น้อยจนพูดได้เลยว่า ราวกับไม่มี
ขณะคิด นัทธีหรี่ตาพลางมองพิชิต “นายมีความคิดแบบนี้ได้ยังไง?”
ดวงตาของพิชิตหม่นลง บนใบหน้ามีรอยยิ้มอย่างเจ็บปวด “พูดแล้วนายอาจจะคิดว่าฉันน่าขำ ฉันมีความคิดว่า อยากจะช่วยนวิยาชดใช้ความผิด”
“อะไรนะ? ” นัทธีขมวดคิ้วเข้ม “จะชดใช้ความผิดให้นวิยา?”
“ใช่” พิชิตพยักหน้า “นวิยาทำเรื่องเลวร้ายมามากมาย ทำร้ายพ่อแม่นาย ทำร้ายพ่อแม่ของหล่อนเอง ทำร้ายอารัณกับไอริณและวารุณี ชีวิตของหล่อนเต็มไปด้วยคาวเลือด ดังนั้นฉันจึงอยากไปเป็นแพทย์เคลื่อนที่ สะสมบุญด้วยการรักษาคนในที่ต่างๆ เพื่อที่จะชดใช้เวรกรรมกับคนที่เธอได้ทำร้ายไว้ และก็เพื่อเป็นการสร้างบุญให้เธอด้วย”
ได้ยินแบบนี้ ร่องรอยของการประชดก็แวบเข้ามาในตาของนัทธี “นายนี่รักหล่อนจริงๆนะ รักถึงขึ้นยินดีทิ้งงานที่อยู่ตรงหน้า ไปเป็นแพทย์เคลื่อนที่ธรรมดา พิชิต พ่อแม่นายรู้เรื่องนี้มั้ย?”
“พวกท่านรู้” ความรู้สึกผิดลอยขึ้นมาบนใบหน้าของพิชิต “แล้วพวกท่านก็เห็นด้วยแล้ว”
“งั้นเหรอ?” ได้ยินว่าพ่อแม่พิชิตเห็นด้วยแล้ว นอกจากขมวดคิ้ว นัทธีก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
พ่อแม่เขาถึงขึ้นเห็นด้วยแล้ว เขายังจะพูดอะไรได้?
“นี่คือสิ่งที่นายตัดสินใจเอง งั้นนายก็ไปทำเถอะ หวังว่านายจะไม่เสียดายที่หลัง” ริมฝีปากบางของนัทธีพูดอย่างนิ่งๆ
“จะไปเมื่อไหร่?” นัทธีมองเขาพลางถาม
พิชิตยิ้ม “หลังจากนี้สามวัน ฉันเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว และก็ยื่นใบลาออกแล้ว”
“หลังจากนี้จะกลับมามั้ย?” นัทธีถามอีก
ไม่ว่าจะพูดยังไง พวกเขาก็เคยเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดต่อกัน ถึงแม้ว่ามิตรภาพครั้งนี้จะหายไปแล้วก็ตาม
แต่ว่าตอนนี้คนก็จะไปแล้ว ท่าทีของนัทธีก็อดไม่ได้ที่จะอ่อนลง
พิชิตรู้สึกได้ถึงท่าทีของนัทธีที่มีต่อตนเองเปลี่ยนไป รอยยิ้มบนใบหน้าก็ยิ่งเข้มขึ้น “กลับ รอให้มีเรื่องอะไร ฉันจะกลับมาดู แต่คงไม่อยู่ที่นี่นานแล้ว ฉันในอนาคต คงจะเดินทางแพทย์เท่านั้น บางทีถึงตอนที่แก่แล้ว ฉันอาจจะกลับมาลงหลักปักฐานที่นี่ก็เป็นได้”
“อืม” นัทธีพยักหน้า แสดงให้รู้ว่าเข้าใจแล้ว “ที่แรกเตรียมจะไปที่ไหน?”
พิชิตส่ายหน้า “ตอนนี้ยังไม่ได้คิดเลย รอให้ถึงสนามบินแล้วค่อยตัดสินใจตอนนั้น ถึงยังไงเป็นแพทย์เคลื่อนที่ จะเริ่มจากที่ไหนก็ได้ ไม่ต้องตั้งใจวางแผน”
“ตามใจนาย” นัทธีพยักหน้าเล็กน้อย ไม่ถามต่อแล้ว
พิชิตมองทางเขา “ใช่แล้วนัทธี นายมาที่นี่ เพื่อหารพีเหรอ?”
