เธอไปแล้ว
แม่บ้านอู๋หม่ายืนนิ่งอยู่กับที่มองดูร่างเพรียวบางของเซี่ยซีหว่านด้วยความอาลัยอาวรณ์ “คุณหว่านหว่านทำไมจากไปเร็วขนาดนี้ค่ะ ดิฉันคิดว่าเธอจะอยู่ต่ออีกสองสามวัน เธอจากไปอย่างกะทันหัน ฉันก็รู้สึกใจหายอีกแล้ว”
จู่ ๆ ดวงตาของแม่บ้านอู๋หม่าก็เป็นสีแดงก่ำในทันที
หญิงชราทำใจไม่ได้ที่เซี่ยซีหว่านจะไปมากที่สุด แต่ท่านก็ไม่รั้งเธอไว้ ท่านรู้ว่าเพียงแค่ท่านอยู่ เซี่ยซีหว่านก็จะอยู่อย่างแน่นอน
แต่ท่านไม่มีหน้าที่จะเอ่ยคำนี้แล้ว
เซี่ยซีหว่านเคยเกือบตายเพราะลู่หานถิงมาครั้งหนึ่งแล้ว และตอนนี้จะให้คนตระกูลลู่เป็นภาระเธอได้อย่างไร?
เธอไม่ใช่คุณนายลู่แล้ว และตระกูลลู่ไม่ได้ให้การคุ้มครองและเป็นเกียรติที่เหมาะสมกับเธอ แล้วจะเอาเหตุผลอะไรมาให้เธอทุ่มเทอยู่ที่นี่ต่อไปล่ะ?
ไม่มีใครหยุดฝีเท้าของผู้หญิงคนนี้ได้ เธอควรไปได้ไกลกว่านี้และกลายเป็นตัวเองที่ดียิ่งขึ้น
คุณท่านมองดูลู่หานถิงที่อยู่ฝั่งตรงข้าม “อาถิง หลานไปส่งหว่านหว่านหน่อยสิ ตอนนี้ย่าสุขภาพดีแล้ว หลานยังไม่ได้คำนวณเงินเดือนให้หว่านหว่านใช่ไหม? หว่านหว่านไม่ใช่คนในครอบครัวอะไรของเรา เธอไม่ใช่อาสาสมัครที่จะมาทำให้เราฟรี ๆ หรอกนะ”
ลู่หานถิงเงียบไปสองวินาที จากนั้นก็ลุกขึ้นออกไป
...
เซี่ยซีหว่านกำลังเดินอยู่บนสนามหญ้า ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านหลัง จากนั้นมือใหญ่ก็เอื้อมมือไปคว้าข้อมืออันเรียวยาวของเธอไว้
เซี่ยซีหว่านหยุดเดินและหันกลับไป ใบหน้าที่หล่อเหลาของลู่หานถิงนั้นหล่อเหลามากในสายตาของเธอ เขาจ้องมองเธอโดยไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมา และดูเศร้าหมองไม่มีความสุข
“มีอะไรก็พูดมาค่ะ ปล่อยฉัน !” เซี่ยซีหว่านดึงข้อมือของเธอกลับอย่างแรง
แต่ไม่ได้ผล เพราะลู่หานถิงดึงเธอเอาไว้แน่น “คุณจะไปจริง ๆ เหรอ?”
“ร่างกายของคุณย่าใกล้จะหายดีแล้ว ฉันไม่จำเป็นต้องอยู่ต่อค่ะ”
ลู่หานถิงมองใบหน้าขนาดเท่าฝ่ามืออันสวยงามของเธอ นอกจากคุณย่าแล้ว เธอก็ไม่มีอย่างอื่นให้เธออาลัยอาวรณ์แล้วเหรอ?
