พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 318

ตอนที่ 318 ซุ่นยุ่นกลับมา

ฮองเฮาจ้องแผ่นหลังของนางเดินจากไป ลึกๆ ในใจของนางกลับรู้สึกตกใจขึ้นมาทันที

สิ่งที่หลีโม่พูดมาใช่ว่าไม่มีเหตุผล ทว่าจะเป็นไปได้หรือ? นั่นบิดาของนาง คนที่นางเชื่อใจที่สุดเชียวนะ

หลังจากหลีโม่จากไป คนที่ซ่อนตัวอยู่ในฉากบังลมผู้นั้นจึงเดินออกมา หลีโม่เดาไม่ผิด เขาก็คือเหลียงไถ้ฝู้

“ท่านพ่อ!” ฮองเฮาเงยหน้าขึ้นไปมาเขา “นางพูดถูก บางทีฮ่าวเอ๋ออาจจะไม่มีใจทะเยอทะยานเช่นเราคิด หากเพราะความหวาดกลัวของพวกเราทำให้เขาต้องพลาดโอกาสรักษาตัวให้หายดี มันเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรมสำหรับเขาจริงๆ”

เหลัยงไถ้ฝู้มองนางด้วยความผิดหวัง “ฐานะเจ้าเป็นถึงฮองเฮา คิดไม่ถึงว่าจะถูกคนเปลี่ยนความคิดได้ง่ายเช่นนี้ ช่างทำให้บิดาผิดหวังยิ่งนัก แต่ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอันใด เพราะเสี้ยหลีโม่เก่งกาจที่สุดก็คือทำให้จิตใจของผู้คนสับสน เพียงไม่กี่คำพูด นางก็สามารถทำให้เจ้าเปลี่ยนความคิดได้แล้ว ซือถูเย้นต้องคอยช่วยเหลือนางอยู่แน่ๆ ถึงได้เหมือนเสือติดปีกเช่นนี้”

ฮองเฮารู้สึกลังเลขึ้นเล็กน้อย นางไม่สามารถบอกตัวเองได้ว่าใครเป็นคนถูกใครเป็นคนผิด

เหลียงไถ้ฝู้จึงพูดต่อ “ฮ่าวเอ๋อกับซือถูเย้นไปหามาสู่กันเสมอ หากฮ่าวเอ๋อถูกแต่งตั้งให้เป็นรัชทายาท สุดท้ายใครจะได้คุมอำนาจ? หากไม่ใช่ซือถูเย้น อีกอย่าง หากบุตรชายทั้งคนของเจ้าแย่งชิงกัน การต่อสู้ของเสือสองตัวต้องมีตัวหนึ่งต้องตาย เจ้าอยากจะเห็นเหตุการณ์นั่นจริงๆ หรือ?”

สิ่งที่ฮองเฮากลัวที่สุดก็คือเรื่องนี้ องค์รัชทายาทก็ดี อ๋องเหลียงก็ดี ทั้งสองล้วนเป็นบุตรชายที่นางให้กำเนิด ไม่ว่าใครเกิดเรื่องนางล้วนไม่ยินยอม

เมื่อเหลียงไถ้ฝู้เห็นสีหน้าของนาง จึงยิ้มออกมาอย่างเย็นชา “หรือว่าเจ้าเองก็เห็นด้วยกับสิ่งที่หลีโม่พูดมา คิดว่าบิดามีเจตนาอื่นที่ไม่? ฮ่าวเอ๋อกับองค์รัชทายาท ล้วนเป็นหลายชายของข้า ในพวกเขาสองคนไม่ว่าใครจะเป็นฮ่องเต้ สำหรับข้านั้นก็เหมือนกันทั้งคู่”

ฮองเฮาตะลึงงันไปครู่หนึ่ง ตอนนั้นนางเคยคิดเกี่ยวกับปัญหานี้ขึ้นมา ความจริงแล้ว สิ่งที่หลีโม่พูดมาทั้งหมด องค์รัชทายาทควบคุมง่ายกว่าฮ่าวเอ๋อ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาฮ่าวเอ๋อไม่ได้สนิทชิดเชื้อกับเสด็จตาของเขา

