“เอ๋อใช่ วารุณี ตอนนี้ในโซเชียลกำลังร้อนระอุเลย ไม่ว่าจะเข้าไปเว็บไหน ก็สามารถเห็นข่าวของเธอ หากเป็นแบบนี้ต่อไป ฉันกลัวว่าชาวเน็ตสุดขั้วที่มีความเกลียดชัง จะตามมาที่บ้าน” ปาจรีย์ก็ไม่ได้มีเวลามาสนใจความรู้สึกของตัว มองวารุณีอย่างเป็นห่วง
วารุณีดึงมือของเธอมาเบาๆ “ไม่เป็นไรหรอก พรุ่งนี้มันก็จะถูกจัดการแล้ว”
“มีวิธีแล้วเหรอ?” แววตาของพงศกรเป็นประกาย
วารุณีพยักหน้า “ใช่จ้า”
“วิธีอะไร?” ปาจรีย์ถามด้วยความอยากรู้
วารุณียิ้มอย่างมีเลศนัย “พรุ่งนี้เช้าพวกเธอก็จะรู้แล้ว”
เห็นเธอพูดอย่างมั่นใจ ปาจรีย์กับพงศกรมองสบตากัน แล้วก็ไม่ได้ถามอีก
เวลาผ่านไปเร็วมาก พริบตาเดียวก็เที่ยงแล้ว
วารุณีรั้งเขาสองคนให้อยู่ต่อ ให้ทานอาหารเที่ยงก่อนแล้วค่อยกลับไปที่โรงพยาบาล
ปาจรีย์กับพงศกรไม่ได้ปฏิเสธ ต่างพากันพยักหน้าตกลง
หลังจากนั้น ปาจรีย์กับวารุณีก็เข้าไปทำอาหารในครัว ทิ้งให้พงศกรนั่งรออยู่ในห้องรับแขก
เขามองดอกไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะ ดอกไม้สดช่อนี้เป็นดอกกุหลาบ รู้สึกว่ามันบาดตามาก หลังจากที่แววตากะพริบผ่านด้วยไอเย็น อดไม่ได้ที่ยื่นมือไปทางช่อกุหลาบ
เสียงเพรี้ยงดังขึ้นมาหนึ่งที!
วารุณีกับปาจรีย์ที่อยู่ในห้องครัวได้ยินเสียงของแตกที่ดังมาจากห้องรับแขก ก็หยุดชะงักไปครู่หนึ่ง
“เสียงอะไร?” ปาจรีย์มองออกไปทางประตูห้องครัวแล้วถาม
วารุณีส่ายหัว ไม่รู้ “เหมือนอะไรแตกสักอย่าง”
“ออกไปดูก่อนเถอะ”
ขณะที่พูด ปาจรีย์ก็เอามือที่เปียกน้ำไปเช็ดกับผ้ากันเปื้อน แล้วเดินออกมาจากห้องครัว
วารุณีก็ตามมาอย่างใกล้ชิด เดินออกมาพร้อมกัน
ทันทีที่ออกมา ก็เห็นพงศกรคลานอยู่บนพื้น และรอบตัวเขา แก้วน้ำหลายใบแตกไปทั้งหมด
แน่นอน สิ่งที่น่าสงสารที่สุดก็คงเป็นช่อกุหลาบที่นัทธีมอบให้กับวารุณี เวลานี้ดอกกุหลาบถูกร่างของพงศกรทับอยู่ ดอกไม้ถูกทับจนแบน กลีบดอกไม้ก็กระจายไปทั่ว
ดอกไม้ช่อนี้ ได้ถูกทำลายไปแล้ว
“พงศกร คุณไม่เป็นไรใช่มั้ย?” มองพงศกรที่คลานอยู่บนพื้น สีหน้าของปาจรีย์เปลี่ยนไปทันที รีบวิ่งเข้าไปพยุงเขาขึ้นมา
วารุณีก็เข้ามาช่วย
ทั้งสองคนร่วมแรงกันช่วยพยุงพงศกรขึ้นมานั่งบนโซฟาอีกครั้ง
พงศกรนั่งลงแล้ว ก็มองวารุณีอย่างรู้สึกผิด “วารุณี ขอโทษด้วยนะ สร้างความวุ่นวายให้คุณแล้ว ทำแก้วน้ำและดอกไม้ของคุณพังหมดเลย”
วารุณีมองดอกไม้ที่พังไปแล้วบนพื้น บอกว่าไม่เสียดายนั้นไม่จริง อย่างไรเสียมันก็เป็นดอกไม้ที่นัทธีให้เธอ
แม้จะเป็นแบบนี้ เธอก็ไม่โทษเขา ทำได้เพียงฝืนยิ้มแล้วทำมือปฏิเสธ “ไม่เป็นไร พังก็พังไปแล้ว ก็แค่ดอกไม้กับแก้วน้ำเท่านั้นเอง คุณไม่เป็นก็ดีแล้ว ว่าแต่ เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ? ทำไมถึงไปได้ล้มลงอยู่บนพื้น?”
