พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ นิยาย บท 756

“ไม่ใช่ตอนนี้”วารุณียักไหล่ “ เพราะการแข่งขันในรอบแรกเป็นการแบ่งกลุ่ม ไม่มีการคัดชื่อของผู้เข้าแข่งขันออก ดังนั้นก็จึงต้องเก็บเธอเอาไว้ก่อน รอรอบต่อไปค่อยคัดออก เพราะยังไงแล้ว ฉันไม่ปล่อยให้เธอได้เข้าร่วมการแข่งขันเพราะการลอกเลียนแบบคนอื่นแน่ อย่างนี้มันไม่ยุติธรรมกับผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ”

จุ๊บแจงไม่ใช่คนโง่ เธออยากได้ลำดับที่ดีขึ้น แน่นอนว่าก็ย่อมต้องลอกผลงานที่โดดเด่นพวกนั้น

และจุ๊บแจงเองก็เป็นคนที่ไม่รู้เรื่องของการออกแบบ เมื่อเธอลอกแบบพวกนั้นแล้วได้มาซึ่งลำดับที่สูงขึ้น ในทางกลับกัน เธอก็กำจัดผู้เข้าแข่งขันที่บริสุทธิ์คนอื่นไปด้วย

ดังนั้นมันจึงไม่ยุติธรรมกับผู้เข้าแข่งขันเหล่านั้น

หากผู้เข้าแข่งขันเหล่านั้นถูกคัดออกเพราะฝีมือจริงๆของจุ๊บแจง ก็ว่าไปอย่าง เพราะสำหรับผู้เข้าแข่งขันแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องปกติ

แต่ลอกงานคนอื่นแบบนี้มันไม่ได้ !

ดังนั้น เธอจะพยายามอย่างเต็มที่ในการแข่งขันรอบถัดไป เพื่อคัดจุ๊บแจงออก

“แบบนี้นี่เอง” นัทธีพยักหน้าให้เล็กน้อย แสดงให้รู้ว่าเข้าใจแล้ว จากนั้นก็พูดว่า “ เอาตามที่คุณว่าแล้วกัน ”

“ค่ะ”วารุณีพยักหน้า

หลังจากนั้นทั้งสองก็พูดคุยกันอีกสักพัก แล้วจึงวางสายไป

เพราะลูกน้อยทั้งสองคนก็ได้เวลานอนแล้ว นัทธีต้องไปเล่านิทานให้เด็กๆ เพื่อกล่อมให้เด็กน้อยเข้านอน

และเขาเองก็รู้ว่าเธออยู่ในระหว่างการเดินทางกลับไปที่คฤหาสน์ ดังนั้นก็จึงอยากให้เธอรีบกลับไปพักผ่อน เพราะหลังจากนี้ คงจะต้องยุ่งมากๆแล้ว

กลับมาถึงที่คฤหาสน์ หลังจากที่วารุณีอาบน้ำเสร็จแล้ว ก็มานั่งมองดูงานแบบของตัวเองที่ไม่ค่อยเป็นที่พอใจเท่าไร งานที่มีอยู่ละลานตาตรงหน้า สำหรับคนอื่นแล้ว มันเป็นผลงานที่ดีมาก แต่สำหรับเธอ กลับไม่พอใจกับมันเท่าที่ควร มุมปากเหยียดยิ้มเย้ยหยันออกมา

ผลงานพวกนี้ของเธอ ครอบคลุมหัวข้อเกือบทั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบัน

นั้นก็หมายความว่า เธอเคยวาดภาพหัวข้อต่างๆมาแล้ว แต่เพราะไม่พอใจกับผลงานก็จึงเก็บภาพเหล่านี้ไว้ในบัญชีนี้เอาไว้เพื่อเป็นที่ระลึก

ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่า ในการออกแบบหัวข้อต่อไป จุ๊บแจงอาจจะมาลอกงานแบบของเธออีกเป็นแน่

หากเป็นแบบนั้นจริงๆ เธอไม่ปล่อยจุ๊บแจงเอาไว้แน่

งานแบบพวกนี้ แม้ว่าเธอจะไม่ได้เอาไปใช้ แต่ก็เป็นความอุตสาหะของเธอ ที่ระดมจากมันสมองออกมา แม้ตัวเองจะไม่ได้เอาไปใช้ ก็ไม่มีทางปล่อยให้ใครเอาไปใช้เป็นเครื่องมืออย่างเด็ดขาด

เมื่อคิดได้ดังนี้ ดวงตาของวารุณีก็หรี่เล็กลง จากนั้นก็ปิดโน๊ตบุ๊ค ลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องหนังสือไป

ตอนนี้มาเสียอารมณ์กับเรื่องพวกนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะจุ๊บแจงก็ไม่ได้อยู่ตรงหน้า แต่ต่อไปนี่สิ ถึงจะเป็นสิ่งที่จุ๊บแจงต้องเจอ

เธอจะทำให้จุ๊บแจงได้รู้ ของของคนอื่น ใช่ว่าเธอจะหยิบจับมันเอาไปได้ง่ายๆ

เมื่อเอาไปแล้ว ก็ต้องแลกกับราคาที่ต้องจ่าย !

ชั่วค่ำคืนผ่านไป เช้าวันรุ่งขึ้น วารุณีถูกเสียงเคาะของประตูปลุก จากนั้นก็ตามมาด้วยเสียงของลีน่า“วารุณี ตื่นหรือยัง ?”

