พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ นิยาย บท 579

แม้แต่ลีน่าก็ฟังคำแนะนำของเธอ แล้วก็ทำแบบนี้เหมือนกัน รวบรวมเครื่องประดับที่ทำเสร็จแล้ว จากนั้นทำชุดเครื่องประดับปลอมด้วยแก้วสีดำและแก้วสีขาวชุบเงิน

ด้วยวิธีนี้พวกเธอจะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครมาจัดการเสื้อผ้ากับเครื่องประดับที่เธอทำ

ไม่นาน ก็มาถึงวันสุดท้ายของการแข่งขัน

ในห้องแต่งหน้า วารุณีกำลังแต่งหน้าให้เชอรีน แล้วโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เธอยืนขึ้นแล้วพูดในทันที “ วารุณี แฟนฉันโทรมา ฉันขอไปรับสายก่อนนะ เดี๋ยวค่อยกลับมาแต่งหน้า”

สมัครที่พูดอยู่นั้น ตอนที่คนอื่นมองไม่เห็น เธอกับวารุณีและลีน่าก็สบตากัน

หลังจากที่ทั้งสามคนได้สบตากันแล้ว วารุณีก็พยักหน้า “ไปเถอะ และรีบกลับมานะ”

“โอเค” เชอรีนยิ้มพร้อมกับตอบรับ แล้วก็ถูโทรศัพท์ออกจากห้องแต่งหน้าไป

ดีไซเนอร์ออกแบบเสื้อผ้าที่อยู่โต๊ะข้างๆเห็นเชอรีนออกไป ก็อดไม่ได้เราถามว่า “อีกครึ่งชั่วโมงก็จะเริ่ม

แล้ว เพราะคุณให้เธอออกไป แล้วถ้าเกิดเธอกลับมาสายล่ะ มันจะไม่ทันเอานะ?”

“ไม่เป็นไรหรอก พวกเราได้เดินคนสุดท้าย ทันอยู่แล้วแหละ” วารุณีต่อ

ดีไซเนอร์คนนั้นยิ้ม “แบบนี้นี่เอง”

หลังจากนั้นเธอก็ไม่พูดอะไรอีก หันหน้ากลับไปแล้วก็แต่งหน้าให้นางแบบของตัวเองต่อ

ทันใดนั้นลีน่าก็ตีหน้าผากของตัวเอง “สวยแล้ววารุณี จู่ๆฉันก็นึกขึ้นได้ว่าลืมของสำคัญเอาไว้น่ะสิ”

“ของอะไร สำคัญมากไหม?”วารุณีถาม

ลีน่าพยักหน้า “สำคัญมาก เกี่ยวกับแคทวอล์คนี้แหละ”

“งั้นทำยังไงดี” สีหน้าของวารุณีเปลี่ยนไปในทันที เธอก็เริ่มรู้สึกร้อนโดนขึ้นมา

ดีไซเนอร์คนอื่นๆในห้องแต่งตัวเห็นภาพเหตุการณ์นี้ ก็มีสีหน้าที่แตกต่างกันไป

ลีน่าดูท่าทางของคนเหล่านี้ไปด้วย แล้วก็ดึงมือของวารุณีไปด้วย “วารุณี ฉันขับรถไม่เป็น เธอขับรถพาฉันไปเอาหน่อยได้ไหม พวกเราพักอยู่ใกล้ๆต้องกลับมาทันอย่างแน่นอน”

“คือ......”วารุณีเม้มปาก เหมือนกับว่ากำลังลังเลอยู่

ผ่านไปครู่นึง เธอก็กัดฟันและตกลง

ไม่นาน ทั้งสองคนก็รีบร้อนออกจากห้องแต่งตัวไป

อยู่ดีๆ ห้องแต่งตัวก็มีชีวิตชีวา บางคนหัวเราะเยาะพวกเขาว่าโง่ ขนาดของสำคัญยังลืมไว้ได้ และพวกเธอยังคงกลับไปหามันในช่วงเวลาวิกฤตินี้

ถ้ารถติดระหว่างทาง มาสาย จะถูกคัดออก

แน่นอนว่าก็มีบางคนไม่คิดว่าพวกเธอจะมาสาย แต่ก็ไม่เห็นด้วยที่เธอจะกลับไปเอาของในเวลานี้

เช่นติ๊นา

แต่ว่าไม่เห็นด้วยแล้วจะยังไงล่ะ ยังไงพวกเธอก็ไปแล้ว ได้แต่แอบหวังเงียบๆให้พวกเธอกลับมาทันจะดีกว่า

อีกด้านนึง ดีไซเนอร์ที่คุยกับพวกวารุณีเมื่อกี้นี้ แววตาของเธอก็มองไปที่กล่องเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่วารุณีกับลีน่าวางไว้บนเก้าอี้ แล้วดวงตาเธอก็มืดหมดเลยทันที