“ข้าขอคิดให้ถี่ถ้วนก่อน” ฮองเฮากล่าว

เหลียงไถ้ฝู้ส่ายหัว พูดด้วยความผิดหวังว่า “เจ้าค่อยๆ คิดไปเถอะ หากวันหนึ่งขาของฮ่าวเอ๋อดีขึ้นมา เจ้าก็รอดูพวกเขาสองพี่น้องทะเลาะกันได้เลย”

พูดจบ จึงสะบัดชายเสื้อจากไป

จิตใจของเฮากระวนกระวายยิ่งนัก สำหรับนางแล้ว นี่เป็นปัญหาที่นางต้องเลือกมา

เมื่อหลีโม่กลับถึงตำหนัก ก็นำเรื่องที่ฮองเฮาพูดกับนางให้ซือถูเย้นฟัง

เมื่อซือถูเย้นได้ฟังแล้ว จึงพูดขึ้นมาด้วยความเย็นชาว่า “นี่มันบ้าเกินไปแล้ว ในหัวคิดแต่แย่งชิงอำนาจอะไรพวกนั้น”

หลีโม่พูดด้วยความกังวลใจว่า “ท่านคิดว่าเหลียงไถ้ฝู้จะลงมือกับอ๋องเหลียงหรือไม่? หากข้ายืนหยัดจะรักษาต่อไป”

ซือถูเย้นคิดครู่หนึ่ง “หากฮ่าวเอ๋อเกิดเรื่องอะไรขึ้นในตอนนี้ ฮองเฮาจะต้องคิดว่าเป็นฝีมือของเขาแน่นอน เขายังจำเป็นต้องอาศัยการสนับสนุนจาก ฮองเฮาอยู่ ไม่ลงมือทำอะไรโดยพลการแน่นอน”

เขามองไปที่นางด้วยท่าทางลังเลเล็กน้อย ไม่มีทางลงมือกับฮ่าวเอ๋อ แต่กลับจะลงมือกำจัดนางที่เป็นหมอรักษาโรคให้เขา เพราะ คนในเมืองหลวงที่สามารถรักษาขาของฮ่าวเอ๋อให้หายดีเป็นปกติได้ มีเพียงนางคนเดียว

ความจริงแล้วในขณะที่หลีโม่ถาม นางก็รู้สิ่งที่ซือถูเย้นคิดทั้งหมดแล้ว กลัวว่าเขาจะกังวลจึงถามออกมา

นางพูดด้วยความโมโหว่า “เหตุใดฮองเฮาถึงได้ไร้เดียงสาเช่นนี้? หากอ๋องเหลียงต้องการแย่งชิงตำแหน่งรัชทายาทจริงๆ แม้ขาของเขาจะรักษาไม่หาย ก็สามารถแย่งชิงได้เช่นกัน”

ซือถูเย้นส่ายหน้า “เพราะว่ารัชทายาทที่ร่างกายสมประกอบกับรัชทายาทที่ร่างกายพิการ ไม่ว่าใครก็เลือกรัชทายาทที่ร่างกายสมประกอบ เมื่อบวกกับชื่อเสียงที่แย่มากๆ ของฮ่าวเอ๋อแล้ว หากจะล้างน้ำสกปรกบนร่างกายของเขา ไม่ใช่ว่าวันสองวันจะทำได้ นอกจากอาการบาดเจ็บของเขาจะหายดีแล้ว ก็สามารถสร้างสงครามได้ พวกเขาคิดว่ามีข้ากับเซียวเซียวอยู่ด้วย หากฮ่าวเอ๋อจะสร้างสงครามย่อมเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายดาย”

หลีโม่คิดไม่ถึงขั้นนี้ หากเป็นเช่นนี้ อันที่จริงแล้วเหลียงไถ้ฝู้กังวลในตัวอ๋องเหลียง เพราะว่าวรยุทธ์ของเขาไม่เลว วันนั้นเห็นมือของเขาออกกระบวนท่า หากขาของเขาคล่องแคล่วแล้ว ประสบการณ์การฝึกอยู่ในสนามรบมาสองปี จึงเป็นภัยคุกคามต่อตำแหน่งขององค์รัชทายาทมากที่สุด

