“เท่าไหร่?”วารุณีวางกระเป๋าสะพายลงแล้วนำไปแขวนไว้
ปาจรีย์เดินตามเธอ แล้วพลิกเอกสารที่อยู่ในมือดู “รวมๆแล้วก็สามล้าน”
เมื่อได้ยินตัวเลขนี้ ขาของวารุณีก็ชะงักงันไป จากนั้นก็หัวเราะออกมา อย่างโกรธจัด
“ยื่นอุทธรณ์ ยังไงเรื่องนี้ก็ต้องยื่นอุทธรณ์!”เธอดึงเก้าอี้ในห้องทำงานออกแล้วนั่งลง “ขโมยเงินสองพันบาทก็แจ้งความได้แล้ว นี่มันสามล้านเชียวนะ ในเมื่อพวกเขาสองคนกล้าทำอะไรแบบนี้ ฉันก็จะให้พวกเขาไปใช้ชีวิตอยู่ในคุกซะ!”
ปาจรีย์ปิดแฟ้มเอกสารลงแล้วหัวเราะออกมา “เธอพูดถูก เราไม่เพียงจะแจ้งความจับพวกเขาเข้าคุก แต่เราจะเอาเงินพวกนั้นกลับคืนมาด้วย”
วารุณีเปิดคอมพิวเตอร์“ใช่ แต่ผู้หญิงคนนั้น......”
“ฉันได้กำชับกับทางตำรวจแล้ว พวกเขาก็กำลังตามหาตัวอยู่ เชื่อว่าอีกไม่นาน ก็น่าจะได้ความคืบหน้า” ปาจรีย์กล่าว
นี่คือสิ่งที่วารุณีอยากจะได้ยิน เธอตอบอืมกลับมาคำหนึ่งแล้วไม่ได้พูดอะไรอีก
“งั้นฉันไปก่อนนะ?”ปาจรีย์ชี้ไปทางประตู
วารุณียิ้มให้ “ไปเถอะ”
หลังจากที่เธอไปแล้ววารุณีก็เริ่มวุ่นอยู่กับการทำงานขึ้นมาเช่นกัน
ทำงานจวบจนเวลาล่วงเลยมาบ่ายสองโมง ประธานวรวีของสมาคมออกแบบก็โทรมาหา ว่าให้เธอแวะไปที่สมาคมหน่อย
เมื่อมาถึงสมาคมก็เกือบจะสามโมงแล้ว
วารุณีเปิดประตูห้องทำงานของประธานวรวีแล้วเดินเข้าไป หลังจากที่เข้ามาได้ ก็เห็นว่าภายในห้องนั้นไม่ได้มีแค่ประธานวรวีคนเดียว ยังมีหญิงสาวหน้าตาสะสวยคนหนึ่งอยู่ด้วย
ตอนที่เธอมองไปที่หญิงสาวคนนั้น หญิงสาวคนนั้นก็มองมาที่เธอเช่นกัน ยังส่งยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตรกลับมาด้วย
เมื่อวารุณีเห็นดังนั้น ก็นิ่งอึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นก็ส่งยิ้มกลับไป แล้วจึงเอ่ยเรียก “ประธานวรวี”
ประธานวรวีที่กำลังนั่งดูเอกสารอยู่ เมื่อได้ยินเสียงเรียก ก็เงยหน้าขึ้น “ มาแล้วเหรอคุณวารุณี ”
วารุณีตอบกลับ “ค่ะ ไม่ทราบว่าที่ให้มาหา มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ ? ”
ประธานวรวีปิดเอกสารที่อยู่ในมือลง“ มีสองเรื่องครับ เรื่องแรกการแข่งขันระดับนานาชาติยังเหลือเวลาอีกหนึ่งเดือน กฎระเบียบของการแข่งขันออกมาแล้ว คุณเอากลับไปดูนะ”
ในขณะที่พูด เขาก็ยื่นเอกสารนั้นส่งมาให้กับวารุณี
วารุณีรีบรับมันมา เปิดดูผ่านๆแล้วแนบเอาไว้กับอก “ได้ค่ะ ฉันจะกลับไปดูมันอย่างละเอียด แล้วเรื่องที่สองล่ะคะ?”
