคนนั้นสิน่ะ? เขาเก่งสู้ผมไม่ได้หรอก”

สีชิงชวนชอบแข่งเกินไปแล้ว แม้แต่ด้านนี้ก็ไม่เว้น

ฉันเบือนหน้าหนี พยายามไม่มองรอยวงกลมบนหน้าอกของเขา เหมือนที่คอเขาก็มีด้วยนะ

“ฉันเมา จำอะไรไม่ได้”

“ตอนนี้ฉายหนังซ้ำอีกรอบก็ได้” เขายิ้มเย็น “รับรองว่าคุณจะจำได้ทุกขั้นตอนเลย”

ฉันฟื้นฟูร่างกายอยู่บ้านหลายวันก็ใกล้จะถึงวันขึ้นศาลแล้ว

เฉียวอี้มาหาฉันที่บ้านตระกูลสีโดยเฉพาะ และยังเอาชุดทำสงครามมาฝากฉันด้วย มันเป็นเสื้อสูทเสื้อกับกางเกงสีขาว และยังมีรองเท้าส้นสูงที่สูงลิ่ว ทว่าบางเหมือนดินสอสองบี ใส่แล้วก็ดูดีมีระดับจริงๆ

เฉียวอี้ให้กำลังใจฉันตลอดทาง “เธอไม่ต้องกลัวนะ พวกเราต้องชนะแน่นอน เธอต้องเชื่อมั่นในความสามารถของพี่เสี่ยวฉวน”

“อืม” ฉันมองเงาต้นไม้ที่ค่อยๆ เลือนหายนอกหน้าต่างรถ ฉันไม่กล้าบอกเฉียวอี้เลยว่าฉันไม่สนเรื่องชัยชนะเลย

เงินกับหุ้นส่วนไม่สำคัญสำหรับฉันเลย ทว่าหนีอีโจวพูดถูก ฉันไม่มีความคิดจะครอบครองได้ ทว่าฉันต้องเคารพในการตัดสินใจของคุณพ่อ

ดังนั้นฉันจึงเผชิญหน้ากับศึกคราวนี้ มิฉะนั้นฉันคงมอบมรดกพวกนั้นให้คู่ต่อสู้ในชั้นศาลแล้ว

พวกเราเห็นพวกแม่เลี้ยงที่ประตูศาลด้วย โลกของคู่อริมันแคบจริงๆ

เซียวหลิงหลิงชี้จมูกของฉัน “เซียวเซิง ไอ้ลูกพันธุ์ทาง เธอใกล้จะต้องเฉดหัวออกจากบ้านพวกฉันตัวเปล่าแล้ว”

“เซียวหลิงหลิง” เซียวซือที่อยู่ด้านข้างขมวดคิ้วมุ่น “รักษามารยาทหน่อย”

เซียวหลิงหลิงจัดแจงคอเสื้อ ก่อนจะส่งเสียงฮึดฮัด จากนั้นก็ประคองแม่เลี้ยงเดินผ่านหน้าฉันไป

“มารยา” เฉียวอี้ขบฟัน “คนที่ร้ายที่สุดในบ้านตระกูลเซียวไม่ใช่เซียวหลิงหลิงหรือแม่เลี้ยงเธอหรอกนะ แต่เป็นเซียวซือต่างหาก หมาที่กัดคนจะไม่เห่าหรอก”

“เว่อร์แล้ว เซียวซือก็ดีอยู่นะ อย่างน้อยก็ไม่ได้ทำให้ฉันลำบากใจ”

“อย่าดูอะไรแค่ผิวเผิน ทำไมเธอถึงไร้เดียงสาขนาดนี้น่ะ?” เฉียวอี้จับแขนฉัน “ไป เข้าไปกันเถอะ วันนี้จะให้พวกหล่อนร้องไห้ไม่ออกเลย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักเมียในนาม(จบ)