“อะไรนะ?”วารุณีเม้มริมฝีปากอย่างสงสัย ไม่ค่อยเข้าใจความหมายของคำพูดนวิยา
นวิยามองเธอด้วยความโมโห“คุณน่าจะยังจำได้ว่า เมื่อก่อนฉันเคยพูดกับคุณแล้วว่า ให้คุณอยู่ห่างจากนัทธีหน่อยนะ?”
ได้ยินดังนั้น วารุณีจึงพยักหน้าอย่างซับซ้อน“จำได้ค่ะ”
นั่นเป็นตอนที่พงศกรประสบอุบัติเหตุแล้วเพิ่งเข้าโรงพยาบาล นวิยามาเยี่ยมพงศกร แล้วเจอเธออยู่ที่นั่นพอดี จากนั้นก็พูดคำพูดพวกนี้กับเธอ
นวิยาตบผ้าห่ม น้ำเสียงก็สูงขึ้น“ในเมื่อคุณยังจำได้ งั้นทำไมคุณไม่ทำตาม คุณไม่ละอายใจต่อฉันเลยเหรอ?ฉันรักนัทธี ตั้งแต่เด็กก็รักแล้ว ทั้งๆที่คุณรู้อยู่แล้ว กลับยังคบกันนัทธี คุณรู้ไหมว่าพฤติกรรมของคุณแบบนี้เรียกว่าอะไร?เรียกว่ามือที่สาม!”
วารุณีถูกเธอถามแบบนี้ ในใจก็เสียใจหน่อยๆ ละสายตาลง“ขอโทษจริงๆค่ะคุณนวิยา ไม่ใช่ว่าฉันไม่ได้ทำตาม แต่ว่าสิ่งต่างๆในโลกล้วนแต่ยากที่จะคาดเดา อีกอย่างฉันก็ไม่คิดว่าฉันจะมือที่สามของคุณกับประธานนัทธี”
“ไม่คิดว่า?”ดวงตานวิยาเบิกโตออกมา“ความหมายของคุณคือ คุณไม่คิดว่าคุณแย่งนัทธีไปจากฉัน?”
“ค่ะ”วารุณีเงยหน้าขึ้น ด้วยท่าทางจริงจัง“ประธานนัทธีบอกกับฉันว่า เขาไม่เคยรักคุณเลย เขาเห็นคุณเป็นน้องสาว พวกคุณก็ไม่เคยคบกัน ดังนั้นประธานนัทธีเป็นโสด ในเมื่อเป็นโสด งั้นฉันคบกับเขา ก็ไม่ถือว่าแย่งมา”
ถ้าหากในใจของนัทธีมีนวิยา ถึงแม้จะมีแค่นิดเดียว
เธอก็จะไม่คบกับนัทธี
“แก......แก......”นิ้วมือของนวิยาชี้ไปที่วารุณีอย่างสั่นๆ เห็นได้ชัดว่าโกรธเพราะคำพูดของเธอ
ผ่านไปไม่กี่วินาที นวิยาก็เอามือลง“ไป แกออกไปเดี๋ยวนี้ ฉันไม่อยากเห็นแกแล้ว ไปสิ!”
เธอตะโกนเสียงดัง
ริมฝีปากของวารุณีขยับ แต่ก็กันกลับออกไป
หลังจากออกไปแล้ว ก็เผชิญหน้ากับการจับตามองของนัทธีกับพิชิต เธอส่ายหน้า ไม่พูดอะไรสักคำ เดินไปที่ลิฟต์
นัทธีมองแผ่นหลังของเธอ แล้วตามไป
ในลิฟต์ หลังจากนัทธีกดชั้นล่างแล้ว ก็ถามว่า“นวิยาพูดอะไรกับคุณ?”
วารุณีไม่ปิดบังเขา หลังจากสูดลมหายใจลึกๆ ก็เอาคำที่พูดกับนวิยา พูดออกมา
นัทธีฟังจบ ก็เอาเธอมากอดไว้ในอ้อมแขนแน่นๆอย่างเบามือ“คำพูดของนวิยา คุณอย่าเอามาใส่ใจ”
วารุณีอยู่ในเอวที่แข็งแกร่งของเขา เอาหน้าเอนไปที่ไหล่เขา“แน่นอนว่าฉันไม่เก็บไปใส่ใจ ฉันก็ไม่ได้พูดอะไรผิดด้วย ฉันไม่ได้เป็นมือที่สามของพวกคุณอยู่แล้ว และก็ไม่ได้แย่งคุณไปเลยด้วย”
ก็แค่ในใจของเธอนั้น ยังรู้สึกผิดหน่อยๆ
นวิยาโทษที่ตอนนั้นเธอรับปากว่าจะอยู่ห่างนัทธีแล้ว แต่เธอทำไม่ได้จริงๆ
“อือ ผมรู้ว่าคุณไม่ได้ทำ”นัทธีหัวเราะเบาๆ จูบไปที่หน้าผากของวารุณี
วารุณีถูไถบ่าของเขา แล้วรัดอ้อมแขนของเขาแน่นขึ้น“งั้นคุณล่ะ คุณคุยกับคุณนวิยาแล้วไม่ใช่เหรอ คุยอะไรไป?”
