พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ นิยาย บท 460

เพียงไม่นาน วารุณีก็ได้รับข้อความจากนัทธี

เธอออกจากหน้าจอโทรศัพท์ด้วยความสงสัย ก่อนจะเปิดwechatขึ้นมา จากนั้นก็เห็นรูปที่เขาส่งมา

ด้านบน เป็นรูปที่เธอกับนิรุตติ์กินข้าวด้วยกันที่โถงของโรงแรม

วารุณีตกใจก่อนว่าทำไมนัทธีถึงมีรูปนี้ จากนั้นก็สงสัยว่าใครเป็นคนถ่ายรูป

“เห็นหรือยัง?” ชายคนนี้ถามเสียงทุ้มต่ำ

วารุณีจับแก้มของตัวเอง “ขอโทษนะ นัทธี ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะไม่อยากพูดความจริงกับคุณ”

“อ๋อ?” นัทธีหรี่ตาลง “ทำไม?”

วารุณีถอนหายใจ “ก็ได้ เรื่องมันมาถึงวันนี้แล้ว ฉันจะไม่ปิดบังคุณแล้ว ตอนแรกฉันไม่อยากให้คุณกังวล วันนี้ฉันไปหาทางฝ่ายนิตยสารแล้วออกมาหลังจากที่ดูนักร้องเหล่านั้นจนเสร็จ ก็ได้เห็นคนดำที่ดูเหมือนนักเลงสองคน จนเกือบจะถูกพวกเขา......”

เธอยังไม่ทันพูดจบ ก็ได้ยินเสียงดังมากมาจากปลายสาย

น่าจะเป็นเสียงเลื่อนเก้าอี้เกิดขึ้นมา

วารุณีเดา ว่าเมื่อนัทธีได้ยินเสียงคำของเธอ ก็รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้เลยเกิดเสียงแบบนั้นขึ้น

“นัทธี......”

วารุณีเพิ่งจะตะโกนขึ้น ก็ถูกนัทธีถามอย่างตึงเครียดตัดบท “คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”

“ไม่เป็นไร” วารุณียิ้มพลางส่ายหัว “วางใจเถอะ นิรุตติ์เป็นคนช่วยฉัน ไม่อย่างนั้นอาจจะถูกข่มขืนแล้วก็ได้ เพื่อขอบคุณเขา ดังนั้นเลยเลี้ยงข้าวเขามื้อหนึ่ง ที่ไม่อยากบอกคุณ นอกจากจะไม่อยากให้คุณกังวลแล้ว ก็ไม่อยากบอกที่อยู่ของนิรุตติ์กับคุณในตอนนี้ เพราะถึงอย่างไรเขาก็ช่วยฉัน ฉันทำแบบนั้นไม่ได้”

นัทธีได้ยินว่าเธอไม่เป็นอะไร เลยโล่งใจเป็นอย่างมาก “อือ ฉันรู้แล้วล่ะ แต่นิรุตติ์ปรากฏตัวทันเวลาขนาดนี้ คุณคิดบ้างไหม ว่าบางทีนักเลงสองคนนั้นอาจจะถูกจัดโดยเขาน่ะ?”

“ไม่ใช่เขา” วารุณีตอบอย่างมั่นใจ “นักเลงทั้งสองคนนั้นอยู่ในที่บริเวณนี้มานานแล้ว บนอินเทอร์เน็ตก็มีข่าวของพวกเขา ดังนั้นฉันเลยคิดว่านิรุตติ์คงไม่ได้ว่างจนตั้ใจมาทำเรื่องแบบนี้ ไม่งั้นมันน่าเบื่อเกินไปแล้ว”

นัทธีอิดออดเสียงทุ้มต่ำเล็กน้อย พลางเห็นด้วย “ตอนนี้เขาอยู่ไหน?”

วารุณีชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบ “เขาไปแล้ว แต่นัทธี ครั้งนี้ปล่อยเขาไปครั้งหนึ่งเถอะ เขาช่วยฉันไว้ เรา......”

“โอเค” เธอยังไม่ทันพูดจบ นัทธีก็ตกลง

วารุณียิ้มขึ้น “จริงเหรอ?”

นัทธีตอบรับเบาๆ “แต่ว่าครั้งหน้า ฉันไม่มีทางปล่อยเขาไปแล้วนะ”

“อือๆ” วารุณีพยักหน้าหงึกๆ

เธอเองก็คิดแบบนี้ ครั้งนี้นิรุตติ์ช่วยเธอ เธอจะแก้แค้นจากความดีไม่ได้

ถ้าได้เจออีกครั้ง เพียงแค่ไม่เกี่ยวกับการช่วยเหลือแบบในวันนี้ เธอจะไม่มีทางใจอ่อนแล้ว

“จริงสินัทธี คุณมีรูปที่ฉันกับนิรุตติ์กินข้าวกันได้อย่างไร?” วารุณีถามด้วยความสงสัย

นัทธีนวดบริเวณคิ้ว ก่อนจะนั่งลงอีกครั้ง “มีเบลอแปลกต่างชาติส่งมาให้ฉัน”

“เบอร์ต่างชาติเหรอ?” วารุณีหัวทึบ “ใครล่ะ?”

