พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ นิยาย บท 643

วารุณีปล่อยมือจากลูกบิดและกลับห้องของตัวเอง

เธอกลัวว่าถ้ายืนอยู่หน้าห้องคนอื่นนานกว่านี้ เดี๋ยวคนใช้เข้ามาเห็นจะเอาเรื่องนี้ไปบอกผู้ชายคนนั้นก็ยุ่งเลย

ถึงคนรับใช้จะซื่อบื้อ แต่เจ้าของคฤหาสน์แห่งนี้คงไม่ซื่อบื้อแน่

พอกลับถึงห้อง วารุณีเปิดไฟ

ไฟสีเหลืองอ่อน ๆทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย

แต่เธอก็รู้ ถึงแม้ว่าไฟจำทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย แต่ความรู้สึกนี้ก็ไม่ใช่ความรู้สึกปลอดภัยจริง ๆ

เธอไม่รู้เลยว่าใครเป็นคนพาเธอมาที่นี่ แล้วมีจุดประสงค์อะไรกันแน่

แต่ที่เธอรู้คือไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ

อันที่จริงเธอสงสัยว่าคนที่พาเธอมาที่นี่คือนิรุตติ์และนวิยา เพราะการเรียกคุณผู้หญิงคุณผู้ชายก็เหมาะที่จะเป้นนิรุตติ์และนวิยา

แค่เธอยังไม่เคยเห็นคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายที่ว่า เธอเลยยังไม่กล้าสรุป

ทุกอย่างต้องรอให้ถึงกลางคืนถึงจะรู้

วารุณีนั่งบนเตียงรอให้ถึงตอนกลางคืนอย่างเงียบ ๆ

รอมาหลายชั่วโมง ในที่สุดฟ้าก็มืดลง

วารุณีได้ยินเสียงใบพัดจากบนคฤหาสน์

เธอรีบลุกขึ้นยืน รีบเดินไปนอกระเบียงเงยหน้าขึ้นมอง เห็นเฮลิคอปเตอร์ที่บินอยู่กลางอากาศ ตาเธอสว่างขึ้นทันใด

เครื่องบินนี่!

ตลอดทั้งวันมานี่เป็นอุปกรณ์สื่อสารแรกที่เธอเห็น แถมยังเป็นเครื่องบินด้วย

ถ้ามีเครื่องบินแล้ว ทางหนีรอดของเธอก็เป็นไปได้

แต่ประเด็นหลักคือเธอขับไม่เป็นนี่สิ!

ความรู้สึกของวารุณีที่ตื่นเต้นเมื่อกี้ค่อยๆหายไป

เธอมองเครื่องบินลงจอดบนพื้นดินอย่างไร้อารมณ์

ประตูถูกเปิดออก ทั้งสองคนโดดลงมาจากด้านใน

คนแรกที่โดดลงมาเป็นผู้หญิง

เพราะระยะทางไกลเกินไปทำให้วารุณีมองผู้หญิงคนนั้นไม่ชัด แต่รูปร่างผู้หญิงคนนั้น ทำให้สีหน้าเธอเปลี่ยนไป

นั่นมัน......นวิยานี่!

การที่เป็นนักออกแบบเสื้อผ้า สำหรับรูปร่างแล้วเธอมีมาตรฐานการวัดเป็นของตัวเอง

สายตาของนักออกแบบแหลมคนมาก แค่มองปราดเดียวก็สามารถประเมินร่างกายของคนตรงหน้าได้

ดังนั้นพอเห็นผู้หญิงคนนั้น วารุณีจำได้เลย นั่นก็คือนวิยา เพราะรูปร่างของผู้หญิงคนนั้นเหมือนนวิยา

ขณะที่วารุณีตัวสั่นและจับราวระเบียงไว้แน่น คนต่อไปที่กำลังลงจากเครื่องบินได้ปรากฏตัวในสายตาเธอ และเป็นผู้ชาย

พอเห็นชายผู้นั้นแล้ว สีหน้าของวารุณีไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปมาก แค่มือที่จับอยู่บนราวยิ่งจับแน่นมากขึ้น

นิรุตติ์!

