ตอนที่ 291 การตายของนายหญิงแก่
จวนเฉิงเสี้ยง
ในตอนที่สายตาของนายหญิงแก่ปรากฏเส้นเลือดแดง เฉิงเสี้ยงเสี้ยก็สั่งให้คนมัดนางไว้
นายหญิงแก่จ้องมองเฉิงเสี้ยงเสี้ยด้วยความเกรี้ยวกราด ต่อสู้ดิ้นรนไม่หยุด “ไม่ ข้าไม่ได้ป่วย ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ เจ้าลูกอกตัญญู แม้แต่มารดาก็กล้าหยาบคายใส่ เจ้าไม่กลัวฟ้าผ่าเลยรึ”
เฉิงเสี้ยงเสี้ยพูดอย่างเป็นทุกข์ “ท่านแม่ ลูกไม่ได้ตั้งใจจะหยาบคาย แต่ลูกจำเป็นต้องทำ ถ้าไม่มัดท่านไว้ เมื่อท่านอาการกำเริบ แล้วพุ่งออกไปก็จะถูกส่งไปเขตโรคระบาด”
นายหญิงแก่ตอบด้วยความโกรธ “อย่างนั้นเจ้ายังไม่รีบไปตามหาเสี้ยหลีโม่กลับมาอีก?ตามนางกลับมาซะ”
จวนเฉิงเสี้ยงไม่รู้ว่าเซียวโธ่รู้เรื่องใบสั่งยา ซึ่งตอนนี้กำลังปรุงยาลูกกลอนอยู่ที่เกาะคนบ้าแล้ว ซือถูเย่ปิดบังเรื่องนี้ไว้ ประการแรกเพื่อหลีกเลี่ยงการโดนคนเจตนามุ่งร้ายอีกครั้ง ประการที่สองเป็นประโยชน์ต่อนาง
เฉิงเสี้ยงเสี้ยพูด “สั่งคนให้ออกไปตามหาแล้ว ในเวลานี้จี้ชุนทางนั้นมีคนมากมายลงน้ำไปหานาง เรือใหญ่วันหนึ่งก็ออกไปหลายสิบลำ แต่คาดว่านางน่าจะตายแล้ว”
เรื่องนี้ใครๆ ก็คาดคะเนได้ หลายเดือนนี้พวกเขาพยายามอย่างมากที่จะต้องการสังหารเสี้ยหลีโม่ ในที่สุดหลังจากบรรลุเป้าหมายแล้ว พวกเขากลับต้องการช่วยชีวิตนางอีกครั้ง
เฉิงเสี้ยงเสี้ยพึ่งจะออกไปหลังมัดนายหญิงแก่เสร็จ ก็พบข้ารับใช้นำเจ้าหน้าที่สิงปู้เข้ามา
“เฉิงเสี้ยงได้รับโทษแล้ว ขอให้ท่านรอกลับไปสิงปู้กับข้าน้อยสักครั้ง ”เจ้าหน้าที่พูดอย่างไม่เกรงเลยแม้แต่น้อย
เฉิงเสี้ยงเสี้ยเห็นสิงปู้มาหลายคน แล้วทุกคนล้วนพกกระบี่ อดไม่ได้ที่จะหวาดกลัว แต่ยังคงพูดด้วยความโมโหเยือกเย็น“พวกเจ้าไม่ได้มีสารมาก่อนก็บุกกันเข้ามาแล้ว ในสายตาคงไม่มีข้าอยู่ใช่หรือไม่? ”
เจ้าหน้าที่พูด“เฉิงเสี้ยง ขออภัย เป็นคำสั่งของท่านอ๋อง จักต้องขอเชิญท่านเฉิงเสี้ยงให้ความร่วมมือกลับไปตรวจสอบที่สิงปู้สักครั้ง ข้าน้อยมีสถานที่สำหรับการลงโทษ ขออภัยด้วย”
“ตรวจสอบเรื่องอันใดกัน? ”เฉิงเสี้ยงเสี้ยถาม แต่ในของเขารู้ดีว่าน่าจะเป็นเรื่องโรคผีดิบ แต่นี่ก็เป็นเพียงการคาดคะเนของราษฎร อ๋องซื่อเจิ้งจะคาดคะเนจากเจตนาไม่ดีของราษฎรไม่กี่คำมาทำให้เขาผิดนั้นหรือ? น่าขำโดยแท้
“ข้าน้อยไม่ทราบ ข้าน้อยเพียงได้รับคำสั่งให้มา”
เฉิงเสี้ยงเสี้ยพูดอย่างเย็นชา “ได้ ข้าไปกับพวกเจ้าสักครั้ง”
เดิมทีเขาไม่อยากไป แต่กลัวว่าจะเกิดการปะทะขึ้นในจวน แล้วจะทำให้คนรู้กันว่ามารดาติดเชื้อโรคผีดิบ
แต่ว่าเขาก็ไม่ได้กังวลอะไรมากมาย เพราะเรื่องนี้ไม่อาจมีหลักฐานอะไรจริงๆ ได้ หมอที่พาคุณชายตระกูลหลิวมาก็ตายไปแล้ว บนเกาะคนบ้าก็จัดการไว้ดีแล้ว ถ้าไม่มีหลักฐานที่แน่นอน จะจัดการอัครเสนาบดีเฉิงเสี้ยงคนนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายดาย
ถือซูเย่นั้นอายุยังน้อย คิดอ่านช่างง่ายเกินไป
