ในฝัน เธอฝันถึงตัวเองใส่กระโปรงที่ดูดีมาก กำลังนั่งอยู่หลังเบาะของรถคันหนึ่งและเล่นตุ๊กตาหมีที่น่ารักมากอยู่
ส่วนแม่เธอกำลังนั่งขับรถอยู่เบาะคนขับและคุยโทรศัพท์กับใครสักคนอยู่
แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอีกฝั่งของสายนั้นเป็นใคร ยิ่งไม่รู้ว่าคนนั้นพูดเรื่องอะไร จากนั้นแม่ก็ทะเลาะกับคนนั้นขึ้นมาแล้ว สีหน้าดูแย่มาก ต่อไปสีหน้าของแม่เปลี่ยนไป เหยียบเบรกลงไปและจอดรถลงมา
จากนั้นแม่พาเธอลงจากรถ เห็นชายหนึ่งหญิงหนึ่งที่ทั้งตัวเปื้อนเลือดอยู่หลังรถ ทันใดนั้นตกใจจนเสียขวัญ
"อ๊า!" วารุณีกรีดร้องขึ้นมาอย่างหวาดหวั่นและตกใจพร้อมกับลุกขึ้นมานั่งบนเตียง สีหน้าซีดขาวมาก เหงื่อตรงหน้าผากไหลลงมาเป็นหยดใหญ่ๆ แม้กระทั่งบนตัวยังเหงื่อออกจนเปียกแล้วเช่นกัน เสื้อติดกับหลังรู้สึกเย็นมาก
วารุณีหอบเป็นคำใหญ่ๆ พยายามทำให้ตัวเองสงบลงจากความหวาดกลัวในใจ
ผ่านไปแล้วเนิ่นนานเธอถึงพอสงบสติลงได้เล็กน้อยแล้ว ยกน้ำที่อยู่บนหัวเตียงมาดื่มอย่างรวดเร็วจนหมดแก้ว จากนั้นพิงอยู่บนเตียงและนวดขมับขึ้นมา
"ทำไมฉันถึงฝันร้ายถึงเรื่องแบบนี้" วารุณีพูดพึมพำโดยในใจยังคงรู้สึกหวัดหวั่นจากเหตุการณ์เมื่อกี้อยู่
ฝันนี้ชัดเจนเกินไปแล้วจริงๆ
ชัดเจนจนเธอคิดว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงแล้ว
วารุณีก็นั่งอยู่บนเตียงแบบนี้ไปจนถึงฟ้าสว่าง จากนั้นถึงเปิดผ้าห่มออกและลงจากเตียงไปล้างหน้าแปรงฟันและลงไปชั้นล่าง
วันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ ลูกสองคนไม่ต้องไปโรงเรียน
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว วารุณีให้ลูกสองคนอยู่ในบ้านอย่างเชื่อฟัง ส่วนตัวเองขับรถไปที่บริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ป
วันนี้เธอได้นัดกับนัทธีไว้แล้ว จะไปดูหลักฐานอันที่เขานั้นบอก
ดังนั้นเธอจะต้องไปแน่นอน
วารุณีมาถึงบริษัท ไชยรัตน์ กรุ๊ป หลังจากจอดรถเรียบร้อยแล้วก็เข้าไปในตึกเลย นั่งลิฟต์ที่เป็นของนัทธีโดยเฉพาะขึ้นไปชั้นบนสุด
มารุตกำลังออกมาจากออฟฟิศของนัทธีพอดี เมื่อเห็นเธอตาแอบกะพริบเล็กน้อย ยิ้มทักทายว่า "คุณหญิง"
ถึงแม้ท่าทีที่ประธานมีต่อเธอจะเย็นชาลง
แต่เขาก็ทำแบบนี้ไม่ได้ ควรเป็นท่าทียังไงยังคงต้องเป็นท่าทีอย่างนั้น
วารุณีพยักหน้าให้มารุตเล็กน้อย "เขาอยู่ข้างในไหม"
มารุตรู้ว่าเธอกำลังถามถึงนัทธีอยู่ ผลักแว่นตาและตอบว่า: "ประธานไม่อยู่ชั่วคราว กำลังประชุมอยู่ที่ห้องประชุมอยู่เลย คุณหญิงสามารถเข้าไปรอสักครู่ได้"
"ได้" วารุณีขยับมุมปากเล็กน้อย "งั้นถ้าเขาประชุมเสร็จแล้ว รบกวนคุณให้เขามาที่นี่เลย"
"ได้" มารุตตอบกลับคำหนึ่ง
วารุณีผลักประตูออฟฟิศประธานเข้าไป เดินไปนั่งลงตรงโซฟา
หลังจากนั่งลงแล้ว เธอมองรอบๆ ออฟฟิศของนัทธีรอบหนึ่งเล็กน้อย เห็นว่าออฟฟิศของเขาไม่เหมือนกับครั้งที่แล้วที่ได้เห็น
ในนออฟฟิศมีสิ่งของอย่างอื่นมาเพิ่ม โดยเฉพาะของเล่นฟิกเกอร์
วารุณีเห็นของเล่นฟิกเกอร์กับของกินเล่นที่วางอยู่บนโซฟาตรงข้าม ทันใดนั้นสีหน้าดูแย่ลงทันที
เธอแทบไม่พาอารัณกับไอริณมาที่นี่เลย เพราะฉะนั้นเขาที่นี่ไม่มีทางเอาสิ่งของที่อารัณกับไอริณชอบมาไว้ที่นี่แน่นอน