“พงศกรมาที่นี่ น่าจะมาหาเรื่องรพี ดังนั้นฉันจึงมาดู” นัทธีพยักหน้าตอบรับ
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีความสัมพันธ์แบบเพื่อนกับรพี แต่ถึงยังไงรพีก็แฟนเก่าของปาจรีย์
ส่วนปาจรีย์ก็เป็นเพื่อนรักที่สุดของวารุณี ตรงจุดนี้ เขาก็ไม่สามารถมองดูรพีโดนพงศกรหาเรื่อง
“ที่แท้เป็นแบบนี้ งั้นพวกเราไปด้วยกันเถอะ พอดีเลยฉันจะไปดูว่าแผลที่ได้รับบาดเจ็บของรพีเป็นยังไงบ้างแล้ว” พิชิตพูด
นัทธีพูดอืม
จากนั้นทั้งสองก็เดินไปทางที่พงศกรเดินไปเมื่อครู่
ขณะนั้น ในห้องผู้ป่วยของรพี
รพีกำลังนั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วย หลังพิงพนักพิงเตียง มือข้างนึงถือแก้วพลางดื่มอย่างช้าๆ ส่วนมืออีกข้าง ก็กดแป้นพิมพ์คีย์บอร์ดของโน้ตบุ๊กที่วางอยู่บนขาอย่างเบาๆ กำลังจัดการงาน
ขณะนั้น ประตูห้องผู้ป่วยก็เปิดออก
รพีคิดว่าเป็นพยาบาลมาตรวจ ดังนั้นจึงไม่ได้เงยหน้ามองว่าคนที่เข้ามาเป็นใคร
พงศกรมองรพี เมื่อเอ่ยปากก็พูดแดกดัน “ดูนายตอนนี้สิ เห็นทีตอนนั้นให้นายเจ็บตัวไม่มากพอนะ”
ถึงแม้เขาจะเสียใจที่ตระกูลจิรดำรงค์จากไปไม่ลาเขาสักคำ แต่ว่าเขาก็พอจะเข้าใจ
ถึงยังไงพงศกรก็กดดันกันเกินไป พวกเขาทำได้แค่จากไป ปาจรีย์ถึงจะคลอดเด็กที่อยู่ในท้องออกมาได้
แต่แค่ความสัมพันธ์ของตนกับปาจรีย์ เกรงว่าจะตัดขาดกันโดยอัตโนมัติแล้วมั้ง
คิดมาถึงตรงนี้ รพีก็ถอนหายใจ นัยน์ตาก็มีความขมขื่น
แต่เดิมเขามาที่นี่เพื่อหาหล่อน เพื่อที่จะอยู่กับหล่อน
สุดท้ายไม่ง่ายเลยที่จะได้คบกัน แต่ไม่นาน ก็ถูกบังคับให้แยกจากกัน
ระหว่างพวกเขาไม่มีอะไรพัฒนา ปาจรีย์ก็ยังไม่มีความรู้สึกต่อเขา จากกันแบบนี้ เกรงว่าจะหมดหนทางแล้ว
“เป็นไปไม่ได้!” พงศกรไม่รู้ว่ารพีกำลังคิดอะไรอยู่ เมื่อได้ยินรพีพูด ตระกูลจิรดำรงค์ไม่ได้ติดต่อกับรพี และไม่ได้บอกว่าพวกเขาไปอยู่ที่ไหน ปฏิกิริยาแรกของพงศกรก็คือไม่เชื่อ
หลังจากเขากลับประเทศมา รู้ว่าปาจรีย์นั้นคบกับผู้ชายคนนึง ก็ตรวจสอบผู้ชายคนนั้น ก็รู้ว่าฐานะของผู้ชายคนนี้ในตระกูลจิรดำรงค์สูงขนาดไหน พ่อแม่ตระกูลจิรดำรงค์ชอบเขาขนาดไหน
ดังนั้นพ่อแม่ตระกูลจิรดำรงค์ จะไม่บอกผู้ชายคนนี้ ว่าพวกเขาไปไหนได้ยังไง?
ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ชายคนนี้ ได้รับบาดเจ็บจนต้องนอนโรงพยาบาลก็เพราะลูกสาวตัวเองนะ
“ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ที่เขาพูดนั้นเป็นความจริง ตระกูลจิรดำรงค์ไม่ได้บอกเขาจริงๆว่าไปอยู่ที่ไหน” ขณะที่รพีเม้มปากแน่น และกำลังจะพูดอะไร ที่ประตูก็มีเสียงเย็นชาของนัทธีดังขึ้นมา
พงศกรทำหน้าสงสัย จากนั้นก็หันหลัง หันไปมองทางประตูพร้อมกับรพี
นัทธีกับพิชิตเดินตามกันเข้ามา
นัทธีมองไปที่สีหน้าของพงศกรที่เปลี่ยนไปมาไม่หยุด และพูดขึ้นอีกครั้ง “นายมาหารพีที่นี่ มาหาผิดคนแล้วจริงๆ เพราะว่าเขานั้นไม่รู้จริงๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ
อ่านจบครบทุกตอนแล้วค่ะ สนุกมากค่ะเนื้อเรื่องน่าติดตาม ติดงอมแงมเลย นางเอกฉลาดทันคนดีค่ะ ขอติอย่างเดียวคือ พิมพ์ผิดเยอะมากทำให้เสียอรรถรสใน การอ่าน เป็นกำลังใจให้นักเขียนนะคะ🫶🏻...
แล้วกโอ้เอ คุยยืดยาดอยู่นั่น หนีสิคะ ไปหาตำรวจก่อน แจ้งว่ามีสตอคเกอร์ ขอความคุ้มครองจากตำรวจ รอนัทธีส่งคนไปรับ...
นางเอกโง่มาก มีคนชั่วอยู่ในบ้าน ก็ต้องรีบกำจัดสิ เก็บไว้ให้มันทำร้ายตัวเองกับลูกเหรอ น่าจะรีบบเอาวีดีโอให้สามีดูแล้วแจ้งตำรวจ...