“เรื่องที่สอง เกี่ยวข้องกับคุณลีน่าคนนี้” ประธานวรวีชี้ไปที่หญิงสาวคนนั้นแล้วแนะนำ“คุณลีน่าคนนี้เป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ในประเทศของเรา เธอคือนักออกแบบเครื่องประดับชื่อดัง ”
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อลีน่า หรือเรียกฉันว่านาน่าก็ได้ค่ะ” ผู้หญิงคนนั้น ยิ้มแล้วยื่นมือมาหาวารุณี
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อวารุณีค่ะ ” วารุณีก็รีบยื่นมือออกมาด้วยเช่นกัน
เธอมีความรู้สึกดีๆกับลีน่าคนนี้
เมื่อครู่ในตอนที่เธอเดินเข้ามา ลีน่าก็ส่งยิ้มมาให้เธอ แล้วยิ้มนั้นก็ดูจะเป็นมิตรมาก คนแบบนี้ เธอสบายใจที่จะคบหาด้วย
“ฉันรู้จักคุณค่ะ ” ลีน่าเก็บมือเข้าที่ “ คุณก็เป็นนักออกแบบเสื้อผ้าที่มีชื่อเสียงในประเทศของเราเหมือนกัน”
คำชมแบบนี้ ทำให้วารุณีรู้สึกเขินอายเล็กน้อย จึงยิ้มออกมา“คุณลีน่าพูดเกินไปแล้ว ชื่อเสียงของฉันยังไม่ถือว่าเป็นนักออกแบบที่ขึ้นชื่ออะไรในประเทศหรอกค่ะ ”
ลีน่าเอามือลูบไปที่คางแล้วครุ่นคิด “หากคุณวารุณีใช้ชื่อนี้ ก็ยังคงจะพอถูไถไปได้ แต่หากเพิ่มสถานะของMinaเข้าไปด้วย ในแวดวงนักออกแบบของกลุ่มคนรุ่นหลัง สถานะของคุณนั้นก็ถือว่าอยู่ในจุดสูงสุดแล้ว ”
“นี่คุณ......”วารุณีถึงกับประหลาดใจจนเบิกตากว้าง
ลีน่ายิ้มแล้วพูดว่า“แปลกใจเหรอคะว่าฉันรู้ได้ยังไงว่าคุณคือMina ?”
วารุณีพยักหน้าให้อย่างงุนงง
เมื่อเห็นความกังวลในแววตาของวารุณี แต่ลีน่าเองก็ไม่รู้ว่าเธอกำลังกังวลใจเรื่องอะไร ตบไปที่ไหล่ของเธอ “วางใจเถอะ เงินที่ได้มา เรามาแบ่งกันคนละครึ่งดีไหม ?”
วารุณีถึงกับอธิบายมันไม่ถูก “ไม่เกี่ยวกับเรื่องเงิน แต่ว่า......”
เธอพูดความกังวลในใจที่มีของเธอออกมา
ลีน่าหัวเราะ “เฮ้ย ฉันก็คิดว่าเรื่องอะไร วางใจเถอะ มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คุณคิด ก่อนที่ฉันจะมาหาคุณ ได้ติดต่อกับเจ้าหญิงก่อนแล้ว และได้ให้เจ้าหญิงดูผลงาน‘Bath fire rebirth’กับ Glory of the sun and the moon ของคุณแล้ว เธอชอบมันมาก”
“จริงเหรอ?” วารุณีกะพริบตาอย่างแปลกใจ
ลีน่าพยักหน้าให้ “จริง คุณคิดว่าฉันจะโกหกคุณหรือไง หากพลาดโอกาสนี้ไป ก็ไม่มีครั้งหน้าแล้วนะ เพราะฉะนั้นคุณต้องคิดให้รอบคอบ”
“ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว ฉันรับงานนี้”วารุณียื่นมือออกมา
ทั้งสองจับมือกัน แล้วยิ้มให้กัน
จากนั้น ทั้งสองก็ได้ลงนามในสัญญาความร่วมมือ ภายใต้ประธานวรวีที่เป็นพยานให้
เมื่อเดินออกจากสมาคม ลีน่าก็เห็นรถที่มารับตัวเอง เธอโบกมือไปยังรถคันนั้น จากนั้นก็หันกลับมาหาวารุณีแล้วพูดว่า “วารุณี ฉันไปก่อนนะ พรุ่งนี้ฉันจะเอาอัญมณีพวกนั้นไปหาคุณที่บริษัท หารือเรื่องแนวทางการออกแบบกัน”
“ได้ เดินทางปลอดภัยนะ”วารุณียกยิ้มแล้วตอบกลับไป
ลีน่าไปแล้ว เธอก็ไม่ได้อยู่ต่อ ขับรถกลับไปที่บริษัท จากนั้นก็ทำงานจนวุ่นอยู่อีกสองชั่วโมง นัทธีก็จึงมา
เมื่อนัทธีเห็นเธอมีใบหน้าที่ยิ้มแย้ม อดไม่ได้ที่จะถามว่า “อารมณ์ดีนะ ?”
“นี่คุณมองออกด้วยเหรอ”วารุณีที่กำลังคาดเข็มขัดนิรภัยอยู่ ก็ตอบกลับไปว่า“ ฉันได้รับงานใหญ่มางานหนึ่ง ”
เธอเล่าเรื่องที่เธอร่วมงานกับลีน่าให้ฟัง
หลังจากที่นัทธีฟังจบ แววตาก็ทอประกายประหลาดบางอย่าง“ช่างบังเอิญจัง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...