ภายในห้องของเซี่ยเหยียนเหยียน
เมื่อลู่หานถิงได้รับข้อความจากเซี่ยเหยียนเหยียนก็รีบตามมาทันที เซี่ยเหยียนเหยียนพาเขาเข้าไปในห้องห้องหนึ่ง ดวงตาเฉี่ยวคมดุจเหยี่ยวของลู่หานถิงกวาดตามองไปมาภายในห้องอย่างรวดเร็ว “แล้วคนอื่นล่ะ?”
“ฉันไม่ได้ทําร้ายหว่านหว่านหรอกค่ะ เธออยู่ในห้องข้าง ๆ ค่ะ”
ลู่หานถิงจ้องเซี่ยเหยียนเหยียนราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ริมฝีปากบางของเขาเปล่งน้ำเสียงที่หนักแน่นออกมา “ทางที่ดีคุณไม่ควรแตะต้องเธอเลยแม้แต่ปลายเล็บ ไม่อย่างนั้นผมจะฝังคุณทั้งเป็นไปพร้อมกับทั้งตระกูลเซี่ย !”
ลู่หานถิงก้าวขายาวเดินออกไป ทุกก้าวย่างของเขารวดเร็วและฉุนเฉียว กางเกงขายาวที่ถูกตัดเย็บมาอย่างปราณีตพริ้วไหวเป็นเกลียวไปตามจังหวะการสาวเท้าที่น่าเกรงขามของเขา
ภายในดวงตาคู่นั้นของเซี่ยเหยียนเหยียนเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา เซี่ยซีหว่านไม่เห็นจะมีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่กลับทำให้สองเทพบุตรอย่างลู่หานถิงและลู่จื่อเซียนหลงใหลจนหัวปักหัวปำ ในสายตาของพวกเขามีแต่เซี่ยซีหว่าน
“ประธานลู่คะ อย่าไปเลยค่ะ !” เซี่ยเหยียนเหยียนโผเข้าไปกอดเอวบางของลู่หานถิงจากทางด้านหลัง
ลู่หานถิงชะงักฝีเท้าลง “เอามือของคุณออกไป !”
“ประธานลู่คะ ทําไมคุณถึงใจร้ายกับฉันขนาดนี้ล่ะคะ คุณก็รู้อยู่ว่าฉันเจอคุณก่อน คุณคิดดูให้ดีสิคะ ฉันไม่ได้ด้อยไปกว่าเซี่ยซีหว่านเลยด้วยซ้ำ !”
เมื่อเซี่ยเหยียนเหยียนพูดจบก็ปล่อยเอวเขาแล้วเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขา จากนั้นเธอก็ยกมือขึ้นถอดเสื้อคลุมออก เผยให้เห็นชุดนอนผ้าลื่นด้านในสีแชมเปญ
ทันใดนั้นเองลู่หานถิงก็พลันนึกภาพเซี่ยซีหว่านที่อยู่ภายใต้แสงไฟสลัวในคืนนั้นขึ้นมาในหัวของเขา เธอเพิ่งอาบน้ำเสร็จ แม้แต่กลิ่นกายอันหอมหวานบนตัวเธอก็ยังส่งกลิ่นตลบอบอวลไปทั่วห้อง ชุดนอนผ้าลื่นสีแชมเปญนั้นเน้นส่วนเว้าส่วนโค้งในแบบสาวน้อยที่วิจิตรงดงามของเธอ นัยน์ตาสีดําขลับสดใสเป็นประกายแวววาวราวกับกำลังส่องประกายรัศมีอันเจิดจ้าจากดวงอาทิตย์
และตอนนี้เซี่ยเหยียนเหยียนก็กำลังใส่ชุดนอนสีแชมเปญแบบเดียวกันเหมือนกับที่เซี่ยซีหว่านใส่ในคืนนั้นพอดี
เซี่ยเหยียนเหยียนเลียนแบบเซี่ยซีหว่านมาตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าหรือคำพูดคำจา ดังนั้นการใส่เสื้อผ้าเหมือนกันจึงไม่ใช่เรื่องแปลก อีกทั้งเธอยังมั่นใจในตัวเองเป็นพิเศษ เพราะเธอมีใบหน้าที่งดงาม รูปร่างดี คืนนี้เธอจึงใช้ลวดลาย มายั่วยวนลู่หานถิง
ลู่หานถิงเป็นไพ่ใบสุดท้ายของเธอ เธอต้องรีบรวบหัวรวบหางเขา แล้วผันตัวเองให้กลายมาเป็นคุณนายลู่ให้ได้
ตอนนี้เป็นโอกาสอันเหมาะเจาะของเธอแล้ว เธอจะไม่มีทางพลาดเด็ดขาด
แม้จะเตรียมการมาเป็นอย่างดีแล้ว แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้ชายที่ชื่อลู่หานถิงคนนี้ ใบหน้าเรียวเล็กอันงดงามของเซี่ยเหยียนเหยียนก็ยังคงแดงระเรื่อด้วยความเขินอายและประหม่า “ประธานลู่คะ ฉันไม่ได้ด้อยไปกว่าหว่านหว่านเลยสักนิด ให้ฉันเป็นผู้หญิงของคุณเถอะนะคะ”
ลู่หานถิงไม่ได้หลบหลีกแต่อย่างใด ดวงตาคมเข้มคู่นั้นค่อย ๆ หรี่เล็กลง เขาสำรวจเซี่ยเหยียนเหยียนตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างละเอียด จากนั้นริมฝีปากบางก็ยกขึ้นเล็กน้อย เขาพูดอย่างครุ่นคิดและตรงไปตรงมาว่า “อาบน้ำมาแล้วเหรอ?”
