พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ นิยาย บท 261

ปาจรีย์หยุดเยาะเย้ย เอาการ์ดเชิญสีดำใบหนึ่งในมือ ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความรำลึกยื่นให้เธอ“อ่ะ อันนี้ฉันได้มาตอนเช้า พ่อเลวๆของเธอให้คนส่งมาให้”

“อะไรเหรอ?”วารุณีรับมาอย่างสงสัย

ปาจรีย์เบะปากพูดว่า“การ์ดเชิญงานศพของพิชญา ให้เธอไปร่วมงานศพของเธอน่ะ”

ได้ยินดังนั้น สายตาวารุณีหม่นลง มุมปากฉีกยิ้มเป็นมุมออกมาอย่างเยาะเย้ย“เขารู้อยู่แล้วว่าฉันกับพิชญาไม่ถูกกัน ยังจะเชิญฉันไปร่วมงานอีก ไม่กลัวฉันก่อเรื่องอะไรที่งานศพเหรอ?”

“ใครจะไปรู้ล่ะ สมองของพ่อเลวๆคนนั้นของเธอกลับกลอก คนปกติอย่างพวกเราไม่เข้าใจหรอก”ปาจรีย์ยักไหล่

วารุณีเอาการ์ดเชิญทิ้งไว้ที่โต๊ะทำงาน“เอาเถอะ ในเมื่อเขาชวนแล้ว งั้นฉันก็จะไปดูหน่อยละกัน”

ปาจรีย์ดึงเก้าอี้นั่งลงไป“วารุณี ในเมื่อสุภัทรส่งการ์ดเชิญมาแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะแน่ใจแล้วนะ คนที่กระโดดตึกคือพิชญาน่ะ”

“ใช่พิชญาแหละ เมื่อกี๊ตำรวจโทรมาหาฉัน”วารุณีเปิดคอมไป ก็พูดที่คุยกับหัวหน้าปริญออกมา

ปาจรีย์ถอนหายใจอย่างรู้สึกปลง“โอเค ในเมื่อเธอตายแล้วจริงๆ งั้นฉันก็จะปล่อยวางความรังเกียจที่มีต่อเธอ ฉันไม่ได้ใจแคบขนาดรังเกียจคนตายได้”

“อือ ฉันก็ด้วย”วารุณีพยักหน้า

คนตายแล้วสิ่งที่ค้างคาต่อกันก็จากไปด้วย

เธอก็ไม่แค้นพิชญาอีกแล้ว

“โอเค ฉันไปทำงานละ งานเลี้ยงฉลองตอนกลางคืนอย่าลืมล่ะ”ปาจรีย์ยันโต๊ะยืนขึ้นมา

วารุณีตอบอือ แล้วหัวเราะ“วางใจเถอะ ฉันไม่ลืมแน่”

ที่จริงงานเลี้ยงฉลองนั้นมีเมื่อคืน แต่เนื่องจากเรื่องที่พิชญากระโดดตึก จึงทำให้หมดอารมณ์

ดังนั้นจึงเลื่อนเป็นคืนนี้

“โอเค งั้นฉันไปละ”ปาจรีย์หันกลับออกไป

หลังจากเธอไป วารุณีก็หยิบอัลบั้มออกแบบออกมา เริ่มทำงาน

จนช่วงเย็น เธอก็ยืดเอวบิดขี้เกียจ เอาอัลบั้มออกแบบวางกลับไปในลิ้นชักแล้วล็อกไว้ หยิบโทรศัพท์โทรหานัทธี

แป๊บเดียวก็รับสาย มีเสียงทุ้มหวานของนัทธีเข้ามา“ฮัลโหล”

“นัทธี เรื่องย้ายบ้าน เลื่อนเป็นพรุ่งนี้ได้ไหม?”วารุณีพิงพนักเก้าอี้ ใช้น้ำเสียงปรึกษากันพูดกับคนที่ปลายสาย

ชายหนุ่มขมวดคิ้ว“ทำไมล่ะ?”

“เมื่อวานฉันลืมบอกคุณ วันนี้สตูดิโอฉันมีงานเลี้ยงฉลอง”วารุณีแลบลิ้นออกมาอย่างรู้สึกผิด

คิ้วของชายหนุ่มคลายออก“ไม่ต้อง ย้ายบ้านตามเดิม พวกเสื้อผ้ากับของใช้ในชีวิตประจำวันอะไรพวกนั้น ผมให้มารุตเตรียมไว้หมดแล้ว คุณไม่ต้องเก็บอะไรทั้งนั้น ของที่สำคัญๆ ไว้ค่อยเอาไปก็ได้”

“อ๋า คุณเตรียมไว้หมดแล้ว?”วารุณีตะลึง

นัทธีพยักหน้าเล็กน้อย“ใช่”

วารุณีจับหน้าผาก“คุณนี่รอบคอบไม่ขาดตกบกพร่องจริงๆ อะไรก็คิดแทนฉันไว้หมดแล้ว แบบนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วฉันจะถูกคุณทำเสียคน จากนั้นก็เอาแต่พึ่งคุณเรื่อยๆ”

“พึ่งผมไม่มีตรงไหน ยิ่งคุณพึ่งผม ต่อไปก็จะไปจากผมไม่ได้“นัทธียกมุมปากขึ้นมา พูดอย่างแข็งแกร่ง

วารุณีกลืนไม่เข้าคายไม่ออก“โอเค ไม่มีอะไรแล้ว ฉันวางก่อนนะ”

“เดี๋ยว”นัทธีเรียกหยุดเธอไว้

วารุณีเอาโทรศัพท์วางกลับไปที่ข้างหูใหม่“ทำไมเหรอ?”

