ตอนที่ 244 ข่าวแพร่กระจาย
ซูชิงเต็มใจมาก “ได้ เพียงแค่ช่วยหวางหยูได้ ข้ายอม”
ซูชิงนั่งลง หลีโม่ก็เริ่มฝังเข็ม ลำดับเหมือนกับหวางหยู เริ่มจากจุดฝังเข็มเสินถิงถึงจุดฝังเข็มเฟิงชือจนถึงตอนฝังจุดฝังเข็มหยางไป๋ ซูชิงก็ลุกขึ้น
นางกวัดแกว่งศีรษะเล็กน้อย สีหน้ามีความมึนงง
“ทำไมกันนะ?” หลีโมถาม
ซูชิงค่อยๆ นั่งลง สีหน้าท่าทางมึนงง “มีความรู้สึกบางอย่างว่ามันแปลก”
“รู้สึกว่าอะไร?” หลีโมถามทันที
ซูชิงแหงนหน้ามองนาง “คล้ายกับในสมองมีบางอย่างกระโดดอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นข้าก็มีความรู้สึกพูดไม่ออก”
“รู้สึกพูดไม่ออกหรือ?” หลีโม่มองเขาอย่างมึนงง ดูแล้ว วิชาฝังเข็มกระตุ้นจุดตำแหน่งชีพจรพวกนี้ ดึงดูดการตอบสนองตามสัญชาติของร่างกายบางอย่าง
สีหน้าของซูชิงแดงเล็กน้อย “อืม ใช่ รู้สึกพูดไม่ออก แต่เป็นไม่หนัก แค่ชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น”
หลีโม่มองเขาอย่างเลื่อนลอย “ถ้างั้นเจ้าลองพยายามพูดดูว่าเป็นความรู้สึกอะไร บางทีข้าสามารถเข้าใจได้บ้าง”
ซูชิงไม่อะไรก็พูดออกมา “พูดไม่ออก ก็เป็นเพียงแค่ชั่วขณะ”
หลีโม่รู้สึกห่อเหี่ยว เดิมทีคิดว่าเริ่มจากจุดฝังเข็มเสินถิงถึงจุดฝังเข็มเฟิงชือจะทำให้บุกทะลวงได้ แต่ว่าซูชิงพูดไม่ออกนั้นเป็นความรู้สึกอะไรกันนั้นนางก็ไม่มีวิธีค้นหา
แต่ไม่ว่าจะยังไง ในเมื่อเป็นการตอบสนองที่ปรากฏทันที ก็พิสูจน์ได้ว่าถ้าต้องการกระตุ้นถึงเส้นประสาท หรือถ้าต้องการกระตุ้นถึงเซลล์สมอง นางต้องไปศึกษาเทคนิคทางเข็มทองคำอีก
หลังจากฝังเข็มสกัดจุดให้หวางหยูแล้ว นางก็หยิบกล่องยา “สองวันนี้ ไม่ต้องขังไว้ในกรง เขาจะไม่ตื่นขึ้นมา ข้าจะกลับไปรื้อตำราหรืออาจจะคิดให้ละเอียดอีกหน่อย หลังจากสองวันข้าจะกลับมา”
“เจ้าเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วจริง ๆ หรือ?” ซูชิงถาม
หลีโม่ถอนหายใจ “ไม่ใช่เข้าใจอย่างถ่องแท้ ซูชิง เจ้าอย่าคาดหวังไว้มากเกินไป เมื่อครู่ข้าเพียงรู้เบาะแสเล็กน้อยเท่านั้น”
แต่ว่าวิชาฝังเข็มทางนี้กลัวว่าจะหาอะไรไม่ได้เลยนะสิ แค่เห็นว่าจื่นเฉิงทางนั้นทะลวงได้
หลีโม่พึ่งคิดจะออกไป ก็เห็นองครักษ์ของซูชิงเร่งรีบเข้ามา “ท่านแม่ทัพ ข้าไปสืบมาชัดเจนแล้ว หมู่บ้านสือโถวนั้นเกิดโรคระบาดขึ้น ท่านอ๋องเลยส่งคนไปปิดหมู่บ้านไว้ก่อน”
“โรคระบาดหรือ?” ซูชิงตกใจ “หมู่บ้านสือโถวจะเกิดโรคระบาดได้อย่างไร?”
“เพราะวันนี้ตอนที่นายหญิงแก่จวนเฉิงเสี้ยงไปวัดสือโถวบนเขาของหมู่บ้านสือโถวแล้วพบเข้า นายหญิงแก่กลับไปแจ้งแก่เฉิงเสี้ยง เฉิงเสี้ยงกับไถ้ฝู้เลยรีบไปกราบทูลท่านอ๋อง” องครักษ์พูด
“คนที่พบคือนายหญิงแก่จวนเฉิงเสี้ยงหรือ?” ซูชิงเหลือบมองหลีโม่ แล้วถามขึ้นอีก “เป็นโรคระบาดอะไร? ทำไมก่อนหน้ากรมฮุ่ยหมินไม่มารายงานให้ทราบ?”
องครักษ์พูด “กรมฮุ่ยหมินไม่รู้เรื่องนี้กันเลยขอรับ”
“หมู่บ้านสือโถวห่างจากเมืองหลวงไม่ถึงห้าลี้ คาดไม่ถึงว่ากรมฮุ่ยหมินจะไม่รู้เรื่องโรคระบาดที่เกิดขึ้น เป็นโรคอันใดกัน?” เซียวโธ่ถาม
องครักษ์เหลือบมองหลีโม่ แล้วพูด “เหมือนกับหวางหยูขอรับ”
สีหน้าของเซียวโธ่กับซูชิงเคร่งขรึมขึ้นมาฉับพลัน “ผีดิบอีกแล้วรึ?”
หลีโม่ขมวดคิ้ว ปกตินายหญิงแก่ถ้าไม่มีอะไรก็จะไม่ออกไปไหน นางเองก็ไม่ได้นับถือพุทธ แม้ปากจะท่องว่าอามิตตาพุทธแต่ตอนที่นางท่องประโยคนี้ก็คือตอนที่ใจเริ่มคิดร้าย
แล้วยัง ถ้าหากนางต้องการไปไหว้พระ ในเมืองหลวงมีวัดที่มีชื่อเสียงอยู่มากมายทำไมต้องออกจากเมืองไปในวัดแม่ชีด้วยเล่า แล้วยังช่างประจวบเหมาะเจอโรคระบาดที่หมู่บ้านสือโถวอีก
เรื่องนี้ช่างประจวบเหมาะ ถือว่าประจวบเหมาะจริง ๆ
เพื่อค้นหาต้นตอของโรคผีดิบเขาได้ส่งคนไปเกาะคนบ้า
ก่อนหน้านี้มีคนมารายงานว่าเฉิงเสี้ยงเสี้ยสั่งให้คนไปนำคนป่วยจากเกาะคนบ้ากลับมา ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงละก็ เช่นนั้นต้นตอของโรคผีดิบก็มาจากเกาะคนบ้านอย่างแน่นอน
ก่อนหน้านี้เฉิงเสี้ยงเสี้ยให้หมอจากสำนักงานฮุ่ยหมินคนหนึ่งไปรับคนจากเกาะคนบ้า หมอท่านนี้ไม่กี่วันก่อนก็ป่วยตายไปแล้ว ในเมื่อวันนี้ไม่มีเบาะแส ก็ไม่มีวิธีจะบ่งชี้ว่าเสี้ยห้วยจุนเป็นคนทำ
ในใจของซือถูเย้นกลัดกลุ้มกระวนกระวาย เรื่องนี้สร้างความวุ่นวายนานเกินไปโดยที่แก้ไขไม่ได้เลย วันนี้ก็ทำให้ราษฎรแตกตื่น วันหน้าจะร้ายแรงเพียงใดทุกคนต่างก็รู้ดี
หมอหลวงและหมอของสำนักงานฮุ่ยหมินไปตรวจโรคพร้อมกัน วันเดียวก็พากันกลับมาแล้ว
ไม่มีหนทาง
แม้แต่โรคก็ไม่รู้ว่าโรคอะไร และก็ไม่รู้ว่าโรคมาจากไหน ยิ่งไม่รู้ว่านอกจากการกัดคนแล้วแพร่เชื้อ ยังแพร่เชื้ออย่างไรได้อีก
เรื่องนี้ฮองไทเฮาก็รู้แล้ว
เป็นกุ้ยไท่เฟยตอนที่เข้าวังไปแสดงความเคารพต่อฮองไทเฮาพูดขึ้นมา ฮองไทเฮาได้ยินว่าเป็นโรคที่ร้ายแรงมากก็ตระหนกตกใจเป็นอย่างมาก
“ตกลงว่าเป็นโรคอันใดกันหรือ? ผู้ที่ติดเชื้อจะกัดคนรึ?”
กุ้ยไท่เฟยพูด “ไม่รู้เพคะ หมอจากสำนักงานฮุ่ยหมินและหมอหลวงก็ไปมาแล้วล้วนบอกว่าไม่มีหนทางเลยเพคะ เหมือนกับผีดิบหลังจากป่วยก็จะกัดกินคน ผู้ที่ถูกกัดก็จะไปกัดคนอื่นต่อ”
“หมู่บ้านสือโถวมีราษฎรจำนวนเท่าไหร่?” ฮวงไทเฮาถามซุนกงกง
ซุนกงกงตอบ “ทูลฮองไทเฮา หมู่บ้านสือโถวมีจำนวนเจ็ดร้อยสามสิบห้าคน นับว่าเป็นหมู่บ้านที่ค่อนข้างใหญ่พะยะค่ะ”
“เจ็ดร้อยกว่าคนนี้ล้วนติดเชื้อรึ?” ฮวงไทเฮาตกใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...