“ไม่รู้ มารุตกำลังสืบ อีกไม่นานผลน่าจะออกมาแล้ว” นัทธีตอบ

วารุณีพยักหน้า “อย่างนี้เองเหรอ”

เบอร์จากต่างประเทศส่งรูปมาให้นัทธี ดูเหมือนคนคนนั้นจะไม่เพียงแค่รู้จักนัทธี แต่ยังรู้จักเธอด้วย แถมยังรู้ว่าเธอเป็นภรรยาของนัทธี

เป็นใครกันแน่นะ?

ตอนที่กำลังคิด ก็มีลมเย็นพัดมา วารุณีก็ตัวสั่นเพราะความหนาว

นัทธีได้ยินดังนั้น ก็ขมวดคิ้ว “หนาวเหรอ?”

“อือ เมื่อครู่มีลมพัดมาน่ะ” วารุณีตอบพลางลูบแขน

นัทธีกำชับเสียงอ่อนโยน “งั้นก็รีบกลับเถอะ”

“โอเค” วารุณีตอบรับเบาๆ ก่อนจะเตรียมวางสาย

ทันใดนั้น เธอก็คิดอะไรขึ้น ก่อนจะรีบตะโกนใส่ชายคนนี้ “เดี๋ยวก่อนนัทธี ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง”

นัทธีรู้เรื่องของน้องรองกับน้องสะใภ้แล้วจริงๆ

“ฉัน......ฉันไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดอะไร” ขงเบ้งตาเป็นประกาย และยังไม่ยอมรับ

นัทธีหรี่ตาลง ก่อนจะยกเท้าขึ้นกระทืบโต๊ะจนพลิก

คุณหญิงอัณณ์ตกใจจนกระเด้งตัวขึ้น จากนั้นจึงวิ่งไปหลบด้านหลังของขงเบ้ง

ขงเบ้งเองก็ตกใจเพราะท่าทีของนัทธี สีหน้าเลยซีดเผือด มือที่ชี้นัทธี ก็สั่นเทา “แก......แก......”

“ยังไม่พูดอีกเหรอ?” นัทธีมองพวกเขาด้วยแววตาเย็นชา

ขงเบ้งมองความเย็นยะเยือกในแววตาของเขา ก่อนจะตัวสั่นขึ้นมาทันที “ฉันไม่รู้”

“เหอะ” นัทธียิ้มขึ้นอย่างเย็นชาบริเวณมุมปาก ก่อนจะยกเท้าขึ้นอีกครั้ง แล้วเตะไปที่ท้องของขงเบ้งเต็มแรง

ขงเบ้งลอยกระเด็นไปไกล คุณหญิงอัณณ์เองก็กระเด็นไปด้วยจากแรงของเขาเช่นกัน

สามีภรรยาทั้งสองร่วงลงกับพื้น ก่อนจะร้องโอดโอยด้วยความเจ็บ ผ่านไปนานแต่ก็ยังลุกไม่ขึ้น

“แก......แกกล้าได้อย่างไร ฉันเป็นลุงของแกเลยนะ แกกล้ามาทำกับฉันงั้นเหรอ!” ขงเบ้งชี้นัทธี ก่อนจะตะเบ็งเสียงตะโกนใส่

นัทธีไม่มีอารมณ์เปลี่ยนไป พลางมองเขาอย่างสูงส่ง “มีอะไรที่ไม่กล้าบ้างเหรอ ขนาดน้องชายของคุณเองยังฆ่าได้ ฉันกับลุงอย่างคุณห่างกันตั้งมาก จะไม่กล้าลงมือได้อย่างไร?”

“......” ขงเบ้งพูดอะไรไม่ออก ตอนนี้ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว แต่ใบหน้านั้นแดงขึ้นมา

นัทธีหมดความอดทนในแววตา “จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่พูดอีกเหรอ?”

ขงเบ้งพยุงสะโพกก่อนจะยืนขึ้นมา ใบหน้าบูดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวด “ฉันไม่รู้จริงๆ”

“ห๊ะ?” นัทธีไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัด

ขงเบ้งมองพวกเขา “ไม่ว่าแกจะถามฉันอย่างไร ฉันไม่รู้ก็คือไม่รู้ ฉันยอมรับ ว่าฉันเป็นคนฆ่าพ่อแม่ของแก แล้วก็ยอมรับว่ามีคนเพิ่มในแผนการฆ่าพ่อแม่ของแก ก็คือการทำให้พ่อแม่แกไปใช้เส้นทางนั้น แต่คนคนนั้นเป็นใคร ฉันไม่รู้”

นัทธีมองความจริงจังในแววตาของขงเบ้งออก เลยรู้ว่าเขาอาจจะไม่ได้โกหก เลยหนักใจ สีหน้าก็ดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ “นิรุตติ์บอกว่าตอนนั้นมีคนช่วยคุณ แล้วก็บอกว่าคนคนนั้นเป็นคนที่ฉันไม่อยากจะเชื่อ แต่เขายังรู้ว่าคนคนนั้นคือใคร แล้วคุณจะไม่รู้ได้อย่างไรกัน?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