เซี่ยซีหว่านรีบออกมาจากโรงกลั่นไวน์ส่วนตัวอย่างรวดเร็ว จากนั้นเธอก็เห็นเซี่ยปังและหลานเหยียนกำลังรออยู่ข้างนอกแล้ว ทั้งสองคนกำลังนั่งอยู่ในรถหรู พวกเขาเชื่อฟังเธอมาก ไม่มีใครลงจากรถเลยสักคน แต่พวกเขาก็รอเธออย่างใจจดใจจ่อ และเห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังเป็นห่วงเธอมาก
“คุณพ่อเซี่ยคะ คุณแม่หลานคะ” เซี่ยซีหว่านรีบวิ่งไปหาพวกเขาอย่างรวดเร็ว
เซี่ยปังและหลานเหยียนรีบเปิดประตูรถและลงจากรถในทันที ทั้งสองคนจับมือเธอและพูดด้วยความรู้สึกกังวลและห่วงใยว่า “หว่านหว่าน ลูกไม่เป็นอะไรใช่ไหม ลูกเข้าไปในโรงกลั่นไวน์ส่วนตัวนี้แห่งนี้ใช่ไหม ที่แห่งนี้ไม่ใช่สถานที่ที่ดีอะไร ลูกเข้าไปที่นั่นคนเดียวได้ยังไง ถ้าไม่ใช่เพราะลูกห้ามไม่ให้พวกเราลงไป พวกเราคงรีบเข้าไปในนั้นแล้ว”
เซี่ยซีหว่านรู้ว่าพวกเขารู้สึกกังวลและเป็นห่วงเธอมาก ดังนั้นเธอจึงออกคำสั่งอย่างชัดเจนผ่านทางโทรศัพท์ว่าไม่ให้พวกเขาลงจากรถเด็ดขาด ทั้งสองคนจึงทำได้เพียงรออยู่ในรถอย่างใจจดใจจ่อเท่านั้น
“คุณพ่อเซี่ยคะ คุณแม่หลานคะ หนูไม่เป็นอะไรค่ะ หลิงหลิงอยู่ที่ไหนคะ พวกคุณได้รับเธอมาหรือเปล่าคะ?”
“พวกเรารับเธอมาสักพักแล้ว หลังจากนั้นกู้เยี่ยจิ่นก็มารับเยี่ยหลิงกลับไป เยี่ยหลิงปฏิเสธที่จะกลับไปกับเขา แต่กู้เยี่ยจิ่นบังคับเธอ เธอจึงต้องไปกับเขาน่ะ”
เซี่ยซีหว่านรู้สึกคลายกังวลในทันที เยี่ยหลิงจะปลอดภัยที่สุดเมื่ออยู่กับกู้เยี่ยจิ่น
“หว่านหว่าน ถ้ามีใครรังแกลูก ลูกต้องบอกพวกเรานะ พวกเราจะแก้แค้นให้กับลูกเอง” เซี่ยปังกล่าว
เซี่ยซีหว่านส่ายหัว และพูดว่า “คุณพ่อเซี่ยค่ะ แม้ว่าจะมีใครมารังแกหนู หนูก็ไม่ต้องการให้พ่อมาแก้แค้นแทนหนูหรอกค่ะ หนูสามารถแก้แค้นพวกมันได้ด้วยตัวเองค่ะ อย่างไรก็ตามหนูก็เป็นถึงลูกสาวของตระกูลเซี่ยนะคะ”
เมื่อได้ยินเซี่ยซีหว่านพูดเช่นนี้ ทั้งเซี่ยปังและหลานเหยียนก็รู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก ทั้งคู่เข้าใจดีว่าคนหนุ่มสาวสมัยนี้ล้วนต้องการอิสระและพื้นที่ส่วนตัว และพวกเขาต้องเคารพในคำพูดของเซี่ยซีหว่าน
“หว่านหว่าน ถ้าลูกมีอะไรที่ไม่สามารถจัดการได้ด้วยตัวเอง ลูกต้องบอกพวกเราในทันทีนะ พวกเราจะคอยเป็นผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งที่สุดของลูกเสมอ”
“ได้ค่ะ !”
“หว่านหว่าน ถ้างั้นพวกเรากลับบ้านกันเถอะ”
“คุณพ่อเซี่ยคะ คุณแม่หลานคะ” เซี่ยซีหว่านหยุดเรียกพวกเขาทั้งสองคน จากนั้นก็พูดว่า “หนูจะกลับบ้านในภายหลังค่ะ พวกคุณช่วยไปส่งหนูที่อื่นก่อนนะคะ”
“ที่ไหนล่ะ?”
“ตระกูลลู่ค่ะ !”
...