เมื่อวารุณีได้ยินเสียงของเธอ คิ้วก็ขมวดมุ่น จากนั้นก็ลืมตาตื่น หันมองไปที่ประตู น้ำเสียงยังมีความงัวเงียอย่างชัดเจน“ยัง มีอะไรหรือเปล่า ?”

เสียงเคาะประตูจากทางด้านนอกก็หยุดลง เหลือเพียงเสียงของลีน่า“ งั้นก็รีบลุกได้แล้ว จะได้เวลาอาหารเช้าแล้ว อีกเดี๋ยวต้องไปสนามแข่งอีก”

“ได้ รู้แล้ว”วารุณีคลึงไปที่หว่างคิ้ว จากนั้นก็บิดขี้เกียจแล้วลุกขึ้นนั่ง “ จะรีบออกไปเดี๋ยวนี้ ”

“อืม รีบๆล่ะ ฉันไปรอข้างล่างนะ ” หลังจากที่ลีน่าพูดจบ ก็หันหลังแล้วเดินลงชั้นล่างไป

วารุณีอ้าปากหาว ดึงผ้าห่มออกแล้วลุกขึ้น เดินไปที่ห้องน้ำ

หลังจากที่ชำระร่างกายแล้วเสร็จ เธอสวมใส่ชุดจั๊มสูทสุดเก๋ เปิดประตูและเดินลงไปชั้นล่าง

จั๊มสูทสีแดงเพลิง จากใบหน้าเดิมที่สวยงามอยู่แล้ว ก็ยิ่งทำลายล้างมากขึ้น ทำให้ผู้คนที่พบเห็นถึงกับต้องหยุดหายใจ

ความงามที่เหนือชั้น ไม่มีอะไรมาเทียบได้!

ลีน่ากำลังนั่งอยู่บนโซฟาและเล่นโทรศัพท์อยู่ เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า จึงหันไปมอง เห็นวารุณีที่สวยสง่าแบบนี้ ก็ถึงกับอ้าปากค้าง “โอ้แม่เจ้า วารุณี เธอจะสวยเกินไปแล้ว ”

และตอนนี้ จุ๊บแจงคงถูกทายาทเศรษฐีปรนเปรอให้ไม่น้อย ลืมไปเสียสิ้นว่าตัวเองนั้นแสร้งทำเป็นคนไม่เห็นแก่เงินอยู่ ธาตุแท้ของคางคกขึ้นวอก็เผยออกมาจนหมดสิ้น

หลังจากที่วารุณีเหลือบมองไปยังจุ๊บแจงแล้ว ก็ไม่คิดจะสนใจอะไรเธอ

แต่ลีน่ากลับขมวดคิ้วแล้วมองไปที่จุ๊บแจง โดยเฉพาะกับเสื้อผ้าและเครื่องประดับที่จุ๊บแจงสวมใส่ ดวงตาเต็มไปด้วยความรังเกียจ

สายตานี้ของเธอทำเอาจุ๊บแจงรู้สึกเจ็บแปลบ และยังไปจี้โดนจุดความต่ำต้อยในใจของจุ๊บแจงอีกด้วย

เพราะเธอรู้ดีว่า ไม่ว่าจะรูปร่างหน้าตา หรือสง่าราศี อีกทั้งความสามารถและภูมิหลังทางครอบครัว เทียบไม่ได้กับผู้หญิงสองคนที่อยู่ตรงหน้านี้เลย

ดังนั้นเมื่อเธอเห็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมกว่าเธอ ใช้สายตาแบบนี้มองเธอ ในใจของเธอก็ย่อมจะรับไม่ได้

“ไปกันเถอะลีน่า ”วารุณีไม่อยากจะเสวนากับคนอย่างจุ๊บแจง จึงพูดกับลีน่าไปตรงๆ

ลีน่าพยักหน้าให้ “ ไปสิ ”

ทั้งสองกำลังจะเดินจากไป จุ๊บแจงกลับไม่พอใจ มือกอดอกแล้วพูดขึ้นว่า“คุณหญิงวารุณี เพิ่งจะเจอกันก็จะไปแล้วเหรอ ไม่ชอบหน้าฉันขนาดนั้นเลย?”

ขาของวารุณีหยุดลงทันที หันกลับมาด้วยใบหน้าที่คิ้วขมวด “ขอโทษนะ ฉันไม่ได้เห็นเธออยู่ในสายตาเลย ดังนั้นจะเรียกว่าชอบหรือไม่ชอบคงไม่ได้ เธอสำหรับฉันแล้ว เป็นแค่อากาศธาตุ เธอคิดว่าฉันจะให้ความสำคัญกับอากาศธาตุงั้นเหรอ?”

“นี่เธอ!”ใบหน้าของจุ๊บแจงบูดบึ้ง

ผู้หญิงคนนี้ เปรียบเธอกับอากาศธาตุงั้นเหรอ

คำพูดนี้ความหมายว่า ผู้หญิงคนนี้เห็นเธอไม่มีตัวตน เมื่อเทียบกับการไม่ชอบขี้หน้าแล้ว มันฟังดูแย่กว่ามาก

อย่างน้อย การไม่ชอบขี้หน้าเธอ ก็แสดงว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เห็นเธอเป็นอากาศธาตุ อย่างน้อยก็ยังมองเห็นเธออยู่

แต่เมื่อเปรียบเธอกับอากาศ มองไม่เห็นเธอ การดูแคลนและมองข้ามแบบนี้ มันทำเธอรับไม่ได้

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