ครึ่งแรกของการแข่งขันบาสเก็ตบอล คะแนนของมหาวิทยาลัย A คือ 22 ต่อ 13 ซึ่งกำลังชนะแชมป์เก่าอย่างมหาวิทยาลัย T เมื่อปีก่อน
คะแนนการแข่งขันเช่นนี้ทำให้ทั่วทั้งสนามส่งเสียงดังสนั่นอย่างหึกเหิม
รองอธิบดีโจวเริ่มมีสีหน้าเคร่งเครียด เขาวิพากษ์วิจารณ์กับทีมบาสเก็ตบอลของตัวเองอย่างรุนแรงว่า “พวกนายทำอะไรกัน การแข่งขันครึ่งแรกทำไมถึงเล่นกันอ่อนแอแบบนี้ พวกนายอย่าอ่อนข้อระเบิดเทคนิคต่าง ๆ ออกมาให้หมด จ้าวเหว่ย คุณเป็นกัปตันทีม คุณพูดอะไรสักหน่อยสิผลการแข่งขันสุดท้ายจะออกมาเป็นยังไงเหรอ?”
จ้าวเหว่ยเหงื่อออกจนท่วมไปทั้วตัว เขาเองก็รู้สึกเศร้าใจเช่นกัน จึงพูดว่า “รองอธิการบดีโจว พวกเราพยามกันอย่างเต็มที่แล้ว แต่ปีนี้ดูเหมือนว่ามหาวิทยาลัย A จะมีพลังมหาศาลราวกับว่าพวกเขากินยากระตุ้นเพิ่มพลังเข้าไป พวกเขามีพละกำลังที่เยอะกว่าเดิมมาก พวกเราแทบจะรับมือไม่ไหวแล้ว”
“พวกนาย !” รองอธิการบดีโจวรู้สึกโกรธจนหน้าดำหน้าแดงไปหมด
บรรยากาศของมหาวิทยาลัย T ดูมืดมนราวกับมีเมฆสีดำกำลังปกคลุมอยู่โดยรอบ เริ่มจากทีมเชียร์ลีดเดอร์ของมหาวิทยาลัย A ที่ได้ปลดปล่อยศักยภาพอันสูงสุดออกมา พวกเขาออกแรงบิดราวกับเกลียวเชือกที่โจมตีไปด้านหน้าไม่หยุดหย่อน แต่มหาวิทยาลัย T กลับถดถอยลงเรื่อย ๆ ครึ่งแรกของเกมส์การแข่งขันยังไม่สามารถทำอะไรได้ดั่งที่ตั้งใจ
ทันใดนั้นลี่เหยียนหลานก็ก้าวเดินออกมาข้างหน้า เธอมองไปยังจ้าวเหว่ย และพูดว่า “กัปตันจ้าว ปีนี้เป็นปีสุดท้ายที่คุณอยู่มหาวิทยาลัย T แล้วใช่ไหมคะ ฉันจำได้เพราะว่าคุณเล่นบาสเก็ตบอลเก่ง ดังนั้นคุณจึงได้คะแนนพิเศษและได้โควต้าไปเรียนต่อต่างประเทศ แต่ถ้าหากปีนี้คุณไม่ได้แชมป์และพ่ายแพ้ให้แก่มหาวิทยาลัย A ความพยายามของคุณก่อนหน้านี้ก็สูญเปล่าค่ะ”
ลี่เหยียนหลานพูดอย่างไม่ใส่ใจพลางถอนหายใจออกมาราวกับว่าเรื่องนี้ช่างน่าเสียดายยิ่งนัก
เมื่อจ้าวเหว่ยได้ยินดังนั้นก็หน้าซีดเผือดในทันที เขามองไปยังกัปตันทีมหวังชงซึ่งเป็นทีมคู่แข่งของเขา แล้วสองมือที่ห้อยอยู่ข้างลำตัวก็กำเข้าหากันแน่นด้วยความเคียดแค้น
...
มหาวิทยาลัย T เต็มไปด้วยความมืดมนเศร้าโศกราวกับมีเมฆครึ้มปกคลุมอยู่โดยรอบ แต่บรรดาผู้คนของมหาวิทยาลัย A ต่างพากันยิ้มอย่างปีติยินดีให้กับชัยชนะในครั้งนี้ที่กำลังจะมาถึง
อาจารย์อู๋กล่าว “พอแล้วนักศึกษาทุกท่าน อย่าเพิ่งดีใจไป อีกครึ่งเกมส์พวกนายต้องเล่นให้ดี ๆ ถ้าพวกนายรักษาแบบการเล่นให้เหมือนตอนนี้ ปีนี้แชมป์ต้องเป็นของพวกเราแน่นอน !”