ลู่หานถิงหยิบบัตรสีดำโลโก้สีทองออกมาแล้วยื่นให้ฝ่ามือขาวนุ่มของเธอ “นี่คือค่าตอบแทนของคุณ คุณสมควรได้รับ รับไปเถอะ”
เซี่ยซีหว่านมองลงไปที่บัตรสีดำโลโก้สีทองนี้ เมื่อก่อนคุณชายลู่ของเธอก็เคยมอบบัตรสีดำโลโก้สีทองให้เธอ “บัตรใบนี้ฉันไม่ต้องการค่ะ ไม่สะดวกที่จะนำบัตรไปถอนเงิน ฉันอยู่ที่นี่แค่สองสามวันเองค่ะ คุณให้ฉันแค่หนึ่งพันหยวนก็พอค่ะ รอคุณมีเงินสดแล้วค่อยให้ฉันเพิ่มก็ได้ค่ะ”
เซี่ยซีหว่านคืนบัตรสีดำโลโก้สีทองให้เขา และหันหลังไปจากที่นี่ทันที
ลู่หานถิงยืนแข็งทื่ออยู่กับที่ มองดูร่างผอมเพรียวของหญิงสาวหายไปในสายตาของเขาเล็กน้อย ไม่ช้าก็เร็วเธอก็ต้องไป เพราะเธอไม่ใช่ของเขาหรือของใคร เธอก็ไม่ยอมอยู่กับเขา แต่เขาไม่คิดว่าเธอจะไปเร็วขนาดนี้ ทำให้เขาตั้งตัวไม่ทัน
สำหรับลู่หานถิงมหาเศรษฐีที่โลดแล่นอยู่ในวงการธุรกิจตั้งแต่อายุสิบกว่าขวบนั้น สิ่งที่เขาน่าจะอยากได้มากสุดก็คือ สาวงาม แต่ทั้งสองคนไม่ได้ปรึกษากันเลย เธอจึงจากไปอย่างไร้ร่องรอย และเขาควรจะใช้ชีวิตในแบบของเขาต่อไป แต่…
แต่ทำไมจู่ ๆ หัวใจของเขาก็รู้สึกว่างเปล่า ทั้งเจ็บปวดและทุกข์ทรมานเช่นนี้?
ลู่หานถิงยกขาของเขาขึ้นเตะถังขยะเสียงดัง “โครม”
เขาหลับตาลงพร้อมกัยหายใจหอบอย่างหนัก มีเพียงการระบายอารมณ์แบบนี้เท่านั้นที่จะทำให้เขารู้สึกหายใจได้
...
ลี่เหยียนหลานมองไปที่เซี่ยซีหว่านด้วยรอยยิ้มแสนหวานบนใบหน้าเรียวเล็กของเธอ “เซี่ยซีหว่าน บรรดานักศึกษามหาวิทยาลัย A ทั้งหมดมารวมตัวกันที่นี่ทำไมเหรอ มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้นเหรอจ้ะ?”
บรรดานักศึกษามหาวิทยาลัย T ต่างเข้ามารุมล้อมกันอย่างรวดเร็ว
“อ้อ เหยียนหลาน เธอยังไม่รู้เหรอว่าวันนี้สถาบันวิทยาศาสตร์ลงประกาศตั้งแต่เช้าตรู่ว่าสถาบันอุดมศึกษาที่ไม่ผ่านเข้ารอบติดอันดับหนึ่งในห้าอันดับแรกในการสอบเข้าเอ็นทรานซ์จะถูกคัดชื่อออกน่ะ”
“อันดับของมหาวิทยาลัย A อยู่ที่สิบกว่า ซึ่งหมายความว่าพวกเขาแพ้แล้วยังไงล่ะ”
“แต่เมื่อคืนก็มีใครบางคนสามารถคว้าแชมป์บาสเกตบอลไปได้ น่าดีใจจังน่ะ แต่ทำไมวันนี้กลับโดนตีกลับสู่สภาพเดิมล่ะ ถ้ามีปัญญาครั้งนี้ก็สอบเข้าติดห้าอันดับแรกให้ได้สิ”
“พวกเธอดูถูกมหาวิทยาลัย A เกินไปแล้ว ถ้าพวกเขาสามารถติดหนึ่งในห้าอันดับแรกได้ ฉันจะเขียนชื่อกลับหัวเลย !”
