พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ นิยาย บท 96

ใบหน้าที่ดุร้าย กับแววตาที่เคียดแค้นของพิชญาจ้องมองไปที่วารุณี “ยังมีหน้ามาถามฉันอีกเหรอว่ามาทำไม วารุณี เช้านี้เธอไปอาละวาดที่บ้านของฉัน แล้วยังเรื่องที่ไปเอาเงินพ่ออีกยี่สิบล้าน ฉันรู้หมดแล้ว”

“อ้อ?”วารุณียิ้ม“เพราะฉะนั้นที่เธอมาที่นี่ ก็เพื่อมาเอาเงินยี่สิบล้านคืน ?”

พิชญาขยับร่างกายไม่ได้ ทำได้เพียงส่งเสียงหึในลำคอ “เธอรู้สภาพของตระกูลศรีสุขคําอยู่เต็มอก ว่าหาเงินจำนวนนี้ให้เธอไม่ได้ ”

“แล้วยังไง?”

“แล้วยังไง ? เธอต้องการให้ตระกูลศรีสุขคําล้มละลายหรือไง ? ”พิชญาตะโกนเสียงดัง

วารุณีกะพริบตาปริบๆ“ก็ได้นะ เพราะยังไงเมื่อเจ็ดปีก่อนตอนที่เราถูกไล่ออกมา ทุกอย่างของตระกูลศรีสุขคําก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเราแล้ว จะล้มละลายก็ล้มละลายไปสิ!”

“เธอ……”เมื่อเห็นเธอมีท่าทีที่ดื้อรั้นแบบนี้ พิชญาก็โมโหจนพูดอะไรไม่ออก

วารุณีปล่อยผมของหญิงสาว“เงินนั้น ยังไงฉันก็ไม่คืน มันเป็นสิ่งที่ฉันควรจะได้”

“มีสิทธิ์อะไร ?”ใบหน้าพิชญาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “เธอพูดเอง ว่าตระกูลศรีสุขคําไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเธอ แล้วเธอมีสิทธิ์อะไรไปขอเงินยี่สิบล้านกับพ่อ มันควรจะเป็นเงินของฉัน เงินของฉัน !”

ตอนนี้เธอกำลังขัดสนเงิน และกำลังคิดว่าจะหาวิธีไหนเพื่อให้ได้เงินมา ก็ประจวบเหมาะกับที่ได้ยินนางขยานีบอกว่าตอนเช้าพ่อให้เงินวารุณีไปยี่สิบล้าน

เธอจะยอมรับมันได้ยังไง เมื่อสอบถามที่อยู่ของวารุณีมาได้ เธอจึงได้รีบตามมาทันที เพื่อจะขอเงินคืน แต่วารุณีกลับบอกว่าไม่คืน!

“เงินของเธอ?”ราวกับได้ยินเรื่องตลกที่สุด วารุณีหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า “ในเมื่อเธอพูดแบบนี้ งั้นเราก็มาถามพ่อกัน ว่าเงินก้อนนี้เป็นของใครกันแน่”

หลังจากที่พูดจบ เธอค้นหาเบอร์โทรของนายสุภัทรแล้วกดโทรออก

นายสุภัทรรับสายในทันที น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเอือมระอา “เธอคิดจะทำอะไรอีก ยังอยากจะได้เงินอีกงั้นเหรอ ?”

“พ่อ เข้าใจผิดแล้ว ครั้งนี้หนูไม่ได้มาขอเงิน แต่พิชญามาหาหนู บอกว่าเงินยี่สิบล้านนั้นเป็นของเธอ และให้หนูคืนให้เธอ”

วารุณีรับรู้ได้ว่าพิชญากำลังดิ้นรนขัดขืน เม้มริมฝีปากแน่น ขยับเข่าออกแล้วนั่งทับไปบนหลังของเธอ

การกระทำของวารุณี สำหรับพิชญาแล้วมันเป็นความอัปยศอดสู ดวงตาของเธอแดงก่ำ แต่ก็ไม่สามารถดิ้นรนให้หลุดพ้นได้ ได้แต่กรีดร้องออกมาจนเบ้าตาแทบหลุด

นายสุภัทรได้ยินเสียงกรีดร้องของเธอ ก็กังวลใจขึ้นมา “วารุณี เธอทำอะไรพี่สาวของเธอ ?”

“วางใจเถอะพ่อ หนูไม่ได้ทำอะไรเธอ เธอสบายดี พ่อพูดมาเถอะ ว่าเงินยี่สิบล้านนี้เป็นของใคร ”วารุณีเปิดลำโพงโทรศัพท์ แล้ววางไปที่หูของพิชญา

นายสุภัทรถอนหายใจออกมา “เป็นของเธอ”

“พ่อ?”พิชญาตะโกนออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ “ทำไม เธอไม่ใช่ลูกสาวของพ่อตั้งนานแล้ว ทำไมพ่อต้องให้เงินเธอมากมายขนาดนั้นด้วย”

“หุบปากซะ แกจะไปรู้อะไร ?”นายสุภัทรตวาดกลับมา

พิชญาหัวเราะเยาะ “หนูไม่สน พ่อจะเอาเงินให้เธอไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด !”

“พ่อไม่ฟังเธอหรอก ”วารุณีหยิบโทรศัพท์คืนกลับมา“รู้ไหมทำไม เพราะถ้าพ่อเอาเงินคืนกลับไป ก็ยิ่งจะเสียหายหนักกว่าเดิม อีกทั้งชื่อเสียงของพ่อก็จะฉาวโฉ่ และแม่ของเธอก็จะโดนข้อหาฆาตกรรมด้วย”

อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ นายสุภัทรเมื่อได้ยินคำพูดนี้ มุมปากกระตุก ใบหน้าที่ชราก็หมองคล้ำมืดมน

พิชญาตกตะลึง “หมายความว่าไง?”