สิ่งที่เธอคาดการณ์ถูกต้องแล้ว คนที่พาเธอมาที่นี่คือนิรุตติ์และนวิยา

เกาะนี้คือถิ่นของนิรุตติ์และนวิยา?

ราวกับรู้สึกได้ถึงสายตาของวารุณี นิรุตติ์หันไปและเงยหน้าขึ้นมอง มองเห็นวารุณีที่อยู่นอกระเบียงชั้นสาม นัยน์ตาเขาเป็นประกาย จากนั้นโบกมือยิ้มทักทายวารุณี

ท่าทางของเขาดึงดูดนวิยาให้มองตาม พอเห็นวารุณีสีหน้าก็เปลี่ยนไป

“เธอตื่นแล้ว!” นวิยากำหมัดและกัดฟันพูด

เดี๋ยวก่อนเถอะ เธอจะแก้แค้นกลับทีละคน โดยควักดวงตาของนิรุตติ์ออกมา และให้นิรุตติ์รับรู้ความรู้สึกของการตาบอด

ไม่เพียงเท่านั้น เธอจะต้องปลูกถ่ายกระจกตาของวารุณีให้กับตัวเธอเองด้วย ครั้งนั้นวารุณีหนีไปได้ แต่ครั้งนี้ เธอจะไม่ยอมให้วารุณีหนีได้อีก

ระหว่างที่คิดไป นวิยาเงยหน้า สายตาที่จ้องมองวารุณีที่อยู่บนระเบียงชั้นสาม

วารุณีสัมผัสได้ถึงสายตาเคียดแค้นของนวิยา และขมวดคิ้ว

ดูเหมือนว่าคราวหน้าเธอและนวิยาจะต้องอาศัยอยู่ใต้หลังคาเดียวกันอีกครั้ง และต้องมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นแน่

“เก็บสายตานั่นของเธอซะ อย่าทำให้เธอตกใจ ” นิรุตติ์เตะใส่นวิยาหนึ่งที

เอวนวิยาที่ถูกเตะ เจ็บจนร้องออกมา ในใจยิ่งเกลียดแค้นมากขึ้น

นิรุตติ์มองเธอเหมือนมองขยะ “ฉันรู้นะ ต่อหน้าเห็นด้วยกับคำเตือนของฉัน แต่ในใจไม่ใช่แบบนั้น ในใจต้องการต่อต้านวารุณี แต่ฉันจะบอกไว้เลยนะ ตราบใดที่ฉันเห็นว่าวรุณีได้รับบาดเจ็บนิดเดียว ไม่ว่าจะเป็นแกทำหรือไม่ ฉันก็จะโทษว่าเป็นแก เข้าใจไหม? ”

นวิยาดวงตาเบิกกว้าง “แก......”

“เข้าใจไหม?” นิรุตติ์ตะโกนย้ำอีกครั้ง

นวิยาตัวสั่นและเปลือกตาที่หย่อนลง “เข้าใจแล้ว”

อย่าหุนหัน จะใจร้อนไม่ได้เด็ดขาด

เธอยังไม่มีความสามารถในการเผชิญหน้ากับนิรุตติ์ ต้องอดทน เธอต้องอดทนเท่านั้น!

รอให้ได้ไพ่ที่เหนือกว่าจากนิรุตติ์แล้ว ความอัปยศทั้งหมดของวันนี้ก็สามารถชำระคืนได้

นิรุตติ์มองนวิยาอย่างประชดประชัน จากนั้นเก็บสายตากลับคืน

ที่ระเบียงชั้นสาม วารุณีไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างคนสองคนนี้ ทำไมนิรุตติ์ถึงรุนแรงกับนวิยากัน?

แต่มันก็ไม่ใช่ธุระอะไรของเธอ และเธอก็ไม่สนใจด้วย

สิ่งที่เธอสนใจคือเฮลิคอปเตอร์ลำนั้นต่างหาก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