ตอนที่ 167 เซียวโธ่ไม่ใช่คนโง่
หลีโม่คิดว่าซือถูเย้นดื่มสุราตอนมื้อกลางวันจบก็กลับ ไม่คิดว่าเขายังอยู่คุยกับขุนนางและครอบครัวอยู่ในศาลา
ผู้หญิงสูงศักดิ์พวกนั้นเข้ามารินสุราในเขา แทบจะไปซบในอกของเขาทั้งตัว เขากลับไม่คิดจะหลบหลีก
ยังกล้าบอกไม่ชอบให้ผู้หญิงเข้าใกล้ เหลวไหลสิ้นดี
หลีโม่โกรธจนหันหน้ากลับไป แล้วพูดกับซือถูจิ้ง
เซี่ยวโธ่มาตอนนี้พอดี เขาเพิ่งเข้าไปแม่ทัพเฉินทั้งหลายก็รีบตามเข้าไป จนทำให้เซี่ยวโธ่ตกใจ
หลีโม่พูดกับเฉินหลิ่วหลิ่วว่า “หลิ่วหลิ่ว ดูเซียวโธ่ตกใจสินั่น ”
เฉินหลิ่วหลิ่วกระโดดขึ้นอย่างแรง อยากจะเข้าไล่พี่ๆทั้งหลาย แต่ก็กลัวตนเองจะน่ากลัวเกินไป ทำให้เซี่ยวโธ่ตกใจ ก็เลยไปสะกิดเบาๆ “องค์หญิง เจ้าช่วยไปไล่พวกพี่ๆข้าหน่อย”
ซือถูจิ้งยิ้มๆแล้วพูดว่า “แม่ทัพเฉินทั้งหลาย พวกเจ้ามาช่วยข้าทำอะไรหน่อยสิ”
แม่ทัพเฉินทั้งหลายดูเหมือนไม่อยากจะสนใจซือถูจิ้ง เพราะจะมีอะไรที่จะน่าสนใจไปกว่าคุยกับว่าที่น้องเขยตนเอง?
แต่ทว่า รับสั่งขององค์หญิงจะไม่ฟังก็ไม่ได้
ซือถูจิ้งมองไปที่ซือถูเย้น แล้วก็มองไปที่หลีโม่ ยิ้มแล้วพูดกับแม่ทัพเฉินทั้งหลายว่า “พวกเจ้าเข้าไปช่วยเอาสุราของอ๋องซื่อเจิ้งย้ายไปจวนของข้า ข้ารับรองว่า ตอนที่พวกเจ้ากลับมา เซียวโธ่ก็ยังอยู่ที่นี่ อีกอย่าง เจ้าไปล้อมเซียวโธ่ไว้ทำไม? ควรจะให้เขาคุยกับหลิ่วหลิ่วถึงจะถูก ”
พี่น้องตระกูลเฉินพูดพร้อมกันว่า “ใช่แล้ว องค์หญิงพูดมีเหตุผล ”
ตัวเอกคือหลิ่วหลิ่ว ควรจะให้หลิ่วหลิ่วไปคุยกับเซียวโธ่
ทางด้านซือถูเย้นเห็นว่าพี่น้องตระกูลเฉินกำลังมาขนย้ายสุราของตน ก็ดันสาวๆที่กำลังรินสุราให้ออก กระโดดลุกขึ้นมา “ทำอะไรน่ะ อย่าเตะต้อง!”
พี่ใหญ่เฉินพูดว่า “ท่านอ๋อง องค์หญิงรับสั่งว่าให้มาเอาสุราพวกนี้ไปยังจวนขององค์หญิง ”
ซือถูเย้นมองไปที่ซือถูจิ้ง ซือถูจิ้งยกมือขึ้น “ขนไปให้หมด”
ซือถูเย้นรีบร้อน “ช้าก่อน!”
เขารีบเดินออกไป พูดอย่างหัวเสียว่า “เจ้าจะก่อเรื่องอะไร? มายุ่งกับสุราข้าทำไม?”
ซือถูจิ้งเอามือตบๆไปยังเก้าอี้ข้างๆ “เห็นเจ้าถูกสาวๆล้อมไว้จนวิญญาณแทบจะหลุดจากร่าง ไม่ย้ายสุราเจ้า เจ้ามานี่หรือ?”
ซือถูเย้นนั่งลง “ที่เจ้าพูดมานี้มันก็ไม่ถูกนะ มีคนเขาใจดีเอาสุรามาให้ข้า ข้ามีมารยาท ก็ต้องพูดคุยกับพวกเขาหน่อยไม่ใช่หรือ?”
“พอมีสุราก็ไม่เสียสติ สักวันนึง เจ้าก็จะตายในโอ่งเหล้า ” พูดอย่างเย็นชา
ซือถูเย้นถูกซือถูจิ้งตำหนิเอา เลยไปถามหลีโม่ “เจ้าไปฟ้องหรือ?”
หลีโม่มองบน “ข้าว่างมากหรือไง สู้เอาเวลาไปนั่งดื่มชาเสียดีกว่า”
พูดจบ ก็ยื่นมือไปหยิบถ้วยชา แล้วหันหน้ามองไปที่อื่น
ซือถูเย้นหายใจแรง “ใช้อารมณ์หรือ? เมื่อครู่เห็นว่าข้าถูกล้อมไว้เจ้าก็ไม่เข้าไปจัดการ ว่าที่ภรรยาแบบนี้ ไม่ได้เรื่องเลย ” พูดจบ สีหน้าเขาก็เปลี่ยนเป็นยิ้มๆแล้วพูดกับซือถูจิ้งว่า “ย้ายสุราไปจวนองค์หญิงก็ดีเหมือนกัน วันรุ่งขึ้นก็จะได้ไปขนกลับมา”
“เจ้านี่มันหน้าไม่อาย!” ซือถูจิ้งบ่น
ฝั่งเซียวโธ่ มีโอกาสเดินออกมาทางนี้ นั่งลงเอามือเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก “ตระกูลเฉินนี้ ช่างน่ากลัวเสียจริงพี่น้องตระกูลเฉินเนี่ย หาเรื่องไม่ได้เชียวนะ”
หลิ่วหลิ่วเดินเข้ามา รินน้ำชาให้เขาอย่างสง่างาม “ถูกต้องแล้ว ท่านทัพกล่าวถูกต้องแล้ว พวกเขาน่ากลัวจริงๆ ตอนข้าอยู่บ้านก็ถูกรังแกอยู่บ่อยๆ”
เซียวโธ่ตาโตมองไปที่เขา “ทำไมเจ้าถึงไม่มีความเห็นใจคนอื่นบ้าง? ไม่ได้ยินหรือไงว่าน้องหลิ่วหลิ่วถูกอาซ้อทั้ง12คนกลั่นแกล้ง”
ซือถูเย้น ส่งเสียง “ถุย ยังจะมีหน้ามาน้องหลิ่วหลิ่ว ทุกคนต่างรู้ดีว่า เสี้ยหลีโม่รับรองต่อหน้าไท่จุนว่า ภายในครึ่งปีจะจับเจ้าไปอยู่บนเตียงของเฉินหลิ่วหลิ่ว ”
เฉินหลิ่วหลิ่วทำตาโต ข้อดีของมีตาโตก็คือรับลมได้เยอะ ลมเข้าตาก็น้ำตาคลอเบ้า เมื่อเซียวโธ่เห็น ก็ยิ่งสงสารเข้าไปใหญ่ เลยรีบหันหน้ามาพูดกับซือถูเย้นว่า “ออกไปเสีย ออกไป เจ้าคนแก่เอาแต่ใจ พูดจาเลอะเทอะ หลิ่วหลิ่วเป็นคนดี ก่อนหน้าข้ามองนางผิดไป ”
พูดจบ ก็ไล่เขาออกไปอย่างกับปัดแมลงวัน
ซือถูเย้นหยิบเอาขวดสุราบนโต๊ะไปด้วย “แกล้งต่อไปเถ๊อะ”
เฉินหลิ่วหลิ่วโกรธมาก อุตส่าห์หาโอกาสได้คุยกับพี่เซียวโธ่ ถ้าถูกอ๋องซื่อเจิ้งมาทำลายแผน วันนี้นางต้องมีฆ่าคนแล้วล่ะ
แต่ว่า เขาเป็นถึงอ๋องซื่อเจิ้ง จวนอ๋องซื่อเจิ้งนั่นยิ่งใหญ่ นางทำอะไรไม่ได้ ได้แต่ลุกขึ้น แล้วพูดข้างหูซือถูเย้นว่า “ท่านยายข้าหมักสุราซาวตาวจื่อไว้ที่เป่ยโม่ ทั้งหมดเป็นของท่านอ๋อง ”
ซือถูเย้นตาเลิ่กลั่ก หันกลับมา พูดอย่างเห็นใจคนว่า “หลิ่วหลิ่ว เรื่องของเจ้าข้อก็พอรู้บ้าง เพียงแต่ เฉินไท่จุนเป็นที่เคารพนับถือ เข้าก็ไม่เหมาะที่จะไปพูดเรื่องเจ้า ได้แต่หวังว่าเจ้าจะหาคู่ครองตามที่หวังไว้จนเจอโดยเร็ว ออกไปจากนรกอย่างจวนเฉินนี่เสีย”
พูดจบ เขาก็ส่ายหัว จากไปพร้อมท่าทางสารเฉินหลิ่วหลิ่ว
เซียวโธ่มองไปที่เฉินหลิ่วหลิ่ว พูดว่า “จริงๆแล้วที่เฉินไท่จุนให้หมอเสี้ยมาช่วยเรื่องของเรานั้น ข้ารู้ตั้งนานแล้ว และข้าก็รู้ว่าเจ้าไม่เต็มใจจะแต่งกับข้า เพียงแต่อยากจะแต่งงานเร็วๆ เจ้าวางใจเถิด ข้าแกล้งมีความสัมพันธ์กับเจ้า แต่ข้าได้หาคู่ครองให้เจ้าไปแต่งแล้ว”
เซียวไม่ได้โง่ เขารู้ว่าเฉินหลิ่วหลิ่วอยู่ตระกูลเฉินไม่ได้ลำบากเช่นนั้น แต่ว่านางถูกอาซ้อทั้ง12คนกลั่นแกล้งจริงๆ เหตุที่เฉินหลิ่วหลิ่วรีบแต่งงาน ก็เพราะว่านางอยู่ได้ไม่ถึงอายุ 19 ปี ต้องให้ฟูกังช่วยเหลือ
เขาไม่อยากแต่งกับเฉินหลิ่วหลิ่ว เพราะพี่ชายนางนั้นโหดเกินไป แต่ก็ไม่อยากให้เฉินไท่จุนมาทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองตระกูล ได้แต่แกล้งโง่เช่นนี้แล้วหาคนแต่งงานกับหลิ่วหลิ่วอย่างลับๆ
เขามีคนที่เล็งไว้แล้ว
คือ ซูชิง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...