“หมายความว่า แม่ของเธอต้องการที่จะฆ่าฉัน เมื่อคืนลงมือจัดการฉัน หนำซ้ำยังเกือบจะเอาชีวิตประธานนัทธีด้วย”วารุณีตอบกลับเสียงเบา

น้ำเสียงของเธอฟังดูนุ่มนวล แต่ไม่มีความอ่อนโยนอะไรเลย มีเพียงความเย็นเยือกที่ผุดออกจากส่วนลึกของหัวใจ

“เป็นไปไม่ได้!”พิชญาส่ายศีรษะไปมาอย่างแรง ไม่เชื่อที่วารุณีพูด

“ไม่เชื่อก็ช่าง ”วารุณีปิดลำโพงโทรศัพท์ แล้วแนบไปที่หู “แค่นี่แหละพ่อ ขอวางสายก่อนนะคะ”

พูดจบ เธอก็กดตัดสายทิ้ง แล้วลุกขึ้นจากร่างของพิชญา

เมื่อพิชญาไม่ได้ถูกพันธนาการใดๆแล้ว ก็ลุกขึ้นนั่งกับพื้น กำหมัดแน่นแล้วจ้องมองไปที่วารุณี “เมื่อกี้เธอพูดว่า เมื่อคืนเกือบเอาชีวิตนัทธีด้วย หมายความว่าเมื่อคืนเธออยู่กับนัทธี พวกเธอทำอะไรกัน ?”

วารุณีย่นคิ้ว “เธอไม่เป็นห่วงประธานนัทธีเลยเหรอ ไม่ถามสักคำว่าเขาได้รับบาดเจ็บอะไรหรือเปล่า แต่กลับถามฉันว่าทำอะไรกับเขาหรือเปล่า ฉันสงสัยว่าเธอรักเขาจริงๆหรือเปล่า”

แต่เรื่องเหล่านี้ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอ เธอขอแค่เงินเข้าบัญชีมาก็พอ

เธอโอนเงินให้ปาจรีย์ จากนั้นก็บิดขี้เกียจ แล้วล้มตัวลงนอนบนเตียงเพื่อพักผ่อน

วันรุ่งขึ้น เธอไปที่แฟชั่นพาวิลเลี่ยนแต่เช้า เพื่อเตรียมตัวสำหรับงานเปิดตัว

ในตอนที่เธอมาถึง ภายในแฟชั่นพาวิลเลี่ยนก็มีคนอยู่บ้างแล้ว พนักงานทั้งหลายต่างก็เริ่มยุ่งกับงานของตัวเอง

ในตอนนี้เอง มีพนักงานคนหนึ่งเห็นเธอ ก็เดินเข้ามาหาด้วยท่าทีแปลกๆ “คุณวารุณี คุณรีบเข้าไปที่ห้องแต่งตัวเถอะค่ะ เกิดเรื่องแล้ว ”

“เรื่องอะไร ?”รอยยิ้มบนใบหน้าของวารุณีหายวับไป

พนักงานตอบว่า“รายละเอียดเป็นยังไงฉันไม่รู้ค่ะ ดูเหมือนเสื้อผ้าจะมีปัญหา ”

เสื้อผ้า!

รูม่านตาของวารุณีหดลง แล้ววิ่งตรงไปที่ห้องแต่งตัวอย่างเร่งรีบ

ในขณะที่วิ่ง เธอก็อธิษฐานในใจ อย่าเป็นไปอย่างที่พนักงานคนนี้พูดเลย

เมื่อมาถึงที่ห้องแต่งตัว วารุณีก็ผลักประตูเข้าไป เห็นกลุ่มผู้ช่วยฝ่ายเสื้อผ้ายืนล้อมกันอยู่ ทุกคนมีสีหน้าที่ดูแย่ และบรรยากาศก็อึมครึมมาก

“พวกคุณทำอะไรกันอยู่ ? ”วารุณีปิดประตูห้องแต่งตัว ซ่อนเก็บความตื่นตระหนกตกใจที่มี เอ่ยถามเสียงต่ำ

เมื่อทุกคนได้ยินเสียงของเธอ ต่างก็หันไปมอง ราวกับเห็นแกนนำคนสำคัญ จึงรีบพูดไปว่า “คุณวารุณี มีคนมาตัดทำลายเสื้อผ้าเดินแบบของเราพังหมดแล้วค่ะ !”

“อะไรนะ?”วารุณีหน้ามืดทันที เดินไปดูตามราวแขวนผ้า

เสื้อผ้าที่แขวนอยู่บนไม้แขวน ถูกเอาออกจากถุงคลุมทั้งหมด ที่ไม่มีถุงคลุมปิดบัง ก็เห็นร่องรอยมีดกรีดไปบนเสื้อผ้าได้อย่างชัดเจน บางชุดที่สภาพแย่หน่อย ก็ถูกกรีดจนเป็นเศษริ้วผ้า ล้วนมองดูไม่ได้ ทำให้เห็นว่าคนที่ลงมือทำนั้นช่างอำมหิตนัก

“ใครเป็นคนทำ?”วารุณีกำมือแน่นแล้วตวาดเสียงดัง เพราะอารมณ์ที่โกรธจัด ดวงตาจึงแดงก่ำ หน้าอกก็กระเพื่อมไหวอย่างรุนแรง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิชิตใจหม่ามี๊ตัวแสบ