ทุกคนต่างส่งเสียงโห่ร้องอย่างปิติยินดี
จากนั้นหวังชงจึงแยกตัวออกมาจากสนามแข่งและไปเข้าห้องน้ำเพียงลำพัง
เมื่อเขาเข้ามาในห้องน้ำ ทันใดนั้นเองก็มีถุงกระสอบสวมเข้ามาที่ศีรษะของเขาอย่างรวดเร็ว ภาพทั้งหมดตรงหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีดำมืดสนิทจนเขามองไม่เห็นอะไรเลย จากนั้นกำปั้นจำนวนมากก็ทุบตีลงมาบนร่างของเขาอย่างรุนแรง
เหตุการณ์นี้ทำให้หวังชงต้องต่อสู้ขัดขืนดิ้นรนอย่างรวดเร็วพลางพูดว่า “พวกคุณเป็นใคร รีบปล่อยผมเดี๋ยวนี้ !”
ทันใดนั้นก็มีมือคู่หนึ่งเอื้อมเข้ามาจับแขนขวาของหวังชนไว้แล้วออกแรงหักตรงข้อพับแขนโดยตรงอย่างรุนแรง
จากนั้นเสียงแกร๊กก็ดังขึ้นซึ่งเป็นเสียงของกระดูกหักดังขึ้นมาอย่างเจ็บปวด
เซี่ยซีหว่านกับฟ่านเถียนที่อยู่บนสนามและคอยเอาผ้าขนหนูส่งให้บรรดานักกีฬา ทันใดนั้นก็มีคนวิ่งเข้ามาอย่ารีบร้อน และพูดว่า “สถานการณ์ดูท่าไม่ดีแล้วอาจารย์อู๋ หวังชงถูกใครบางคนทุบตีที่ห้องน้ำจนกระดูกแขนขวาหักหมดแล้ว !”
อะไรนะ?
ร่างเพรียวบางของเซี่ยซีหว่านสั่นไหวเล็กน้อย จากนั้นเธอจึงรีบวิ่งตามทุกคนไปยังห้องน้ำทันที
ตอนนี้สภาพของหวังชงน่าเวทนามาก มีใครบางคนเอากระสอบคลุมศีรษะของเขาไว้และทุบตีเขาอย่างรุนแรง ตอนนี้ร่างกายเขาได้รับบาดเจ็บเต็มไปหมด แต่สิ่งที่ร้ายแรงที่สุดก็คือ แขนขวาของเขา
หมอประจำมหาวิทยาลัยกล่าวว่า “อาจารย์อู๋ นักศึกษาหวังชงกระดูกแขนขวาหักอย่างรุนแรง เขาไม่สามารถลงสนามแข่งได้อีก กระดูกและกล้ามเนื้อได้รับบาดเจ็บและต้องพักฟื้นเป็นระยะเวลาเกือบร้อยวัน เขาต้องได้รับการเข้าเฝือกและพักรักษาร่างกายเป็นเวลานานเลยล่ะ”
ทันใดนั้นก็มีนักศึกษากล่าวขึ้นอย่างรวดเร็ว
“กัปตัน คุณเห็นหน้าชัดเจนหรือเปล่าว่าผู้ร้ายเป็นใคร?”
“กัปตัน คุณเป็นกำลังสำคัญของทีมเรา ตอนนี้การแข่งขันในครึ่งหลังกำลังจะเริ่มแล้ว ถ้าเราไม่มีกำลังสำคัญแล้วพวกเราจะทำยังไงล่ะ?”
“เซี่ยซีหว่าน ถ้างั้นเธอคงต้องรีบหน่อยแล้วล่ะ เกมส์การแข่งขันในครึ่งหลังใกล้จะเริ่มขึ้นแล้วนะ” ลี่เหยียนหลานกล่าวเตือนด้วยความหวังดี
หวังชงที่ได้รับบาดเจ็บจึงรีบพูดขึ้นว่า “ตอนนี้ผมได้รับบาดเจ็บ และนายก็น่าสงสัยมาก ก่อนที่เรื่องนี้จะถูกเปิดเผย การแข่งขันบาสเก็ตบอลในครึ่งหลังควรถูกเลื่อนออกไปก่อน !”