อีกอย่าง เธอเคยเห็นของเล่นฟิกเกอร์นั้น นั่นเป็นของนวิยา
ส่วนของกินเล่นนี้ก็น่าจะเป็นของนวิยาเหมือนกัน
วารุณีเม้มปากแดงไว้แน่น ในใจเปรี้ยวและฝาดมาก
นัทธีดีกับนวิยาจริงๆ เลย เอาออฟฟิศของตัวเองให้นวิยาทำเป็นห้องพักผ่อนแล้วใช่ไหม
ทันใดนั้นวารุณียังมีภาพที่ขณะที่นัทธีทำงานอยู่ ส่วนนวิยานอนเล่นของเล่นและกินของว่างอยู่บนโซฟาขึ้นมาในหัว ทำให้ในใจเธอมีไฟแห่งความโกรธเคืองลุกขึ้นมา
ตอนแรกเธอก็ไม่ได้คิดจะหาเรื่องนวิยาอย่างตอนนี้
แต่การที่นัทธีกับนวิยาตัวติดกันตลอดเวลาในช่วงนี้ทำให้เธอรู้สึกกระแนะกระแหนมาก
แต่ถึงจะเป็นแบบนี้ เธอยังคงไม่ได้ไปเอาเรื่องนวิยาอยู่ดี
แต่ตอนนี้สิ่งของของนวิยาวางไว้ในออฟฟิศของนัทธีอย่างเปิดเผยเช่นนี้ ตอนนี้เป็นของเล่นกับของกินเล่น ครั้งหน้าก็จะเป็นเสื้อผ้ากับของใช้ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่
เพราะฉะนั้นเธอจะไม่ทนอีกต่อไปแล้ว แม้เธอใกล้จะหย่ากับนัทธีแล้วก็ตาม แต่ตอนนี้ยังไม่ได้หย่ากันเลย เธอยังคงเป็นภรรยาของนัทธีอยู่ งั้นเธอก็จะใช้สิทธิ์ที่เธอเป็นภรรยา จะไม่ให้นวิยาบินขึ้นไปบนหัวเธอเด็ดขาด
เธอจะไม่เหมือนแม่เด็ดขาด ต่อหน้ามือที่สามได้แต่อดทนตลอดเวลา หลังจากนั้นก็ถูกสุภัทรย้ายชื่อออกจากทะเบียนบ้านโดยไม่ได้อะไรเลย
เมื่อนวิยาเผชิญหน้ากับความกดดันที่ไม่หยุดของวารุณีก็แสดงต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว รอยยิ้มร้ายกาจโผล่ขึ้นมาบนหน้า "สิทธิ์เหรอ"
"หรือว่าฉะนพูดผิดแล้วหรือเปล่า" วารุณีจ้องมองเธอ "อยู่ที่นี่ คุณเป็นลูกน้อง ฉันเป็นภรรยาของเจ้านายคุณ คือเจ้านายหญิงของคุณ คุณเคยเห็นเจ้านายหญิงคนไหนคุยเรื่อยเปื่อยกับลูกน้อง ถึงจะมี นั่นก็เป็นเจ้านายหญิงให้ลูกน้องคุยเป็นเพื่อนด้วย แต่ไม่ใช่ลูกน้องมาขอเจ้านายหญิงคุยด้วย คุณเข้าใจไหม"
"แก..." นวิยาไม่รู้ว่าวันนี้วารุณีเป็นบ้าอะไร ทำไมอยู่ๆ กลายเป็นเก่งขนาดนี้ ทั้งคนโมโหจนตัวสั่น
"สิ่งเหล่านั้นเป็นของคุณใช่ไหม" วารุณีไม่คิดจะปล่อยเธอไปเลย ชี้ของเล่นกับของกินเล่นที่อยู่ฝั่งตรงข้ามและพูด
นวิยามองวารุณีอย่างระมัดระวัง "แกจะทำอะไร"
วารุณีโค้งปากอย่างเย็นขา "เป็นลูกน้องคนหนึ่ง เอาสิ่งของตัวเองมาไว้ในออฟฟิศของเจ้านาย ฉันยังอยากถามเลยว่าคุณจะทำอะไร คือจะบอกคนอื่นว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเจ้านายไม่ธรรมดาเหรอ หรืออยากบอกทุกคนว่าคุณก็คือภรรยาของเจ้านาย"
คำพูดนี้ทำให้สีหน้าของนวิยาเปลี่ยนไป อ้าปากค้างไว้พูดอะไรไม่ออก
วารุณีเห็นแล้ว ดูตาของเธอเต็มไปด้วยความกระแนะกระแหน "สงสัยฉันจะพูดถูกแล้ว"
"ไม่ใช่ ฉันก็แค่ออฟฟิศของตัวเองไม่พอวาง จึงเอามาวางที่นัทธีตรงนี้ อีกอย่าง นัทธีเป็นพี่บุญธรรมของฉัน ฉันเอาของฉันมาไว้ที่นี่เป็นอะไรเหรอ" นวิยาพูดอย่างไม่พึงพอใจ
วารุณีเสยผมเล็กน้อย "ช่างเป็นคู่พี่น้องบุญธรรมเลยจริงๆ ฉันยังไม่เคยเห็นน้องสาวบุญธรรมคนไหนที่มีความคิดอย่างอื่นกับพี่ชายบุญธรรมเลยเหมือนกัน คุณทำแบบนี้ไม่รู้สึกผิดต่อคุณหมอพิชิต"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...