ตอนที่ 280 สะสมความเกลียดชัง
เฉิงเสี้ยงเสี้ยได้ยินก็ต้องกลัวจนตัวสั่น ไม่คดสงสัยเหลียงไถ้ฝู้อีก รีบรนออกจากวังกลับไปที่จวน
นายหญิงแก่เป็นฉากหลังทา
ทหารของเขา ได้ยินบุตรชายกลับมารายงาน นางจึงรู้สึกว่าสถานการณ์ร้ายแรงนัก
“ไถ้ฝู้วิเคราะห์ได้ถูกต้อง เสี้ยหลีโม่ไปหาตำรายาอย่างแน่นอน ระยะเวลาที่ไทเฮาให้เวลาเจ้าสองวัน สองวันนี้ถึงแม้ต้องขึ้นฟ้าลงขึ้นก็จะต้องนำนางกลับมาให้ได้”
“แต่ต้องไปหาที่ใด? ” เฉิงเสี้ยงเสี้ยวิตกในหัวว่างเปล่า
นายหญิงแก่กล่าว” ลองไปถามหลี่ซื่อ นางอาจรู้ว่าเสี้ยหลี่โม้อยู่ที่ไหน ในเวลาคับขันต้องใช้กลอุบายเสียหน่อย”
“แต่ในจวนของนางมีคนของฮองเฮาสั่งการอยู่”
” ก็แค่องครักษ์คนหนึ่ง นามว่าพานดาน ให้เงินไปเสียหน่อยแล้วไล่ไป อย่างไรผู้ที่เจ้าจ้องอยู่คือเสี้ยหลีโม่ ไม่ใช่หลี่ซื่อ ไม่เกี่ยวกับหลี่ซือเขาก็ไม่นับว่าละเลยต่อหน้าที่”
“ในเวลนี้คงมีเพียงวิธีนี้เท่านั้น” เฉิงเสี้ยเสี้ยงพยักหน้ารับ
นายหญิงอก่กล่าวคะยั้นคะยอ “ผ่านไปสองวัน เรื่องงานวิวาห์ของเจ้าและแม่นางตระกูลหลินจะต้องเป็นที่แน่ชัด อย่าไปพบซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยอีก เกรงว่าทางนั้นจะเกิดสงสัยขึ้นมา”
“ข้าทราบแล้ว หลายวันมานี้ลูกไม่ได้ไปพบนางเลย” เฉิงเสี้ยงเสี้ยไม่อยากไปพบซีเหมินเสี่ยวเยวี่ยอีกอย่างแน่นอน เขาเกลียดชังคนผู้นี้เสียแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น จิ้นโก๋กงก็ไม่ได้มีค่าใดให้ใช้การแล้ว
“นอกจากนั้น ทางเฉินหลิงหลง เจ้าก็หาทางจัดการเอาสักวิธีเถอะ มิฉะนั้นก็ให้นางอยู่ที่จวนหยาชื่อ พอเสี้ยหลีโม่ตาย ทางด้านหลี่ก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจนางอีก คลื่นฮวงจุ้ยของพวกเราถูกทำลายเสียหาย วันนี้แม่เฒ่ารับสัางให้ช่างฝีมือไปดูสภาพการณ์ เตรียมก่อสร้างขึ้นอีกครั้ง อีกครู่หนึ่งเจ้าจงไปหาหลี่ซื่อ ไปบอกกล่าวเรื่องนี้เสีย หากนางไม่ผ่อนปรน ตั้งใจขัดขวาง จัดการให้เธอดูเสีย”
เฉิงเสี้ยงเสี้ยซาบซึ้งใจ “หากไม่มีท่านแม่ ลูกคงไม่รู้ว่าควรทำเช่นใด? ”
“เขาพูดเช่นนั้น ภายในใจเต็มกลับขวัญหนีดีฝ่อ ปลายปีมานี้ ตำแหน่งเสี้ยง ยศถาบรรดาศักดิ์สูงส่ง ทุกคนล้วนรู้สึกว่าเขาสามารถรับผิดชอบตำแหน่งได้ดี แต่มีเพียงตัวเขาที่รู้ดีว่าไม่ว่าเรื่องเล็กใหญ่ใด เขามักกลับมารายงานให้ท่านแม่ทราบ ให้ท่านแม่ช่วยหนุนนำ เขาจึงจะกล้าจัดการลงมือ”
หากให้ผู้อื่นรู้ได้ว่าเขารับตำแหน่งเฉิงเสี้ยงเสี้ย เป็นเพราะผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อเสียงของเขาคงเสื่อมเสีย
” เหตุนี้มารดาจึงวางแผนเพื่อเจ้าอยู่เสมอตลอดหลายปีมานี้ หวังว่าจะได้สานสัมพันธ์กับผู้คนหลากหลาย ยกระดับตำแหน่งของเจ้าให้มั่นคง หลี่ซื่อสามารถช่วยเหลือเจ้าได้สักครึ่งหนึ่งหรือไม่ มารดาไม่ได้ไม่เกลียดนางถึงเพียงนี้ ดังนั้น อีกครู่ลูกจงไป ไม่ต้องกังวลสิ่งใด ไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่าเกียรติยศแห่งจวนเฉิงเสี้ยง ไม่มีสิ่งใดสำคัญไปกว่าอนาคตของเจ้า”
” ลูกทราบดี ลูกกับหลี่ซื่อ ไม่มีไมตรีอันใดต่อกัน “เขาตอบกลับด้วยแววตาเย็นชา
เขาโน้มตัวคำนับก่อนลาไปลานเสี้ยจื้อ
ตั้งแต่เสี้ยหลีโม่จากไป ลานเสี้ยจื้อก็เงียบสงบลงไปมาก
แท้จะดูห่างโดดเดี่ยวจากโลก แต่หลี่ซ่วยหยุ่นเฝ้าสังเกตการณ์จากภายนอกอยู่เสมอ ผู้ฉลาดหลักแหลมเช่นหลี่ซ่วนหยุ่นรู้ดีว่าเสี้ยหลี่โม่ไปที่ใด
พอเช้าวันรุ่งขึ้น แม่นมกลับมาบอกว่าคนด้านนอกล้วนว่ากันว่าเสี้ยหลีโม่หนีไป หลายวันก่อนล้วนบอกกันว่านางเป็นพระโพธิสัตว์มาโปรด แต่ตอนนี้นางกลับเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ว่าผู้ใดต่างว่ากล่าวเขา แม้แต่เรื่องถอดหมั้นยังถูกขุดขึ้นมาพูด
หลี่ซ่วยหยุ่นได้ยินความจากแม่นม ยิ้มเพียงเล็กน้อย “ไม่จำเป็นต้องไปสนใจ ปากยื่นปากยาวไปบนร่างของคนอื่น อยากพูดสิ่งใดก็พูดสิ่งนั้น”
หยางมามาบำเพ็ญตนได้ไม่เท่านาง และนางก็ได้ยินเรื่องไม่พึงประสงค์เหล่านั้นด้วยหูของตน ภายในใจโกรธแค้นยากจะสงบ “กล่าวความเช่นนี้ ทำให้ใจคนไม่สงบสุขอยู่ตลอด”
“อย่ากังวลไป อย่านำมาใส่ใจ”
หยางมามาเดินออกไป “พบว่าลั่วานอยู่ในสวน คิดว่าเขากลับวังไปกับฮองเฮาเหนียงเหนียงตามรับสั่งเสียอีก แต่มิได้สนใจนัก
หลี่ซ่วยหยุ่นซวนเซ ลุกขึ้นมาอย่างทุลักทุเล เงยหน้ามองใบหน้าอันโหดเหี้ยมนั่น ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยสีเขียวของเส้นเลือดที่ปูดขึ้น นางไม่เคยเห็นเขาในลักษณะนี้มาก่อน ราวกับหมาป่าที่ดุร้ายและเลือดเย็น
หรือไม่ นี่อาจเป็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา
” ข้าไม่รู้! ” หลี่ซ่วยหยุ่นกล่าวทีละคำ แม่ความรู้สึกอันเยือกเย็นจะหมดสิ้น จึงเพิ่งรู้ว่าตนจะไม่ถูกอารมณ์ความรู้สึกใดของคนผู้นี้มาครอบงำอีก
เฉิงเสี้ยงเสี้ยกัดฟันยิ้มเย็น ทันใดนั้นก็คว้ากลุ่มผมของนางแล้วจับกระแทกกับกำแพง กัดฟันกรอกข่มขู่ “จะพูดหรือไม่? ”
” ข้าไม่รู้! ” หลี่ซ่วยหยุ่นพยายามไม่ให้ตนหมดสติไป พูดออกมาด้วยความยากลำบาก
เขายิ้มเย็นยะเยือก “ดี ข้าจะดูสิว่าปากเจ้าแข็งหรือกระดูกของเจ้ากันแน่”
เขาถอนหายใจเฮือกหนึ่งด้วยความอดทนมานาน เขาเกลียดปากที่กล่าวถ้อยคำของนาง คำที่นางพูดออกมาจากปากไม่มีสักประโยคที่รื่นหู ล้วนเป็นคำขัดขืน เลือดเย็น
เขาออกแรงดึงผมของนาง ดึงรั้งนางลงมาที่โต๊ะอย่างรุนแรง ซ้ำยังผลักลงไป ร่างทั้งร่างของหลี่ซ่วยหยุ่นอยู่บนมุมขอบโต๊ะ ร่างของนางค่อยๆ ไหลลงมา เลือดสดคละคลุ้งอยู่เต็มปาก
หากแต่ว่านัยน์ตา,นัยนานางฉายแววดื้อรั้น นางคว้าเก้าอี้เอาไว้พยายามลุกขึ้น ลุกขึ้นมาด้วยความพยายาม “ข้าบอกว่าข้าไม่รู้ ต่อให้เจ้าทุบตีข้าจนตาย ข้าก็ไม่รู้”
เขาจ้องมองใบหน้าดื้อรั้นดวงนั้น ความโทสะปะทุขึ้น ไม่ใช่เพียงเพราะการถามถึงเสี้ยหลีโม่อีกแล้ว
แต่เดิมแค้นบัดนี้เกลียด ถ้อยคำของนายหญิงแก่แล่นผ่านเข้ามาในใจ สะท้อนอยู่ในหัวของเขา ตราบใดที่นางยังช่วยเขาได้อยู่สักเพียงนิด ไม่ถึงกับต้องทำเช่นนี้
เป็นเช่นนั้น บิดาของนางคือขุนนางหลี่ ในแคว้นมีเส้นสายกว้างขวาง นางยังเป็นปราชญ์หญิงที่น่าสรรเสริญในแคว้นต้าโจว คนมากมายเห็นแก่หน้านาง แต่หลายปีมานี้ นอกจากนางอิจฉาริษยาแล้ว ยังทำสิ่งใดอื่นอีก?
สะสมความเคียดแค้น กำเนิดความเกลียดชัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...