นัทธีลูบผมนุ่มๆของเธอ“ผมบอกนวิยาไปว่าผมไม่ได้รักเธอ คนที่รักคือคุณ คนที่จะคบด้วย ก็คือคุณ”
วารุณีกะพริบตา“ตรงๆแบบนี้เลย?ไม่น่าล่ะคุณนวิยาถึงร้องไห้”
ตอนที่เธอเข้าไป นวิยาก็เช็ดน้ำตาอยู่นี่?
“พูดตรงไปหน่อย จะได้ทำลายความคิดของเธอไปเลย ล้วนแต่เป็นเรื่องดีของเธอกับพวกเรา”นัทธีจูงวารุณีออกไปจากลิฟต์
วารุณีกอดแขนของเขา“แต่ถ้าเธอไม่หยุดความคิดที่มีต่อคุณล่ะ?”
ชัดเจนว่านัทธีไม่ได้คิดถึงปัญหานี้ เขาเปิดประตูรถด้านที่นั่งข้างคนขับให้เธอ“ผมเชื่อว่านวิยาจะต้องคิดได้”
“เหรอ......”วารุณีละสายตาลง ปกปิดอารมณ์ที่อยู่ในดวงตาแล้วนั่งเข้าไปในรถ ไม่พูด
เธอไม่เชื่อว่านวิยาจะคิดได้ ยังไงก็รักนัทธีมาสิบปี ถ้าจะปล่อยไป ก็คงปล่อยไปนานแล้ว
อีกอย่าง หลายๆครั้ง ถึงจะไม่มีความรู้สึกแล้ว ความหมกมุ่นก็ยังมีอยู่ และความหมกมุ่น ก็น่ากลัวที่สุดด้วย
นัทธีปิดประตูรถที่นั่งคนขับ เดินผ่านหน้ารถเข้าไปในที่นั่งคนขับ“จะไปไหน?”
“ใช่!”ปาจรีย์พยักหน้าด้วยความดีใจอย่างมาก“หลักๆเป็นเพราะการแข่งชิงโควตากับความเห็นที่พ่อเลวๆคนนั้นของเธอทำออกมา ทำให้ชื่อเสียงของคุณพุ่งทะยานขึ้น ดังนั้นครั้งนี้พวกเราจึงทำเงินได้มาก”
“งั้นฉันต้องขอบคุณสุภัทรจริงๆ”วารุณีส่ายหน้าพลางหัวเราะ“โอเค เธอพรินต์ยอดขายมาหน่อยสิ จากนั้นแจ้งพวกเขา คืนนี้จัดงานฉลอง”
“โอเค”ปาจรีย์ตอบรับ จากนั้นก็ออกไป
วารุณีดึงลิ้นชักออก เอาอัลบั้มออกแบบด้านในออกมา แล้วเริ่มทำงาน
ตอนเที่ยง ปาจรีย์สั่งข้าวเสร็จ วารุณีลุกขึ้นบิดเอว กำลังจะกินข้าว จู่ๆโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานก็ดังขึ้นมา
เธอหยุดฝีเท้าลง หยิบโทรศัพท์มาดู เห็นเป็นนักสืบที่โทรมา ก็กดรับทันที
“คุณวารุณี แย่แล้วครับ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”น้ำเสียงร้อนรนเล็กน้อยของนักสืบดังออกมาจากโทรศัพท์
หน้าเล็กๆของวารุณีก็เคร่งขรึมขึ้นมา“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
“พิชญา......พิชญากระโดดตึกฆ่าตัวตาย”
“อะไรนะ?”รูม่านตาของวารุณีหดลง สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมาก และเสียงก็แหลมขึ้นมา
ปาจรีย์ที่อยู่ด้านนอกออฟฟิศขนาดใหญ่ได้ยิน รีบเงยหน้ามาดู“วารุณี เป็นอะไรไป?”
“พิชญากระโดดตึก!”วารุณีกำโทรศัพท์แน่น รีบตอบเธอทันที
ตะเกียบในมือปาจรีย์หล่นลงพื้น แต่ไม่สนใจที่จะเก็บ รีบเดินเข้าไป เดินมาหยุดตรงหน้าวารุณี“จริงหรือเปล่าเนี่ย?”
“ฉันก็อยากรู้”วารุณีกัดริมฝีปาก
คำพูดของเธอนี้ พูดกับนักสืบที่อยู่ปลายสาย
นักสืบมองกลุ่มคนตรงหน้าที่ล้อมกันอยู่ไม่ไกล น้ำเสียงจริงจังอย่างมาก“จริงครับ ผมเห็นพิชญากระโดดลงมาจากหน้าต่างห้องเธอเองกับตา ตอนนี้รถพยาบาลกับตำรวจ และสื่อต่างรีบมา น่าจะมีข่าวในอินเทอร์เน็ต”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...