ลี่เหยียนหลานมองไปยังกรรมการตัดสินที่อยู่ข้างหลัง และพูดว่า “เรื่องนี้ให้ยึดตามกฎของกรรมการผู้ตัดสินดีกว่านะ คุณกรรมการผู้ตัดสินคะ คุณคิดเห็นว่ายังไงบ้างคะ คุณคิดว่าเพื่อเรื่องส่วนตัวบางเรื่องจำเป็นต้องทำลายกฎของการแข่งขันบาสเก็ตบอลทั้งหมดไหมคะ?”
กรรมการผู้ตัดสินขมวดคิ้วและมองไปยังฝั่งของมหาวิทยาลัย A ด้วยสายตาเหยียดหยามและพูดอย่างดูถูกว่า “การแข่งขันบาสเก็ตบอลระหว่างมหาวิทยาลัยนั้นจัดขึ้นทุกปี แต่เมื่อตอนนี้มหาวิทยาลัย A ของพวกคุณมีปัญหา พวกคุณก็ต้องจัดการปัญหาของตัวเอง ส่วนเกมส์การแข่งขันในครึ่งหลังจะเริ่มขึ้นตามกำหนดการเดิม”
“คุณ !”
เซี่ยซีหว่านรีบเอาตัวเข้ามาขวางทางหวังชงและผู้คนอื่น ๆ ไว้อย่างรวดเร็ว เธอส่ายหัวเบา ๆ และพูดกล่าวเตือนใจผู้คนมหาวิทยาลัย A ทุกคนด้วยน้ำเสียงไพเราะสดใสอย่างแจ่มชัดว่า “นี่คือความอคติของทุกคนที่มีต่อมหาวิทยาลัย A ของพวกเรา พวกเราผ่านช่วงเวลาแห่งความอดทนต่อความเหน็ดเหนื่อยมายาวนาน แทนที่เราจะทนฟังต่อว่าและแก้ปัญหาด้วยการใช้กำลัง พวเราค่อย ๆ แก้ปัญหาไปด้วยกันตั้งแต่ตอนนี้ไม่ดีกว่าเหรอคะ พวกคุณรออยู่ที่นี่ ฉันจะไปหาประธานลู่ตอนนี้ ฉันจะต้องเอากล้องวงจรปิดมาให้ได้ ใครลงมือทำอะไรก็อย่าคิดว่าจะหนีรอดไปได้เลย !”
เมื่อเซี่ยซีหว่านพูดจบ เธอก็หันหลังเดินจากไปในทันที
หวังชง ฟ่านเถียน และคนอื่น ๆ ต่างหยุดนิ่งชะงักไม่ไหวติ่งอยู่กับที่ในทันที นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขารู้สึกว่าทุกคนกำลังดูถูกเหยียดหยามพวกเขาและรู้สึกว่ามหาวิทยาลัย A กำลังได้รับความไม่เป็นธรรมอย่างโจ่งแจ้ง แต่ก็ไม่สามารถกล่าวโทษคนอื่นได้ ทั้งหมดเป็นเพราะว่าพวกเขาเองที่ไม่คิดถึงความก้าวหน้า ไม่แสวงหาความก้าวหน้า และเปิดโอกาสให้คนอื่น
พวกเขาจึงเริ่มรู้สึกเสียใจภายหลัง
…
เซี่ยซีหว่านรีบวิ่งไปหาลู่หานถิง ทันใดนั้นเธอก็เห็นรถยนต์สุดหรูคันยาวยี่ห้อโรลส์-รอยซ์ที่ด้านนอกซีฟางพลาซ่า ซึ่งมีคนกำลังเปิดประตูด้านหลังรถให้เขาด้วยความเคารพนอบน้อมอยู่ ลู่หานถิงกำลังจะขึ้นรถแล้ว
เขากำลังจะไปแล้ว
“ประธานลู่คะ โปรดรอก่อนค่ะ !” เซี่ยซีหว่านจึงรีบวิ่งไปข้างหน้าเพื่อไปหาลู่หานถิงอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักคุณสามี
กลับมาลงเรื่องนี้ต่อหน่อยค่ะ😁😁😁...
รอตอนต่อไปนานมากแล้ว ครับ...
นิยายแปลที่ติดตามก็ไม่มีการอัปเดทนิยายไทยก็เดิมฯเรื่องใหม่ก็เค้าโคลงจากเรื่องเดิมแม้จะเปลี่ยนชื่อแต่คนอ่านก็จำได้ค่ะ บางเรื่องที่ติดตามไปติดเหรียญที่เเอปอื่น ยังไงต่อไปดี...
ไม่มีอัพเดตต่อ...หรือเลิกแปลเรื่องนี้ไปแล้ว...
เรื่องนี้รออัปเดทนานมากค่ะนิ่งเลยค่ะ...