พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 111

ตอนที่ 111 ลงโทษองค์รัชทายาท

ทุกคนต่างก็เห็นซือถูเย้น รัชทายาทตั้งใจยั่วยุ เห็นชัดๆ เลยว่ามีเจตนาจะทำให้โกรธ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นอ๋องซื่อเจิ้งผู้ดูแลประเทศ ก็สามารถตำหนิรัชทายาทและสั่งสอนรัชทายาทได้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าตำแหน่งรัชทายาทนั้นเขาจะนั่งได้จนถึงเมื่อไหร่ คำพูดพวกนี้มีเพียงฝ่าบาทเท่านั้นที่จะพูดได้

เขาใช้อำนาจของฮ่องเต้กับการเมือง และตั้งแต่ต้นจนจบเขาไม่ใช่ฮ่องเต้

ซือถูเย้นเองก็ไม่ได้โกรธ เพียงแต่สั่งให้คนพาเปากงกงของฮ่องเต้เข้ามา เปากงกงอยู่ปรนนิบัติรับใช้ฮ่องเต้มาหลายปี และยังเคยรับใช้ฮ่องเต้องค์ก่อน เป็นคนเก่าแก่ของวังหลวง แม้แต่ไท่ฮองไท่เฮาก็ยังต้องไว้หน้าเขาอยู่

เมื่อเปากงกงมาถึงก็โค้งตัวลงคำนับแล้วพูดว่า “ถวายบังคมฮองเฮาเหนียงเหนียง และท่านอ๋อง”

“ลุกขึ้นเถอะ” ฮองเฮามองไปที่ซือถูเย้นด้วยความไม่พอใจ “เปากงกงกำลังอยู่รับใช้ฮ่องเต้อ เจ้าจะให้เขาเข้ามาทำอะไร?”

ซือถูเย้นไม่ได้ตอบคำถามของฮองเฮา แต่กลับถามว่า “เปากงกง โปรดอ่านราชโองการฉบับที่สองของฮ่องเต้”

เปากงกงดูเหมือนเตรียมพร้อมมาก่อนแล้ว รับคำสั่งแล้วพูดว่า “พ่ะย่ะค่ะ พระราชโองการฉบับที่สองของฮ่องเต้”

พระราชโองการฉบับแรกที่ฮ่องเต้เขียนเอาไว้ ก็คือประกาศให้ซือถูเย้นเป็นผู้ดูแลประเทศ และยังมอบหมายให้ดูแลจัดการเรื่องราวต่างๆ ทุกคนไม่รู้ว่าจะมีพระราชโองการฉบับที่สองด้วย

ทุกต่างมองหน้ากันไปมา แม้แต่เหลียงไถ้ฝู้ก็ยังหันไปมองฮองเฮา สีหน้าของฮองเฮาเหมือนจะงุนงง จากนั้นก็ถามซือถูเย้นว่า “พระราชโองการฉบับที่สองอะไร ฮ่องเต้เขียนพระราชโองการฉบับที่สองด้วยหรือ”

ซือถูเย้นพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ “ไม่ใช่แค่ฉบับที่สองเท่านั้น”

พอพูดประโยคนี้ออกมา สีหน้าของฮองเฮาก็เปลี่ยนเป็นซีดเผือดทันที นางเริ่มกระวนกระวายใจ พระราชโองการฉบับนี้เขียนว่าอะไร นางก็พอจะคาดเดาได้บ้าง

