วารุณีหน้าแดงขึ้นมา แล้วเห็นแววตาที่คาดหวังของเด็กสองคนนี้ คำพูดที่ปฏิเสธก็พูดออกจากปากไม่ได้ แล้วพยักหน้าตอบกลับ “ได้ มาตอนสุดสัปดาห์เถอะ”
“ได้” ไอริณยกมือเล็กๆด้วยความดีใจ
อารัณก็ยิ้มขึ้นมาทันที
แม้แต่นัทธียังยิ้มเล็กน้อย
หลังจากนั้น ครอบครัวทั้งสี่คนก็พูดคุยกันไปสักพัก แล้วถึงจะจบวิดีโอคอล
“วารุณี เธอเสร็จหรือยัง ยังมีเวลาอีกครึ่งชั่วโมง การประกวดรอบแรกจะเริ่มขึ้นแล้ว” เวลานี้ จู่ๆ เชอรีนเคาะประตู แล้วเร่งนอกประตู
วารุณีวางมือถือลง "รีบหน่อยก็ดี"
"ได้ เธอรีบหน่อยเถอะ ฉันจะไปสั่งงานคนขับหน่อย" เสียงของเชอรีนไปไกลแล้ว
วารุณีตอบกลับเสียงอืม แล้วรีบกลับเรือนเปลี่ยนเสื้อผ้าและแต่งหน้า
หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไป ทั้งสองก็มาถึงโรงประกวด
วันนี้เป็นวันแรกที่เริ่มการประกวดอย่างเป็นทางการ เป็นการประกวดรอบแรก
การประกวดรอบแรกมีความหมายมาก ที่ผ่านมารอบแรกของการประกวดนานาชาติเป็นรอบน็อคเอาท์ เหมือนกับการประกวดทั่วไป ก่อนอื่นก็ต้องคัดผู้เข้าประกวดที่มีความสามารถแย่ที่สุด จากนั้นค่อยจัดรอบการคัดคนออกรอบที่สอง สามและสี่ จนกว่าจะเหลือแค่ผู้ชิงชนะเลิศ
ทว่าการประกวดในปีนี้เปลี่ยนไปมาก การประกวดรอบแรกไม่ใช่รอบคัดออก อีกอย่างยังเป็นการประกวดที่แบ่งกลุ่มกัน
ความหมายก็คือทดสอบความสามารถของผู้เข้าประกวดก่อน แบ่งกลุ่มตามความสามารถของผู้เข้าประกวด แล้วค่อยประกวดกันรอบสอง เพื่อเข้าสู่รอบคัดออกของการประกวดนางแบบ รอให้นางแบบตกรอบเหลือแค่สองคน ถึงจะเลือกใช้วิธีการประกวดอื่น
สำหรับกฎการประกวดว่าเป็นอะไร ตอนนี้ยังไม่ได้ประกาศออกมา ค่อยว่ากันภายหลัง
"วารุณี เธอตื่นเต้นไหม" ก่อนที่การประกวดจะเริ่มขึ้น เชอรีนยืนอยู่ข้างหลังวารุณี แล้วถามด้วยเสียงเบา
วารุณีส่ายหัว "ไม่ตื่นเต้น"
แค่ประกวดเท่านั้น มีอะไรน่าตื่นเต้นด้วยล่ะ
"เธอล่ะ ตื่นเต้นไหม" วารุณีมองเธอ
เชอรีนทำนัยน์ตาเป็นประกาย แล้วส่ายหัวด้วยความดีใจ "ไม่ตื่นเต้น พอนึงถึงซูเปอร์โมเดลรุ่นก่อนบนเวทีเดียวกัน ฉันดีใจยังไม่ทันเลย"
"จริงเหรอ งั้นก็ดี" วารุณีพยักหน้า แล้วรู้สึกวางใจ เธอกลัวว่านี่เป็นครั้งแรกที่ร่วมกิจกรรมนานาชาติ คงจะตื่นเต้นมาก พอตื่นเต้นแล้วก็จะทำพลาดง่าย และจะหักคะแนนทัศนคติได้
ยังดี เซอรีนไม่ได้ทำให้เธอผิดหวัง
"แหม่ นี่ไม่ใช่วารุณีหรือไร ออกจากโรงพยาบาลแล้วหรือ" กำลังครุ่นคิด จู่ๆ เสียงของสุชาดาก็ดังขึ้นแบบแปลก
เชอรีนกลอกตามองบน "แม่ง เธอมาแล้ว"
วารุณีก็รู้สึกปวดหัว แค่รู้สึกว่าสุชาดาเหมือนไม่มีสมอง ทุกครั้งที่มาหาพวกเธอ ก็ไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรเลย แต่ก็ยังมาทุกครั้ง
ราวกับว่ากำลังโดนกระทำอย่างโหดเหี้ยมทารุณ
วารุณีทำสีหน้าหม่นหมอง "ขอโทษ"
"อะไรนะ?" สุชาดาจงใจทำเหมือนไม่ได้ยิน
สายตาอันเย็นชาของวารุณีกำลังมองเธอ "ฉันบอกว่าขอโทษ!"