เฉิงเสี้ยงเสี้ยไม่รู้ว่าการไปครั้งนี้จะกลับมาไม่ได้อีกแล้ว
เกิดโรคผีดิบจนถึงตอนนี้ หลักฐานต่างๆ คำให้การต่างๆ ล้วนรอเขาอยู่ที่สิงปู้ทางนั้นแล้ว ซือถูเย่ยังไม่ลงมือ แต่เมื่อลงมือแล้ว เขาไม่มีทางพลิกกลับเป็นฝ่ายชนะได้อีก
อีกทั้งหลังจากเฉิงเสี้ยงเสี้ยเข้าไป หลิงหลงฮูหยินที่เขารักทะนุถนอมมาหลายปีก็จัดการเก็บข้าวของเครื่องใช้ห่อไว้แล้วพาเสี้ยโล่เยว่หนีไปแล้ว
นายหญิงแก่ก็กลายเป็นผู้ดูแลเพียงผู้เดียว หลังจากชุ่ยยุ่นกูกูรับสารภาพ ก็ได้กลับมาจวนเฉิงเสี้ยง
นายหญิงแก่ถูกมัดอยู่บนเตียง ก็ไม่รู้ว่าเฉิงเสี้ยงเสี้ยถูกนำตัวไปแล้ว และก็ไม่รู้อีกว่าเฉินหลิงหลงได้หนีไปแล้ว
เห็นชุ่ยยุ่นกลับมา นางเกือบจะคลั่ง “เจ้าหายหัวไปไหนมา? ”
ชุ่ยยุ่นลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียง แหงนดวงตาบวมแดงอันเหนื่อยล้ามองไปยังนายหญิงแก่อย่างมั่นคง
เข้าไปในเขตโรคระบาด มีคนเป็นโรคผีดิบเหมือนนางมากมาย ถูกจัดให้อยู่ในพื้นที่ว่าง หมู่บ้านสือโถวไม่มีห้องมากพอที่หลีโม่จะจัดให้คนป่วยโรคผีดิบได้ ได้เพียงแต่ปล่อยไว้บนพื้นที่ว่าง
นายหญิงแก่ยังไม่ได้แสดงอาการถึงขั้นสุด นางได้เห็นกับตา ข้างหูได้ยินเสียงร้องตะโกนอย่างคลุ้มคลั่ง อีกทั้งได้กลิ่นร่างกายที่เน่าเปื่อยลอยมา อบอวลจนนางอยากจะอาเจียน
หลังจากจัดการที่ว่างอยู่ครึ่งวัน ซือถูเย่ก็มีคำสั่งให้นำนางไปในเขตชุมชนที่ไม่มีใครติดเชื้อ แล้วมัดไว้ลำพัง
ชาวบ้านรับรู้แล้วว่าโรคผีดิบเป็นสิ่งที่จวนเฉิงเสี้ยงทำขึ้นมา ราษฎรที่มีคนในครอบครัวเสียชีวิตก็เกลียดนางเข้ากระดูกดำ
นายหญิงแก่ถูกมัดไว้บนไม้กลม เห็นในมือชาวบ้านถือก้อนหินไว้ในมือแล้วขว้างปาใส่นางด้วยความโกรธ ก้อนหินดุจสายฝนที่เทกระหน่ำลงมากระทบลงบนหัวและบนร่างกายของนาง จนเลือดไหลไม่หยุด
นางไม่มีหนทาง ได้แต่อดทนทั้งหมดนี้ซ้ำๆ ไป
ในช่วงเวลาเฮือกสุดท้ายของนาง แม่ทัพหลี่ก็พาคนมาขับไล่ชาวบ้านไป
ซือถูจิ้งนั่งยองลง ในมือถือผ้าขาวไว้ผืนหนึ่ง มองไปยังนายหญิงแก่ที่มีลมหายใจรวยริน “นายหญิงแก่ บอกข่าวดีเจ้าสักสองเรื่อง เรื่องแรก หลีโม่ยังไม่ตาย หาเจอแล้ว เรื่องสองยาลูกกลอนที่ไว้รักษาโรคผีดิบอยู่ระหว่างทางที่ส่งมายังเมืองหลวง พรุ่งนี้เช้าก็คงส่งมาถึง เจ้าอดทนอีกหน่อย เพียงแค่เจ้าอดทนถึงพรุ่งเช้า เจ้าก็ได้กินยาแล้ว”
ในปากของนายหญิงแก่เปล่งเสียงหงึดหงึดคล้ายเสียงหมู ใบหน้าถูกกระทบเหวอะหวะจนมองเห็นเค้าร่างเดิมไม่ชัดแล้ว มีเพียงแค่ตาสองดวงนั้นที่ยังคงมีแววความรู้สึกเกลียดชังและหวาดกลัว
นางรอไม่ไหวแล้ว
ผ้าขาวในมือของซือถูจิ้งคลุมไว้บนใบหน้านาง แต่ทว่าได้เพียงชั่วขณะเดียวก็สิ้นลมไปแล้ว
ผ้าขาวผืนนั้น ปกปิดใบหน้าที่อัปลักษณ์ของนางไว้ได้ แต่ปกปิดชีวิตที่อัปลักษณ์ของนางไว้ไม่ได้
ความเจริญรุ่งเรืองของจวนเฉิงเสี้ยง ก็ไปพร้อมกับการตายของนายหญิงแก่และการถูกลงโทษของเฉิงเสี้ยงเสี้ย เสื่อมโทรมลงหลุมไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...