และเป็นอย่างที่คาดเอาไว้จริงๆ เปากงกงประกาศราชโองการ “ด้วยราชโองการแห่งสวรรค์ ฮ่องเต้จึงทรงมีรับสั่งว่า ข้าป่วยเรื้อรังมายาวนาน ไม่มีวี่แววว่าจะทุเลาลง ดังนั้นข้าจึงขอมอบอำนาจในการบริหารบ้านเมืองของฮ่องเต้ให้แก่ซือถูเย้น อนุญาตให้เป็นผู้สำเร็จราชการแทน ปกครองประเทศชั่วคราว หากข้ามีเวลาจำกัด รัชทายาทจะได้รับการสนับสนุนเพื่อขึ้นครองราชย์จากผู้สำเร็จราชการแทน ความกังวลเดียวของข้าก็คือรัชทายาทยังหนุ่มและเป็นคนอารมณ์ร้อน ไม่ฟังคำสั่งสอน อีกทั้งข้ายังไม่มีเวลาคอยอบรมสั่งสอน จึงเป็นเหตุให้รัชทายาทดื้อรั้นหัวแข็งไม่มีมารยาท ข้าวางแผนเพื่อแคว้นต้าโจว จึงต้องแจ้งขุนนางราชสำนักทุกท่าน หากรัชทายาทประพฤติตัวไม่ดีทำเรื่องที่ขัดต่อกฎหมายบ้านเมือง และยังไม่เชื่อฟังคำสั่งสอน ข้าก็ยากจะให้อภัย จึงอนุญาตให้ผู้สำเร็จราชการแทนใช้อำนาจลงโทษกับรัชทายาทได้”

รัชทายาทที่นั่งอยู่บนเก้าอี้พูดพึมพำเบาๆ ว่า “เป็นไปไม่ได้ ท่านพ่อไม่เขียนราชโองการเช่นนี้แน่นอน”

สีหน้าท่าทางของซือถูเย้นดูทะนงตน หลังจากเปากงกงอ่านพระราชโองการฉบับที่สองเสร็จแล้ว ก็เชิญเขากลับไป

เสี้ยโล่เยว่ตะลึงงันไปครู่หนึ่ง จับหลิงหลงฮูหยินเอาไว้แน่น “นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้น จะปลดองค์รัชทายาทออกจากตำแหน่งอย่างนั้นหรือ ไม่ ไม่ได้”

ปลดองค์รัชทายาทออกจากตำแหน่ง ถึงแม้นางจะไม่ใช่พระสนมขององค์รัชทายาท แต่ตอนนี้นางกับองค์รัชทายาท....

เฉิงเสี้ยงเสี้ยได้ยินเข้า ก็พลันหันไปมองเสี้ยโล่เยว่ด้วยสายตาที่โหดเหี้ยม และตำหนิเสียงทุ้มต่ำว่า “หุบปาก”

หลังจากพระราชโองการฉบับนี้ถูกประกาศออกไปแล้ว หัวใจของเฉิงเสี้ยงเสี้ยก็เต้นตึกตักเสียงดัง ซือถูเย้นมีอำนาจถอดถอนรัชทายาทได้ นี่ก็หมายความว่า ถึงแม้ฮ่องเต้จะสวรรคต รัชทายาทก็อาจจะไม่ใช่ผู้ที่ได้รับตำแหน่งฮ่องเต้องค์ต่อไปสินะ

หลังจากรัชทายาทเริ่มไม่มั่นใจในตัวเอง ก็เอ่ยปากพูดขึ้นมาว่า “ท่านพ่อบอกเอาไว้ในราชโองการว่าหากข้าไม่ปฏิบัติตามกฎหมายของบ้านมือง และอบรมสั่งสอนหลายครั้ง ข้าก็ยังไม่ปรับปรุงแก้ไขถึงจะสามารถถอดข้าออกจากตำแหน่งรัชทายาทได้ เจ้าประกาศพระราชโองการตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์อันใด ถึงแม้ข้าจะยังไม่มีความสามารถ แต่ข้าก็ไม่ได้ฝ่าฝืนกฎหมายของบ้านเมือง”

ซือถูเย้นพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย “เจ้ากับไป๋เย่สั่งโยกย้ายทหารโดยพลการ และผิดกฎของทหาร อีกทั้งเจ้าไม่ได้มีตำแหน่งใดในกองทัพ ข้าแค่จะเฆี่ยนเจ้าด้วยไม้ตะบองสามสิบที จนกว่าไป๋เย่จะ....”