เมื่อวานนี้มหาวิทยาลัย T พ่ายแพ้ในสนามแข่งบาสเก็ตบอลและเกิดเรื่องอื้อฉาว การทำร้ายร่างกายจนผู้อื่นได้รับบาดเจ็บของจ้าวเหว่ยนั้นเกือบจะทำลายชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย T จนหมดสิ้น แต่วันนี้เมื่อทุกคนเห็นประกาศจากสถาบันวิทยาศาสตร์ ช่วงใกล้จะสอบเอ็นทรานซ์ บรรดานักศึกษามหาวิทยาลัย T จึงรู้สึกราวกับว่าได้รับพลังความเป็นเจ้าถิ่นและมั่นใจในตัวเองกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว และตอนนี้ก็สามารถกลับมาดูหมิ่นมหาวิทยาลัย A อย่างดุเดือดได้อีกครั้ง
นักศึกษามหาวิทยาลัย A ต่างพากันโกรธจนหน้าดำหน้าแดง “พวกเธอกำลังพูดถึงใคร เชื่อหรือไม่ว่าฉันกล้าตบเธอ !”
การเผชิญหน้ากันของทั้งสองฝ่ายนั้นทำให้บรรยากาศโดยรอบถูกปกคลุมไปด้วยกลุ่มควันฟุ้งเต็มไปหมด เหตุการณ์ในครั้งนี้ยากที่ควบคุมได้
เซี่ยซีหว่านลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว ดวงตาสดใสของเธอจับจ้องไปที่ลี่เหยียนหลาน และพูดว่า “ลี่เหยียนหลาน ฉันได้ยินมาว่าเธอไม่ใช่แค่ดาวมหาลัยของมหาวิทยาลัย T แต่เธอยังเป็นนักศึกษาที่เรียนเก่งของมหาวิทยาลัย T อีกด้วย การสอบเอ็นทรานซ์ในปีที่แล้วเธอก็สอบได้ที่หนึ่งใช่ไหมล่ะ”
ลี่เหยียนหลานแสดงสีหน้าพึงพอใจ และพูดว่า “ใช่แล้วล่ะ ดูเหมือนว่าเธอจะสนใจฉันมากนะ เราเป็นผู้หญิงก็ยิ่งต้องอ่านหนังสือเยอะ ๆ สิ อย่าแต่งตัวสวยทั้งวันและมีแต่ความคิดคดโกงสิ ตอนนี้ก็ใกล้จะสอบเอ็นทรานซ์แล้ว ใครบางคนอาจจะเปิดเผยตัวเองออกมาก็ได้นะ ถ้าหากเป็นคนที่ไร้ความสามารถ เมื่อถึงเวลานั้นก็คงจะรู้สึกอึดอัดน่าดูเลยล่ะ”
เซี่ยซีหว่านหัวเราะพลางคิดว่าไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นคนชอบแต่งตัวทั้งวัน !
“ลี่เหยียนหลาน การสอบเอ็นทรานซ์ครั้งนี้ ฉันขอท้าเธออย่างเป็นทางการ เธอกล้ารับคำท้าของฉันไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักคุณสามี
กลับมาลงเรื่องนี้ต่อหน่อยค่ะ😁😁😁...
รอตอนต่อไปนานมากแล้ว ครับ...
นิยายแปลที่ติดตามก็ไม่มีการอัปเดทนิยายไทยก็เดิมฯเรื่องใหม่ก็เค้าโคลงจากเรื่องเดิมแม้จะเปลี่ยนชื่อแต่คนอ่านก็จำได้ค่ะ บางเรื่องที่ติดตามไปติดเหรียญที่เเอปอื่น ยังไงต่อไปดี...
ไม่มีอัพเดตต่อ...หรือเลิกแปลเรื่องนี้ไปแล้ว...
เรื่องนี้รออัปเดทนานมากค่ะนิ่งเลยค่ะ...