เซี่ยเหยียนเหยียนไม่เคยถูกลู่หานถิงมองสำรวจแบบนี้มาก่อน ผู้ชายอย่างเขาคนนี้เกิดมาพร้อมกับใบหน้าหล่อเหลาที่สามารถพลิกทุกชีวิตได้ และร่างกายของเขาก็เป็นบุรุษชั้นยอดในบรรดาผู้ชายทั้งหมด อีกทั้งเขายังเพียบพร้อมไปด้วยความมั่งคั่ง อำนาจอิทธิพล และฐานะทางสังคมเต็มไปหมด บุคลิกของชายที่เป็นผู้ใหญ่และสูงส่งนั้นทําให้คนรู้สึกละอายใจต่อตัวเองได้อย่างง่ายดาย ต่อให้เป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบแค่ไหนก็รู้สึกเสียความมั่นใจในตนเองเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา เพราะกลัวว่าตัวเองจะมีข้อบกพร่องบางอย่างที่ไม่คู่ควรกับเขา
ที่ผ่านมาเขามีแต่จะมองเธออย่างรังเกียจด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้เขากลับมองเธอด้วยสายตาที่ซ่อนเร้นและหื่นกระหาย แล้วถามเธอว่า “อาบน้ำมาแล้วเหรอ?”
เซี่ยเหยียนเหยียนรู้สึกดีใจมาก เธอจึงพยักหน้าแรงและพูดตอบในทันทีว่า “ค่ะ อาบน้ำแล้วค่ะ”
“ดูเหมือนว่าคุณจะพร้อมแล้ว ในเมื่อคุณต้องการผู้ชายขนาดนี้ ผมโทรเรียกผู้ชายสักสองสามคนมาให้เอาไหม?”
เมื่อสิ้นเสียงอันทุ้มต่ำของลู่หานถิง เซี่ยเหยียนเหยียนก็ตัวแข็งทื่อไปทั้งร่างกาย อะ...อะไรนะ?
ลู่หานถิงเดินเข้ามาสองก้าว และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำที่แฝงไว้ด้วยความเย้ยหยันไร้ซึ่งความปราณีว่า “คุณไปเอาความมั่นใจจากที่ไหนมาเทียบกับเซี่ยซีหว่าน ใบหน้าหรือผิวพรรณของคุณสู้เธอไม่ได้เลย รูปร่างของคุณก็สู้เธอไม่ได้สักนิด กลิ่นหอมบนตัวเธอสามารถสะกดให้ผมหลงใหลได้ ส่วนกลิ่นน้ำหอมเทียมราคาถูกบนตัวคุณ เทียบกับของเธอไม่ได้เลย คุณมันก็เป็นแค่ของปลอมคุณภาพต่ำตั้งแต่หัวจรดเท้า”
ใบหน้าของเซี่ยเหยียนเหยียนซีดเผือด ต่อให้เธอจะมีความมั่นใจมากแค่ไหนก็ไม่สามารถต้านทานความอัปยศอดสูของลู่หานถิงได้เลย เธอจึงไม่ได้พูดอะไรอีก แต่กลับมองลู่หานถิงด้วยสายตาที่แปลกไป
เพียงไม่นานลู่หานถิงก็รู้สึกว่าร่างกายของเขาผิดปกติเล็กน้อย เขาสูดดมกลิ่นภายในห้องเล็กน้อยก็ได้กลิ่นน้ำหอมที่แปลกประหลาดอยู่จาง ๆ ซึ่งเขาได้กลิ่นตั้งแต่วินาทีที่เขาเข้ามาในห้องนี้แล้ว แต่เขามัวแต่มุ่งความสนใจไปที่ความปลอดภัยของเซี่ยซีหว่านจึงไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติในทันที
คิ้วที่งดงามของเขาขมวดเข้าหากันทันที สีหน้าของเขาเคร่งขรึมขึ้น เขาจ้องเซี่ยเหยียนเหยียนด้วยสายตาที่ดุดันและเชือดเฉือน “นี่มันกลิ่นอะไร เธอทําอะไรลงไป?”
เซี่ยเหยียนเหยียนรู้ว่าสรรพคุณของยากำลังเริ่มออกฤทธิ์แล้ว “นี่เป็นน้ำหอมฟีโรโมนที่ฉันหามาได้ ซึ่งเป็นชนิดที่มีกลิ่นรุนแรงที่สุดในโลก ไม่มีผู้ชายคนไหนต้านทานมันได้ ยาแก้พิษเพียงหนึ่งเดียวก็คือผู้หญิง”
ลู่หานถิงเดินไปด้านหน้า จากนั้นมืออันแข็งแกร่งของเขายื่นออกมาบีบคอของเซี่ยเหยียนเหยียนในทันที
“เซี่ยเหยียนเหยียน คุณกําลังท้าทายความอดทนที่ผมมีต่อคุณอยู่ใช่ไหม คุณกล้าใช้วิธีสกปรกแบบนี้กับผมเหรอ !”
ข้างกายเขาไม่เคยขาดสาวสวยหรือสิ่งยั่วยวนแม้แต่น้อย เขาได้เห็นวิธีการพวกนั้นมามากมาย แต่คนที่กล้าคิดร้ายกับเขาด้วยวิธีต่ำทรามแบบนี้มีแค่เซี่ยเหยียนเหยียนคนเดียว
เซี่ยเหยียนเหยียนรู้สึกหายใจไม่ออกขึ้นมาทันที เขาบีบคอเธอแน่น เพียงไม่นานใบหน้าของเธอก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำและเริ่มขาดอากาศหายใจ
เดิมทีเธอก็ไม่กล้าใช้วิธีสกปรกแบบนี้กับเขา เพราะเธอกลัวเขา ท่าทางอันโหดเหี้ยมของเขาในตอนนี้ราวกับจะฉีกเธอออกเป็นชิ้น ๆ ได้ ตอนนี้เธอไม่สงสัยแม้แต่น้อยว่าภายในใจของเขาอยากจะฆ่าเธอมากแค่ไหน
แต่ว่า เธอต้องกำจัดมันทิ้งไป
เซี่ยเหยียนเหยียนจับมือใหญ่อันแข็งแกร่งของลู่หานถิงแล้วเหวี่ยงออกไป “นี่คุณ...คุณตั้งใจจะฆ่าฉันจริง ๆ เหรอคะ ตอนที่ข้างนอกอากาศหนาวเย็นสุดขั้ว พวกเรากอดกันอยู่ภายในถ้ำ ให้ความอบอุ่นซึ่งกันและกัน คุณ...ลืมมันไปหมดแล้วเหรอคะ พี่ชายใหญ่ของฉัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักคุณสามี
กลับมาลงเรื่องนี้ต่อหน่อยค่ะ😁😁😁...
รอตอนต่อไปนานมากแล้ว ครับ...
นิยายแปลที่ติดตามก็ไม่มีการอัปเดทนิยายไทยก็เดิมฯเรื่องใหม่ก็เค้าโคลงจากเรื่องเดิมแม้จะเปลี่ยนชื่อแต่คนอ่านก็จำได้ค่ะ บางเรื่องที่ติดตามไปติดเหรียญที่เเอปอื่น ยังไงต่อไปดี...
ไม่มีอัพเดตต่อ...หรือเลิกแปลเรื่องนี้ไปแล้ว...
เรื่องนี้รออัปเดทนานมากค่ะนิ่งเลยค่ะ...