เขาเงยหน้ามองไปยังเหลียงไถ้ฝู้ด้วยสายตาเย็นชา “ฆ่าไม่เว้น”

ซูชิงที่ยืนอยู่ตรงนั้นมาตลอด รับคำสั่งแล้วจากไปทันที

ฮองเฮาคิดอยากจะลุกขึ้นมาขอร้องเขา ซือถูเย้นเหลือบมองนางด้วยสายตาเย็นชา “ฮองเฮาปวดใจรึ? ถ้าตอนนี้ปวดใจละก็ ท่านค่อยร้องไห้ทีหลังก็แล้วกัน”

คำพูดนี้ช่างใจดำยิ่งนัก และไม่ไว้หน้าแม้แต่นิดเดียว เห็นได้ชัดว่าเขาตั้งใจทำลายความปรองดองและการเสแสร้งระหว่างฮองเฮาด้วยการฉีกหน้านาง

ฮองเฮาไม่พูดอะไร เพียงแต่กำหมัดเอาไว้แน่น แน่นมาก สายตาอาฆาตแค้นของนางมองไปที่หน้าซือถูเย้นและเลื่อนไปบนใบหน้าหลีโม่อย่างช้าๆ

ลอบสังหารผู้สำเร็จราชการแทนในคราวนี้ เดิมทีนางก็ไม่รู้เรื่องอะไร ดังนั้นจึงไปขอร้องเสี้ยหลีโม่ในตอนที่ถูกไท่เฟยคุมตัวเอาไว้ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเสี้ยหลีโม่จะช่วยเหลือซือถูเย้น ซึ่งมันทำการใหญ่ของนางพัง

ถ้าไม่ใช่เพราะยังอาศัยการรักษาเหลียงอ๋องจากเสี้ยหลีโม่ เกรงว่าฮองเฮาคงไม่ให้เขามีชีวิตอยู่ถึงวันพรุ่งนี้แน่นอน

ฮองเฮาจะยอมให้หลีโม่มีชีวิตต่อไปหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่ต้องคุยกันทีหลัง แต่ว่าในใจของเฉิงเสี้ยงเสี้ยในตอนนี้ เขาแน่ใจแล้วว่าจะไม่เอานางไว้

นางเกลียดตัวเองเกลียดจวนเฉิงเสี้ยง และเขาไม่คิดว่าความแค้นเช่นนี้จะสามารถละลายหมดสิ้นไปได้ กลับมาพร้อมกับความแค้น และยังมีผู้สำเร็จราชการแทนคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง เขาไม่ยอมให้นางมีชีวิตอยู่ต่อไปแน่นอน

ในระหว่างที่กำลังขบคิดอยู่นั้น ก็มีเสียงร้องราวกับหมูถูกเชือดของรัชทายาทดังขึ้นมา เลือดเกือบทะลักออกมาจากดวงตาของฮองเฮา นางกำหมัดทั้งสองมือเอาไว้แน่น เล็บมือแทบจะจิกเข้าไปในผิวเนื้อเต็มที

เสี้ยโล่เยว่เจ็บปวดใจเป็นอย่างมาก รีบพุ่งออกไปทันที เมื่อมาถึงตำหนักก็พบทหารกำลังจับรัชทายาททุบตีอยู่ ก็รีบเข้าไปผลักทหารผู้นั้นออกทันที พูดด้วยความโกรธว่า “เขาเป็นองค์รัชทายาทนะ เจ้าลงมือเบาๆ หน่อยไม่ได้หรืออย่างไร?”

หลีโม่กำลังมองดูอยู่ เขายิ้มออกมาก่อนจะหัวเราะ เสี้ยโล่เยว่ เจ้ายังไม่ใช่พระสนมของรัชทายาท แม้แต่ฮองเฮาก็ยังขอร้องมิได้ คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะกล้าผลักทหารที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่

กล้าท้าทายความน่าเกรงขามของซือถูเย้นอย่างนั้นหรือ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม