พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 285

ตอนที่ 285 ข่าวลือทั่วทุกสารทิศ

หยางมามางง มองไปที่หลี่ซ่วยหยุ่นแปลกๆ “เสี้ยนจู่ตั้งใจให้ถูกตี? ”

“จำเป็นต้องยอมใช้แผนแสร้งยอมเจ็บ ไม่เช่นนั้น ก็จะไม่สามารถทำให้ทุกคนเลิกยุ่งเกี่ยวกับหลีโม่ได้ แล้วก็จวนเฉิงเสี้ยงก็จะมีแต่เรื่องเล่าขานแย่ๆ ผ่านครั้งนี้ไป คนของจวนเฉิงเสี้ยงบอกข่าวอะไรไป ก็จะไม่มีใครเชื่อแล้ว ” หลี่ซ่วยหยุ่นพูดด้วยสีหน้าสงบนิ่ง ราวกับไม่เคยพบเรื่องแย่ๆ มา

หยางมามามองไปที่พานดาน นึกคำที่พูดขึ้นเมื่อวานได้ ก็ยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อคำพูดพานดาน “เจ้าทำไมถึงยอมช่วยเสี้ยนจู่”

พานดานบอกว่า “ขุนนางหลี่มีพระคุณต่อตระกูลพานของข้าอย่างมาก ข้าไม่มีวันลืม”

แล้วเขาก็ยกมือคำนับพูดอีกว่า “เมื่อวานหลังจากเฉิงเสี้ยงกลับไปแล้ว ก็ยังมีคนคอยจับตาดูลานเสี้ยจื้ออยู่ ข้าก็เลยจำเป็นต้องพูดเช่นนั้นกับหยางมามา ขอหยางมามาอย่าได้ถือโทษข้าเลย แต่ว่า คำพูดพวกนั้นก็เป็นความจริง ฮองเฮาเริ่มสงสัยในตัวหยางมามาแล้ว มามาคิดเอาเองก็แล้วกัน”

พูดจบ พานดานก็ออกไป

เขาช่วยครั้งนี้ ก็ถือเป็นการตอบแทนบุญคุณของขอนนางหลี่ที่มีต่อตระกูลพาน พานดานเป็นคนของฮองเฮา มีหน้าที่ที่ต้องทำ

หยางมามานั่งลง มองไปที่หลี่ซ่วยหยุ่น ท่าทางไม่ค่อยพอใจ “เสี้ยนจู่น่าจะบอกข้าน้อยสักคำ ข้าน้อยก็เป็นห่วงแทบใจจะขด”

หลี่ซ่วยหยุ่นมองนาง พูดเบาๆ ว่า “ข้าขอโทษ ทำให้เจ้ากังวลใจแล้ว ” ผ่านเรื่องราวร้ายๆ นี้มา ทำให้ซาบซึ้งต่อความรู้สึกได้ง่าย

หยางมามาพูดอย่างเสียใจว่า “เสี้ยนจู่ไม่ต้องขอโทษข้า ข้าน้อยก็แค่คิดว่า เสี้ยนจู่ไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองไปลำบาก”

หลี่ซ๋วยหยุ่นพูดถอนหายใจเบาๆ ว่า “ข้าเข้าใจเสี้ยห้วยจุนดี และเข้าใจนายหญิงแก่ดี ไทเฮาให้เวลาพวกเขา 2 วันในการตามตัวเสี้ยหลีโม่กลับมา เขาต้องใช้ทุกวิถีทาง ที่ที่หลีโม่จะไปก็เดาได้ไม่ยาก ถ้าพวกเขารู้ว่าหลีโม่ไปที่ไหนแล้วละก็ คงต้องให้มือสังหารไปตามฆ่านางแน่ๆ ทั้งตอนนี้มีข่าวลือมากมาย ไม่เป็นผลดีต่อท่านอ๋องอีก เพราะข่าวลือพวกนั้นกระทบถึงการปกครอง ไทเฮาก็ต้องมาระแวดระวังข่าวลือพวกนี้ด้วย ชาวบ้านในเมืองหลวงชอบพวกข่าวลือพวกนี้ พอสนใจข่าวก็ติดตามกันมาก ถึงแม้โรคผีดิบระบาดยังไม่หมดไปก็ตาม แต่อย่างน้อยที่ข้าทำไปก็จะสามารถเบี่ยงเบนความสนใจ ลดข่าวลือที่ทำร้ายหลีโม่ ในเวลาเดียวกัน ก็สามารถทำให้ท่านอ๋องปลีกตัวออกมาได้ ให้เขาทำสิ่งที่ต้องทำ”

อีกอย่าง ถ้าไม่ทำเช่นนี้ ก็คงจะไม่ทำให้คนพวกนั้นขุ่นเคืองใจ เช่นอ๋องอานชิน เวินยี่ แล้วก็พวกมีการศึกษาทั้งหลาย

สิ่งที่พวกนั้นเขียนออกมา ล้วนเกี่ยวกับอำนาจ ไม่มีใครมาสงสัย รายละเอียดทุกอย่างพานดานได้บอกไปหมดเลย ทั้งคำพูดที่คุยกัน

นางรู้ดี ถ้าอยากจะต่อกรกับคนมีอำนาจ บางทีปากกาก็คมกว่าคมมีด

ก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ไม่เกิน3วัน เรื่องที่เสี้ยเฉิงเสี้ยงตบตีตันชิงเสี้ยนจู่ก็แพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวง

กลายเป็นเรื่องใหญ่โตอย่างมาก

เรื่องข่าวลือที่เกี่ยวกับเสี้ยหลีโม่ก่อนหน้านี้ ก็เปลี่ยนไป คนส่วนมากบอกว่า ที่เสี้ยหลีโม่หายตัวไปเพราะว่าเสี้ยเฉิงเสี้ยงเป็นคนจับตัวนางไป ตอนนี้มีคนไปช่วยเหลือแล้ว อีกไม่กี่วันก็คงพบตัว

ข่าวลือในเมือง ส่งไปถึงหูของไทเฮา เหลียงไท่ฝู้เข้าวังไปขอพระราชอนุญาตเผาหมู่บ้านอีกครั้ง เพราะหาเหตุผลที่หนักแน่นกว่านี้ไม่ได้แล้ว

ไทเฮาโมโหตอบไปว่า “ข้าได้ยินว่าราษฎรรอการกลับมาของเสี้ยหลีโม่ แม้แต่ราษฎรยังเชื่อมั่นในตัวนางเลย ข้าและเหลียงไท่ฝู้จะไม่ให้ความเชื่อมั่นแก่นางหน่อยหรือ? ”

เหลียงไท่ฝู้เกลียดเสี้ยเฉิงเสี้ยงมาก ในเวลานี้นอกจากจะหยุดเรื่องนี้แล้ว จะหักเหจุดสนใจของประชาชน ยังต้องให้เสี้ยหลีโม่ได้กลายเป็นคนถูกทำร้ายและได้การสนับสนุนจากประชาชนแทน

ราชสำนักไม่อาจจะละเลยเสียงจากประชาชนได้ เขาไม่มีวิธีที่จะไปยื่นฎีกา

ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่ว และก็เกิดคำถามขึ้น

นั่นก็คือ เป็นถึงเฉิงเสี้ยง ทำไมถึงได้ไปตบตีอดีตภรรยาของตนที่มียศเป็นถึงตันชิงเสี้ยนจู่เล่า? ทั้งยังให้อ๋องอานชินมาออกมายุ่งเกี่ยวด้วย เรื่องนี้ไม่น่าจะใช่เรื่องความรักแน่ๆ เพราะพวกเขาได้อย่าร้างกันแล้ว

ในขณะที่ทุกคนต่างคาดเดากันไปต่างๆ นานา มีคนออกมาคาดการณ์ว่า ที่เฉิงเสี้ยงทำเช่นนี้ เพราะว่าตันชิงเสี้ยนจู่ไปรู้ความลับสุดยอดของเฉิงเสี้ยงเข้า

และความลับนั้นก็เกี่ยวข้องกับโรคผีดิบระบาดในช่วงนี้อย่างมาก

การคาดการณนี้ ทำให้ประชาชนก็คิดกันไปต่างๆ นานา แล้วโยงไปเกี่ยวกับการหายตัวของหลีโม่

ส่วนหลีโม่ที่ออกเมืองไปหายาที่เกาะคนบ้า อย่างน้อย ชาวบ้านก็ฝากความหวังให้นางอย่างมาก

หลี่ซ่วยหยุ่นเป็นคนกำกับเรื่องนี้ กำจัดอำนาจของจวนเฉิงเสี้ยง

ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จวนเฉิงเสี้ยงมีเรื่องร้ายมากมาย ตั้งแต่ตอนแรกที่หลีโม่ล้มงานแต่ง ขัดต่อจวนเฉิงเสี้ยง กลายเป็นหญิงร้ายในสายตาคนอื่น ไม่มีคุณธรรม แต่ตอนนี้ สถานการณ์ได้เปลี่ยนไป ความร้ายกาจของเสี้ยฉฺงเสี้ยงและนายหญิงแก่กำลังค่อยๆ เผยให้ชาวโลกได้เห็น

การทำร้ายผู้หญิง เป็นการกระทำที่ไร้คุณธรรมมาก คนที่พูดเข้าข้างคนที่ไม่มีคุณธรรม ก็จะกลายเป็นคนที่ไม่มีคุณธรรมไปด้วย

นี่ไม่เหมือนกับการฆ่าคน เพราะว่า เพราะการฆ่าคนยังสามารถคิดข้ออ้างออกมาได้หลายรูปแบบ แต่การทำร้ายผู้หญิงไม่มีทางสู้นั้น ทั้งยังเป็นอดีตภรรยาตนเองอีก ไม่ดูไม่แมนเอาเสียเลย

ไม่มีอะไรที่ต้องแก้ตัว

ดังนั้น ขุนนางบุ๋นบู๊ รวมทั้งคนของเฉิงเสี้ยง ล้วนไม่มีใครออกมาแก้ต่างให้เฉิงเสี้ยงเลย

ข่าวลือมันมีพลังมาก ถึงแม้จวนเฉิงเสี้ยงส่วนใหญ่ถูกเผาไปแล้ว แต่เขาก็ไม่ยอมออกจากจวน หนึ่งเพราะว่าอาการบาดเจ็บ สองก็คืออับอายขายขี้หน้า

และอีกอย่างตอนนี้ ฮองเฮามีรับสั่ง ว่าเสี้ยโล่เยว่ไม่มีคุณสมบัติมากพอ ไม่คู่ควรกับองค์รัชทายาท ก็ให้ยกเลิกงานแต่ง

ส่วนทางตระกูลหลิน ก็มายกเลิกงานแต่ง ปากบอกว่าตระหลินของตนไม่คู่ควรกับเฉิงเสี้ยง แต่นายหญิงแก่รู้ว่า พวกนั้นรังเกียจเฉิงเสี้ยง

นายหญิงแก่รู้ว่าวาสนาจองจวนเฉิงเสี้ยงได้หมดลงแล้ว ถึงตอนนี้สิ่งที่ทำได้ก็คือ ฆ่าเสี้ยหลีโม่ ฆ่าหลี่ซ่วยหยุ่น ฆ่าทั้งสองคนนี้เสีย เผื่อจวนเฉิงเสี้ยงจะมีทางรอด

ฆ่าทั้งสองทิ้ง เรื่องทั้งหมดก็จบลง ผู้คนลืมง่ายจะตาย ผ่านไปไม่กี่ปีก็ไม่มีใครจำเรื่องนี้ได้

เฉิงเสี้ยงไม่มีทายาท ก็ให้เอาทายาทจากภรรยารอง ความรุ่งโรจน์ของจวนเฉิงเสี้ยงมิอาจ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม