พอนัทธีไป ปาจรีย์และเพื่อนๆก็ได้ไปติดต่อทีมกู้ภัยตามที่เขาสั่งการแล้ว
ในขณะเดียวกัน เฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวลำนึงบินอยู่ที่ระดับความสูงหนึ่งพันเมตร กำลังบินออกจากเมืองนี้
ในเฮลิคอปเตอร์ นิรุตติ์เอาหูฟังไร้สายที่หูออก แล้วหันไปมองด้านหลัง
บนพนักเก้าอี้ของด้านหลัง นาทีนี้มีผู้หญิงคนนึงกำลังนอนอยู่ ผู้หญิงใส่กระโปรงยาวสีดำ ใบหน้าที่สวยสุดขีด บนโลกใบนี้น้อยที่จะได้เห็น
ผู้หญิงคนนี้ก็คือวารุณี
นิรุตติ์มองหน้าวารุณีแล้วแสยะยิ้มมุปาก
ในที่สุดเขาก็ได้พาตัวเธอไป!
ที่ผ่านมาเขาล้วนอยากพาเธอไปทั้งนั้น แต่จะทำอย่างไรได้ข้างกายเธอมีการคุ้มกันที่เข้มงวดเกิน เวลาออกไปไหนมาไหนก็มีบอดี้การ์ดคอยติดตามตลอด เขาก็ไม่สามารถลงมือเลย
คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายเธอกับนัทธีได้สร้างโอกาสให้เขา ไม่นึกเลยว่าทั้งสองจะออกมาฮันนีมูนโดยที่ไม่ให้บอดี้การ์ดติดตามมาด้วยเลย
เขาก็เลยวางแผนไม้นี้ ฉวยโอกาสตอนที่เธอกับนัทธีจากกันชั่วคราว เอาตัวเธอไปจากข้างกายนัทธี
โชคดีที่อาคารแลนด์มาร์ครูปทรงกลมใหญ่พอ ห้องน้ำห่างจากงานคอนเสิร์ตระยะนึง ไม่งั้นก็อาจจะไม่สามารถพาตัววารุณีไปได้ราบรื่นขนาดนี้จริงๆ
“ต่อไปคุณก็เป็นของผมแล้ว” นิรุตติ์มองใบหน้าของวารุณีอย่างลุ่มหลงพร้อมพึมพำเสียงเบา น้ำเสียงประหลาดจนทำให้คนกลัว
แต่ไม่นานนิรุตติ์ก็ได้กลับคืนสู่ความปกติ หันหน้ามาแล้วใส่หูฟังไร้สายอีกครั้ง “เป็นยังไงบ้าง ตอนนี้นัทธีกำลังทำอะไรอยู่?”
ในหูฟังมีเสียงของผู้ชายก้องมา “บอสครับ นัทธีได้ไปที่บริษัทรักษาความปลอดภัย ได้จ้างกำลังคนชุดใหญ่ และกำลังร่วมมือกับทางตำรวจปิดเมืองด้วยกัน แล้วก็คนของนัทธีได้ติดต่อทีมกู้ภัย กำลังกอบกู้จุดชมวิวแม่น้ำอยู่ครับ คาดว่าพวกมันคงจะรู้แล้วว่าพวกเราได้โยนพวกมือถือของวารุณีลงในแม่น้ำ”
นิรุตติ์หรี่ตาลง
เขารู้ว่าข้างกายของนัทธีมีแฮกเกอร์ที่ลึกลับคนนึง อีกอย่างเทคนิกของแฮกเกอร์คนนั้นเก่งกาจมาก เขาไม่รู้ว่าแฮกเกอร์คนนั้นคือใคร ตรวจสอบมานานขนาดนี้ก็ตรวจสอบไม่เจอเลย
เพราะฉะนั้นเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดคิด คนที่เขาให้ไปนำตัววารุณีมา ได้เอามือถือเครื่องประดับและสิ่งของอื่นๆออกแล้วโยนลงไปในแม่น้ำ ก็เพื่อป้องกันไม่ให้มือถือและเครื่องประดับของวารุณี
ถูกแฮกเกอร์ของนัทธีล้วงเข้าไปในระบบจีพีเอส
แต่ดูจากสถานการณ์ที่นัทธีให้ทีมกู้ภัยไปกอบกู้ในแม่น้ำแล้ว ชัดเจนว่าได้พิสูจน์การคาดเดาของเขา ในมือถือและเครื่องประดับวารุณีมีระบบจีพีเอสอยู่จริงๆ
โชคดี โชคดีที่เขาคาดการณ์ได้ล่วงหน้า ไม่งั้นตอนนี้นัทธีคงจะล็อกโลเคชั่นของเขาได้แล้วมั้ง
“ฉันรู้แล้ว คอยจับตาดูต่อไป”นิรุตติ์หรี่ตาออกคำสั่งการ
คนที่อยู่ในสายได้ตอบคำนึงว่า “ครับ!”
นิรุตติ์เอาหูฟังออก เฮลิคอปเตอร์ได้เข้าสู่บรรยากาศที่เงียบสงัด
ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไหร่ นานจนท้องฟ้าใกล้สว่าง ในที่สุดเฮลิคอปเตอร์ก็ได้เริ่มลงจอด สุดท้ายจอดลงที่บนเกาะแห่งนึง
เฮลิคอปเตอร์ได้จอดอยู่บนลานจอดเครื่องบิน ประตูเครื่องบินเปิดออก นิรุตติ์ได้อุ้มวารุณีลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ แล้วเดินไปยังวิลล่าที่อยู่กลางเกาะ
นาทีนี้หน้าวิลล่ามีคนยืนอยู่หลายคน ดูการแต่งตัวแล้วน่าจะเป็นคนใช้
แต่มีอยู่คนนึงที่แตกต่างกันออกไป เธอใส่กระโปรงสีอ่อนไว้ทั้งชุด ยืนอยู่ด้านหน้าของคนใช้ กำลังกำหมัดไว้พร้อมจ้องนิรุตติ์ที่กำลังเดินมาและผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนเขา
พอเห็นผู้หญิงคนนั้นแล้ว หน้าของนวิยาบูดเบี้ยวขึ้นมาทันที แววตามีความเคียดแค้นโผล่ขึ้นมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ถ้าไม่ใช่ตอนนี้วารุณีอยู่ในอ้อมแขนของนิรุตติ์ เธอจะพุ่งไปบีบคอของวารุณีให้หักทันทีแน่นอน จะได้ระบายความคับแค้นในใจ!
เจตนาร้ายของนวิยาไม่อำพรางเลยสักนิด นิรุตติ์เห็นแล้วสีหน้าตึงเครียดขึ้นมา พร้อมกับเตือนด้วนเสียงเย็นชา “นวิยา ผมขอบอกคุณเลยนะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปวารุณีจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ถ้าคุณกล้าลงไม้ลงมือกับเธอ ถูกผมพบเห็น ผมจะมัดเหยื่อใส่บนตัวคุณทันที แล้วจับคุณโยนลงไปในทะเลให้ปลากิน ไม่เชื่อคุณลองดู!”
เขาจ้องเธอด้วยสายตาตักเตือน
นวิยาตัวสั่นพร้อมหลุบตาลง ไม่ไปจ้องวารุณีอีก พร้อมกัดริมฝีปากไว้แล้วพูดอย่างเจ็บใจ:“ฉันรู้ค่ะ เพื่อแผนการต่อไปของเรา ฉันไม่ลงมือกับเธอหรอก แต่คุณก็อย่าหวังว่าฉันจะมีสีหน้าที่ดีให้กับเธอนะ”
“คุณวางใจได้ วารุณีก็ไม่มีสีหน้าดีให้คุณหรอก” นิรุตติ์หัวเราะเยาะทีนึง จากนั้นก็ได้อุ้มวารุณีเข้าไปในวิลล่า
นวิยาหันหน้ามาจ้องร่างเงาของเขาด้วยสายตาโกรธแค้น ดวงตามีไฟแห่งความโกรธเผาไหม้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เห็นสีหน้าของนัทธีผิดสังเกต ปาจรีย์ได้เข้าไปใกล้ “ได้เขียนอะไรไว้บ้างคะ?”
นัทธีแค่ดูออกว่าเป็นตัวหนังสือของนิรุตติ์ ไม่ได้ดูเนื้อหาในจดหมายเลย ได้ยินคำพูดของปาจรีย์แล้ว ทีนี้ถึงรวบรวมสมาธิอ่านจดหมายอีกครั้ง
ในจดหมายเขียนไว้ว่า:นัทธี นายไม่ต้องตามหาแล้ว วารุณีได้ถูกฉันนำตัวไปแล้ว ตอนที่นายเห็นจดหมายฉบับนี้ เป้าหมายของฉันก็ได้บรรลุแล้ว นายวางใจเถอะ ฉันจะดูแลเธอเป็นอย่างดีเลย ต่อไปเธอก็คือภรรยาของฉันแล้ว!
ปัง!
นัทธีชกไปที่บนโต๊ะหนึ่งหมัด ชกจนผิวหนังของข้อต่อนิ้วมือถลอกและเลือดสดไหลออกมาโดยตรง
สีหน้าเขายิ่งดูแย่เข้าไปใหญ่ กลิ่นไอรอบตัวหนาวเย็นจนทำให้คนขนลุกซู่
“นิรุตติ์!”นัทธีกัดฟันแน่น แล้วพูดชื่อนี้ออกมาทีละถ้อยคำ ราวกับแรงอาฆาตที่แฝงอยู่ในแววตาก็แทบจะแปลงเป็นมีดอยู่แล้ว
ปาจรีย์ก็โกรธจะแย่อยู่แล้ว ได้ด่าทอเสียงดัง:“ไอ้สารเลว เอาตัววารุณีไป แล้วยังอยากยึดครองวารุณีอีก คนแบบนี้ช่างไร้ยางอายและน่าสะอิดสะเอียนจริงๆ”
เธอมองมาที่นัทธี “ประธานนัทธี คุณจะต้องช่วยวารุณีกลับมาให้ได้นะ!”
นัทธีกำหมัดแน่นจนเสียงดังกรึกๆ เขาไม่ได้ตอบอะไรเธอ แต่ในใจเขากลับได้ตัดสินใจเรียบร้อยแล้ว
เขาจะต้องช่วยวารุณีกลับมาให้ได้อยู่แล้ว นั่นเป็นภรรยาของเขา เขาจะไม่ช่วยเธอได้ยังไง!
ไม่ว่าจะบุกน้ำลุยไฟ เขาก็จะช่วยเธอออกมา
“ติดต่อรัฐบาลของประเทศนี้ ผมต้องการการติดตามตรวจสอบทางดาวเทียมของพวกเขา!”นัทธีหยิบมือถือออกมาโทรศัพท์
ปาจรีย์ตาเป็นประกาย “การติดตามตรวจสอบทางดาวเทียม!ดีงจังเลย มีการติดตามตรวจสอบทางดาวเทียม จะต้องหาวารุณีเจออย่างไวแน่นอน”
นัทธีไม่ได้พูดจา หลุบตาไว้ไม่รู้กำลังคิดอะไรอยู่
ที่ผ่านมา เขาล้วนไม่ยอมใช้การติดตามตรวจสอบทางดาวเทียม เพราะจะติดค้างสินน้ำใจของประเทศ
แต่ตอนนี้ เพื่อตามหาวารุณีแล้ว เขาไม่มีเวลามาสนใจอะไรมากมายขนาดนั้นแล้ว ไม่ว่าประเทศต้องการให้เขาทำอะไร ขอแค่หาวารุณีเจอ เขาล้วนยอมทำหมด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...