ผ่านไปสักพัก หลังจากที่ขอให้นางแบบเปลี่ยนชุด เธอก็ยื่นมือออกไปทางกระเป๋าชุดและกล่องเครื่องประดับ

แต่เพิ่งจะยื่นมือมาได้ครึ่งนึง ก็ถูกคนจับมือเอาไว้ก่อน

ดีไซเนอร์คนนี้ตกใจมาก นึกว่าตัวเองจะซวยแล้ว ตอนกำลังจะลองขอความเมตตา ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น “เธอคิดจะทำอะไรกับกล่องเสื้อผ้ากับเครื่องประดับของวารุณีกับลีน่าอย่างนั้นหรอ?”

ดีไซเนอร์คนนั้นหันหน้าไป แล้วก็เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม เธอก็ถอนหายใจออกมาในทันที “เธอนี่เอง!”

คนที่จับเธอไว้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นคู่หูของเธอ นักออกแบบเครื่องประดับอันนา

“ฉันเอง”อันนาปล่อยมือเธอลง

ดีไซเนอร์ถอนหายใจออกมา “ทำไม จะรายงานฉันหรอ?”

ใช่ พวกเธอติดตั้งกล้องวงจรปิดที่มองไม่เห็นในห้องแต่งตัว

ติดตั้งตั้งแต่เมื่อวาน

เมื่อไม่กี่วันก่อน หลังจากที่คุยกับนัทธีเรียบร้อยแล้ว วารุณีก็เข้าใจ แม้ว่าจะมีตัวอย่างจากจูเลียน แต่ว่าคนที่มีเจตนาร้ายก็ยังไม่คิดจะปัดเป่าความคิดชั่วๆออกไป และก็ยังจะลงไม้ลงมืออยู่ดี

ดังนั้นเธอก็เลยจูงใจให้คนไปติดตั้งกล้องวงจรปิดในห้องแต่งตัว แล้วเหตุการณ์เมื่อกี้ก็เป็นการแสดงของเชอรีน กับลีน่า เพื่อที่จะออกมาจากห้องแต่งตัว

ด้วยวิธีนี้ บางคนที่มีเจตนาไม่ดี เมื่อเห็นชุดและเครื่องประดับที่พวกเธอจงใจวางบนเก้าอี้ จะไม่สามารถยับยั้งตัวเองได้อย่างแน่นอน

แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริงๆ เธอเดาถูก แต่ไม่คิดเลยว่าจะเป็นคนที่เพิ่งคุยกับพวกเธอเมื่อกี้นี้ ดีไซเนอร์แลนเซอร์กับคู่หูของเธออันนา

“ไม่ได้ ฉันทนไม่ไหวแล้ว ฉันจะเข้าไปจับพวกเธอเดี๋ยวนี้”ลีน่ายืนขึ้นด้วยความโกรธ เตรียมจะพุ่งเข้าไปในประตู

วารุณีเรียกเธอเอาไว้ “ไม่ต้องรีบร้อนไปหรอก เดี๋ยวก็จะถึงเวลาเดินแฟชั่นโชว์แล้ว เธอไปตอนนี้ก็เสียเวลา รอให้เดินแฟชั่นโชว์เสร็จค่อยว่ากัน มีกล้องวงจรปิดอยู่ตรงนี้จะกลัวอะไร?”

“ก็จริง” เชอรีนก็เห็นด้วยกับคำพูดของวารุณี

ลีน่าก็เลยต้องหยุดเดินและเดินกลับมา

วารุณีเปิดกล่องชุดเดรสออก “โอเค เริ่มแต่งหน้าให้เชอรีนได้แล้ว นาน่าเธอทำผมนะ”

“โอเค”ลีน่าพยักหน้า

แล้วทั้งสามคนก็เริ่มทำงาน

แล้วในห้องแต่งหน้านั้น อันนากับแลนเซอร์ก็มองดูเวลา

“อีก 15 นาทีก็ถึงเวลาเดินแบบแล้ว แต่ว่าพวกเธอยังไม่กลับมาเลย ชุดนี้ไม่ได้ต้องใช้แล้วหรอ?”แลนเซอร์มองดูเวลาแล้วก็พูดด้วยความกังวล

อันนาดื่มกาแฟอยู่ แล้วก็พูดอย่างไม่เห็นด้วย “กลับมาไม่ทันก็ไม่เป็นไรนี่ ถ้าเกิดว่าพวกเธอกลับมาก่อนงานแสดงไม่ทันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีกับพวกเรา ยังไงมาสายก็ถูกคัดออกดี!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