ปาจรีย์ที่กำลังเก็บเศษแก้ว ก็หยุดลงแล้วมองไปที่พงศกร เธอก็อยากจะรู้คำตอบเหมือนกัน
พงศกรยิ้มเจื่อนๆ “ผมอยากจะเข้าห้องน้ำน่ะ แต่ตอนที่เดินไม่ค่อยจะมีแรง ตอนที่ล้มลงไป แขนไม่ทันระวังจนทำให้ช่อดอกไม้และแก้วน้ำตกลงไปด้วย”
“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง” วารุณียกค้างขึ้นเล็กน้อย จากนั้นหันหน้ามองไปเศษแก้วที่ปาจรีย์กวาดเสร็จแล้ว “ปาจรีย์ เธอมาพยุงพงศกรไปเข้าห้องน้ำเถอะ ฉันจะเอาของพวกนี้ไปทิ้งเอง”
“ได้” ปาจรีย์พยักหน้า ก็ไปพยุงที่แขนของพงศกร
พงศกรที่ถูกเธอสัมผัสก็ขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ ถูกเธอพยุงเดินไปทางห้องน้ำ
เดินไปไม่กี่ก้าว จู่ๆเขาก็หยุดฝีเท้า หันหน้าไปมองวารุณีที่ถือช่อดอกไม้ที่พังออกไป มุมปากก็ค่อยๆโค้งขึ้น
ถึงอย่างไรระหว่างสองคนนี้ ความสัมพันธ์ซับซ้อนเหลือเกิน
“โอเค ในเมื่อพวกเธอพูดแบบนี้ งั้นฉันก็จะไม่ถาม ฉันเข้าไปในครัวก่อนล่ะ” วารุณีชี้ไปทางห้องครัว
“จ้า” ปาจรีย์ตอบรับ
พงศกรก็พยักหน้า
หลังจากทานข้าวเสร็จ ทั้งสองคนก็กลับไปที่โรงพยาบาล วารุณีก็กลับเข้าไปที่ห้องหนังสือไปวาดแบบต่อ
จนกระทั่งเธอวาดเสร็จ และเสียบหมุดเสร็จ ก็เป็นเวลาเลิกเรียนของโรงเรียนอนุบาลแล้ว
ในขณะที่วารุณีกำลังจะแต่งตัว เพื่อจะไปที่โรงเรียนรับไอริณกลับ โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อก็ดังขึ้นมาทันที
เธอพลางหาเสื้อในตู้เสื้อผ้า พลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู เมื่อเห็นว่าเป็นนัทธีที่โทรมา ก็รับสายโดยที่ไม่มีความลังเลเลย หลังจากรับสาย “ประทานนัทธี”
“ผมจะโทรมาบอกว่า เดี๋ยวผมจะไปรับไอริณเอง” นัทธีที่นั่งอยู่ในรถ มือข้างหนึ่งกำลังเคาะอยู่บนเข่า มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์เอาไว้ พูดกับปลายสายอย่างอ่อนโยน
วารุณีได้ยินเสียงรถทางฝั่งเขาแล้ว ท่าทางที่กำลังค้นหาเสื้อผ้าก็หยุดลงในทันที “ประธานนัทธี คุณอยู่ระหว่างทางไปโรงเรียนแล้วหรอคะ?”
“อืม” นัทธียกคางขึ้นเล็กน้อย
วารุณีปิดตู้เสื้อผ้า “งั้นก็ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะประธานนัทธี”
“ไม่ต้องขอบคุณ” นัทธีตอบอย่างอ่อนโยน จากนั้นก็วางสาย
พอดีเวลานี้ มารุตได้จอดรถเสร็จแล้ว หันหน้าไปเตือนเขา “ท่านประธาน ถึงโรงเรียนแล้วครับ”
“รู้แล้ว” นัทธีเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า เปิดประตูรถ เดินเข้าไปในโรงเรียน แล้วเดินไปที่ห้องเรียนของไอริณอย่างคุ้นทาง
แต่ไม่ได้เข้าไป เขายืนอยู่ตรงประตูได้ยินเสียงร้องไห้ของไอริณ “พวกเธอพูดไปเรื่อย ฉันมีพ่อ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...