ณ ตระกูลลู่
ลู่ซือเจี๋ยกำลังจัดการกับเอกสารอยู่ในห้องหนังสือและมีซ่งหมิงพ่อบ้านส่วนตัวของเขาอยู่ภายในห้องเช่นเดียวกัน โดยปกติแล้วจะไม่มีใครสามารถเข้าไปรบกวนเขาได้ในเวลาเช่นนี้
หลิวจ้าวตี้ตั้งใจชงกาแฟเอามาให้เขาที่ห้องหนังสือด้วยตัวของเธอเอง จากนั้นเธอจึงยกมือขึ้นเคาะประตูห้องหนังสือ
หลังจากนั้นเพียงไม่นานก็มีเสียงทุ้มต่ำอันมีเสน่ห์น่าดึงดูราวกับแม่เหล็กของลู่ซือเจี๋ยดังขึ้นว่า
“เข้ามา”
จากนั้นหลิวจ้าวตี้ก็ผลักประตูเข้าไป
ลู่ซือเจี๋ยสวมเสื้อเชิ้ตสีดำกับกางเกงขายาวสีดำ เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงาน ส่วนซ่งหมิงถือเอกสารอยู่ในมือและกำลังยื่นมันให้เขาด้วยท่าทางเคารพ เขากำลังพูดกระซิบอะไรบางอย่างที่ข้างหูของซ่งหมิง ไม่นานนักซ่งหมิงก็ตอบกลับเพียงสองสามประโยคด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
หลิวจ้าวตี้เดินเข้ามาพลางกอดเขาแน่นจากทางด้านหลัง และพูดว่า “ซือเจี๋ยคะ คุณยังคงรู้สึกคิดถึง...อิ่งลั่วเหรอคะ?”
ตอนนั้นหลิวอิงลั่วกระโดดลงไปในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่พบศพของเธอ
ลู่ซือเจี๋ยไม่ได้พูดอะไร นัยน์ตาคมเข้มของเขาดูเหมือนจะพลุ่งพล่านด้วยบางสิ่งบางอย่าง เขาพูดว่า “ผมไม่อยากได้ยินชื่อของเธอ ดังนั้นอย่าพูดถึงชื่อของเธออีก”
ลู่ซือเจี๋ยต้องการผลักเธอออกไป
แต่หลิวจ้าวตี้ก็ยังคงกอดเขาเอาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย และพูดว่า “ซือเจี๋ยคะ ฉันเหนื่อยที่จะใช้ชีวิตแบบนี้แล้ว แม้ว่าเราจะนอนห้องเดียวกันมานานหลายปี แต่คุณไม่เคยแตะต้องตัวฉันเลย นี่มันก็จะ 20 ปีแล้วนะคะที่คุณปล่อยให้ฉันรู้สึกเดียวดายแบบนี้ !”
“ซือเจี๋ยคะ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าหลายปีที่ผ่านมานี้คุณจะไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉันเลย หลิวอิงลั่วหายตัวไปตั้งนานแล้ว เราเลิกใช้ชีวิตแบบนี้กันสักทีเถอะค่ะ เลิกอยู่ใต้เงาของเธอได้แล้ว !”
ตอนหลิวอิงลั่วจากไป ลู่ซือเจี๋ยอายุเพียง 30 ปีเท่านั้น มันเป็นช่วงชีวิตที่รุ่งโรจน์ของเขา แต่กลับไม่มีผู้หญิงอยู่ข้างกายของเขาสักคน เขาไม่แตะต้องตัวเธอเลยสักนิด ซึ่งแตกต่างจากพวกคนรวยคนอื่น ๆ มาก เมื่อเทียบกันแล้วชีวิตส่วนตัวของเขาค่อนข้างจะใสสะอาด
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว หลิวจ้าวตี้ไม่รู้ว่าชายผู้นี้มีชีวิตอยู่ได้อย่างไร เขาทั้งเย็นชา นิ่งสงบ และไร้อารมณ์
แต่สิ่งเหล่านี้เป็นแค่ของปลอม !
หากย้อนกลับไปตอนนั้น เขาสร้างห้องอาเจียวให้กับหลิวอิงลั่ว ตอนนั้นหลิวอิงลั่วกำลังตั้งท้องลู่หานถิงซึ่งเป็นลูกชายของเขา ตอนนั้นเธอยังเด็กมาก เธอมีอายุเพียง 20 ปีเท่านั้น
คืนนั้นเธอไปที่ห้องอาเจียว ในเวลานั้นหลิวอิงลั่วตั้งครรภ์ได้ 5 เดือน เธอไปเยี่ยมหลิวอิงลั่ว ในคืนนั้นลู่ซือเจี๋ยก็อยู่ที่นั่นเช่นเดียวกัน พวกเขาอยู่ในห้อง
หลิวจ้าวตี้จำฉากนั้นได้ดี ประตูไม่ได้ปิดสนิท เธอแอบยืนดูอยู่ด้านนอกประตูและมองผ่านช่องเล็ก ๆ เธอเห็นลู่ซือเจี๋ยกำลังจูบหลิวอิงลั่ว แต่หลิวอิงลั่วกลับทุบตีเขา อีกทั้งยังพยายามผลักไสเขาออกไปพร้อมกับพูดตะโกนว่า “ไปให้พ้นเจ้าคนชั่ว ฉันตั้งท้องแล้ว !”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พ่ายรักคุณสามี
กลับมาลงเรื่องนี้ต่อหน่อยค่ะ😁😁😁...
รอตอนต่อไปนานมากแล้ว ครับ...
นิยายแปลที่ติดตามก็ไม่มีการอัปเดทนิยายไทยก็เดิมฯเรื่องใหม่ก็เค้าโคลงจากเรื่องเดิมแม้จะเปลี่ยนชื่อแต่คนอ่านก็จำได้ค่ะ บางเรื่องที่ติดตามไปติดเหรียญที่เเอปอื่น ยังไงต่อไปดี...
ไม่มีอัพเดตต่อ...หรือเลิกแปลเรื่องนี้ไปแล้ว...
เรื่องนี้รออัปเดทนานมากค่ะนิ่งเลยค่ะ...