สุชาดาโดนสายตาอันเย็นชาของเธอข่มขู่ เรือนร่างสั่นเทา จากนั้นก็นึกถึงอะไรขึ้นมา แววตาเป็นประกายแล้วแย้มยิ้ม "ได้ๆๆ ฉันขอโทษ ฉันไม่ควรพูดถึงเรื่องที่เธอแท้ง โอเคยัง?"
"นี่เรียกว่าขอโทษเหรอ?" เชอรีนจับจ้องสุชาดาด้วยความโกรธเคือง
สุชาดาหันกลับมาอย่างไม่เกรงใจ "ทำไม คนที่ให้ฉันขอโทษคือพวกเธอ ฉันขอโทษแล้ว เธอยังคงรู้สึกพอใจในพวกเธอ พวกเธอจะเอายังไงกันแน่"
"พวกเราให้เธอขอโทษ เธอก็ไม่ดูว่าท่าทีที่เธอขอโทษมันถูกต้องหรือไม่หน่อยเลยเหรอ มีการขอโทษแบบเธอด้วยเหรอ?" เชอรีนเครียดจนหน้าแดง
สุชาดาเบะปากด้วยความดูหมิ่น "ใครว่าไม่ใช่ ยังไงฉันขอโทษไปแล้ว พวกเธอจะรับไว้หรือไม่ ฉันไม่สนอยู่แล้ว เหอะ!"
เธอกลอกตามองบน
เธอรู้ว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้อันตรายมาก แต่คำว่าซูเปอร์โมเดลระดับนานาชาติ ก็เป็นแรงยั่วยวนเธออันใหญ่หลวง ทำให้เธอไม่สามารถปฏิเสธกลับได้
ดังนั้น สุชาดาจึงพยักหน้า เหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่างจนเข้าใจแล้ว ใบหน้าเคล้าด้วยความแน่วแน่ "ได้"
โสรยายิ้มอย่างพอใจ
ไม่นาน การประกวดก็เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
ดีไซเนอร์ที่เข้าร่วมประกวดระดับนานาชาติมีทั้งหมดเก้าสิบหกคน ดีไซเนอร์มากมายขนาดนี้นั่งอยู่ด้วยกัน ทำให้ดูทรงพลังมาก
วารุณีนั่งอยู่ตรงกลางแถวที่สอง แล้วกำลังรอพิธีกรประกาศหัวข้อการประกวด
จู่ๆเธอก็รู้สึกว่ามีสายตาคู่หนึ่งกำลังจับจ้องเธออยู่ จึงอดยืดตัวตรงไม่ได้ แล้วหันไปมองก็เห็นโสรยาอยู่ด้านขวาที่ถัดไปด้านหลังสองแถว
"คือเธอ?" วารุณีหรี่ตาลง
โสรายาเห็นว่าเธอสังเกตเห็นตัวเองก็ไม่ได้กระวนกระวาย โบกมือให้เธอด้วยรอยยิ้ม ถือเป็นการทักทาย
วารุณีเห็นสถานการณ์แบบนี้ก็ไม่กล้าทำเป็นไม่เห็น จึงแค่ยิ้มกลับ
โสรยาในวันนี้ไม่ค่อยปกติ
ปกติแล้วโสรยาจะมัดทรงหางม้าสูง เผยให้เห็นหน้าผากอันผุดผ่องและคอที่เรียวยาว
แต่ตอนนี้เธอกลับปล่อยผมไว้ด้านหลัง แล้วลอนผมแบบใหญ่
นอกจากนี้ เธอยังสวมแว่นตาไว้ด้วย ภาพรวมดูเหมือนจะมากความรู้มากๆ
ถึงแม้การเปลี่ยนแปลงของโสรยาจะค่อนข้างดูแปลก ทว่าวารุณีก็ไม่ได้สนใจ ผู้หญิงเราเปลี่ยนแปลงได้เป็นร้อยๆ แบบก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว ไม่มีอะไรที่ควรค่าแก่การสังเกตมอง
ดังนั้นวารุณีทักทายกลับเสร็จก็หันกลับมาต่อ
โสรยามองท้ายทอยของเธอ แล้วยกยิ้ม จากนั้นยกมือดันแว่น แว่นตาแผ่ซ่านแสงสีฟ้าที่ยากที่จะสังเกตเห็น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...