“งานเลี้ยงฉลองพวกคุณจัดที่ไหน?”นัทธีจัดท่านั่งเล็กน้อยแล้วถาม

“สุนทรีอเวนิว”วารุณีพูดที่อยู่ออกไป จากนั้นก็กะพริบตา“คุณจะมาเหรอ?”

สุนทรีอเวนิวคือสถานที่ที่มีชื่อเสียงในจังหวัดจันทร์

ด้านในมีรายการทุกอย่างทั้งกินดื่มเล่น งานเลี้ยงฉลองของพวกเขาคืนนี้ ก็กินข้าวก่อน จากนั้นร้องเพลง

หญิงสาว ซึ่งก็คือสุชาดา กอดอกด้วยใบหน้าหยิ่งผยอง“คิดออกแล้วเหรอ?”

วารุณีหัวเราะ แต่รอยยิ้มกลับไม่สอดคล้องด้วย ดูห่างเหินและเกรงใจ“อือ เธอเตือนฉัน ก็เลยคิดออก เธอเปลี่ยนไปอย่างมาก”

เธอสำรวจหญิงสาวตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า

ผู้หญิงตรงหน้านี้เป็นรูมเมทตอนปีหนึ่งที่มหาวิทยาลัยจันทร์ ของเธอเมื่อเจ็ดปีก่อน คณะศิลปศาสตร์ แต่ความสัมพันธ์ไม่ดีนัก เพราะว่าสถานภาพทางครอบครัวของสุชาดาไม่ดี ตัวเธอก็ดูบูดบึ้งและต่ำต้อย ปฏิบัติต่อทุกคนในห้องพักอย่างไม่ดี

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเธอ ที่ไม่ถูกชะตาอย่างมาก อะไรก็เอาแต่ตำหนิ ไม่มีเหตุผลสักนิด แต่ก็คนที่แทบจะเหยียบเธอจมดินแบบนี้นี่แหละ ดันมาทักเธอก่อนเอง ทำให้เธอแปลกใจอย่างมาก

“ใช่ ตอนนี้ฉันเป็นนางแบบ ถึงมีชื่อเสียงเล็กน้อย ก็เปลี่ยนแปลงมากแล้วไม่ใช่เหรอ”สุชาดายิ้มอย่างภูมิใจ

วารุณีฟังความโอ้อวดในน้ำเสียงของเธอออก มุมปากก็กระตุก“ที่แท้ก็แบบนี้ ส่วนสูงน้ำหนักของเธอดี เหมาะกับเป็นนางแบบมาก ยินดีด้วย”

“ขอบคุณนะ”สุชาดาลูบกระเป๋าที่คล้องแขนไว้เหมือนไม่ตั้งใจนัก“งั้นเธอล่ะ?ตอนนี้เธอทำอะไร ยังเป็นดีไซเนอร์เสื้อผ้าอยู่ไหม?”

“ใช่”วารุณีพยักหน้า

สุชาดาปิดปากยิ้มออกมาอย่างดูถูก“ดูเหมือนเธอจะใช้ชีวิตไม่เท่าไหร่นะ?”

“อ้อ?”วารุณีเลิกคิ้วขึ้น“ยังไงเหรอ?”

“ชื่อเสียงไง ฉันอยู่ในวงการแฟชั่น ไม่เคยได้ยินเธอเลย”

สุชาดามองวารุณีไปรอบๆ ในแววตาเต็มไปด้วยความสะใจของคนที่เหนือกว่า“ดูสิตอนนั้นเธออยู่ที่มหาวิทยาลัยจันทร์ เป็นถึงคนมีพรสวรรค์ที่มีชื่อเสียงของสาขาออกแบบเสื้อผ้า ทำไมตอนนี้เป็นแบบนี้ล่ะ ไม่งั้นก็ขอร้องฉันสิ ถ้าขอร้องแล้วฉันมีความสุขล่ะก็ ฉันจะแนะนำดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียงให้เธอ ให้เธอรับเธอไว้เอาไหม?”

พูดจบ เธอก็จ้องวารุณีเขม็ง รอให้วารุณีพูด

แค่วารุณีพูด เธอก็จะสามารถเหยียบหญิงสาวที่มีพรสวรรค์ที่ทำให้เธอทั้งหมั่นไส้และอิจฉาตาร้อนคนนั้น ในตอนนั้นไว้ใต้เท้าได้

วารุณีมองความคิดในใจของสุชาดาออก รู้ว่าเธอจงใจหาเรื่อง สายตาก็เย็นชา กำลังจะพูด

จู่ๆปาจรีย์ก็เดินมาจากด้านหน้าด้วยใบหน้าโกรธจัด เอาวารุณีไปไว้ด้านหลัง“น่าตลก ก็แค่นางแบบโสเภณีที่ไม่มีชื่อเสียงอะไร แต่กล้าคุยโวโอ้อวดอย่างไม่รู้สึกกระดากอาย!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