ตอนนี้จึงหวังว่าฮองเฮาจะไม่ลังเลใจ ไม่อย่างนั้น หากนางเล่นไม่แข็งขึ้นมา อาการบาดเจ็บที่ขาของเขาคงไม่สามารถรักษาให้หายได้

ซือถูเย้นกล่าวขึ้นมาว่า “พรุ่งนี้เริ่มได้ เอามีดเล็กกลับมาให้เจ้าแล้ว กุ้ยหยวนเองก็จะเข้าตำหนักพร้อมกับเจ้า ส่วนมารดาของเจ้า เสด็จพี่รองได้จัดกำลังคนเอาไว้แล้ว แต่ตอนนี้กำลังอยู่ในการฝึกฝนอยู่ ข้าจะให้เขาส่งคนไปแต่เช้าหน่อย”

“ก็ดี!” หลีโม่รู้ว่าเขากำลังกังวลในตัวของนาง จึงตอบเห็นด้วยกลับไป

ในตอนแรกนางคิดจะให้มีดเล็กอยู่มารดาของนางนานๆ อีกหน่อย ข้างกายนางในตอนนี้ไม่มีคนที่คุ้นเคย ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่หากต้องมาอยู่กับนาง

วันต่อมาหลีโม่กลับมาที่เรือนทิงอวี่เซวียน กลับเห็นซุ่ยยุ่นกูกูยืนลังเลอยู่หน้าประตูไม่กล้าเข้าไป

“เหตุใดถึงไปที่นั่น?” หลีโม่ขมวดคิ้วถาม

เตาเหล่าต้าพูดด้วยความจนใจว่า “เฉินหลิงหลงผู้นั้นตะโกนอยากจะพบเสี้ยนจู่ตลอดเวลา ในตอนแรกเสี้ยนจู่ก็สนใจนาง เอ่อ แต่ว่าที่นางตะโกนมันดูเป็นเรื่องเร่งด่วนจริงๆ เสี้ยนจู่ก็เลยไปดูหน่อยขอรับ”

หลีโม่รู้สึกว่าหลี่ซ่วยหยุ่นใจอ่อนมากเกินไป สุดท้ายก็ต้องหลงกลนาง

กำลังคิดจะเข้าไปหานาง ทว่ากลับเห็นนางออกมาแล้ว

“ท่านแม่ ท่านไปพบนางทำไม?” หลีโม่เดินขึ้นมาแล้วถามขึ้น

หลี่ซ่วยหยุ่นกุมหน้าผาก พูดด้วยความเดือดดาลว่า “นางบอกว่าอยากพบฮ่าวหราน ข้าบอกนางว่าฮ่าวหรานตายแล้ว นางก็ไม่เชื่อ ยังบอกอีกว่าฮ่าวหรานถูกหมุยเฟยซ่อนตัวเอาไว้เท่านั้น นางจะให้ข้าไปหาหมุยเฟย หากนางได้เจอฮ่าวหรานอีกสักครั้ง นางจะยอมจบชีวิตตัวเอง ”

“ท่านไม่จำเป็นต้องไปสนใจนาง” หลีโม่กล่าว

“ข้าเองก็ไม่อยากสนใจนาง แต่ว่านางตะโกนเรียกชื่อฮ่าวหรานตลอดเวลา”

นางเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นซุ่ยยุ่นยืนอยู่ด้านข้าง “ซุ่ยยุ่นกูกู?”

ซุ่ยยุ่นกูกูคุกเข่าลง ก้มหัวทำความเคารพหลี่ซ่วยหยุ่น “เสี้ยนจู่ บ่าวมาขอให้ท่านยกโทษให้บ่าวเจ้าค่ะ”

หลี่ซ่วยหยุ่นพูดว่า “ลุกขึ้นเถอะ ไม่มีความผิดอะไรที่ต้องยกโทษให้ คนที่อยู่กับนายหญิงแก่มีมากมายขนาดนั้น เจ้านับว่าไม่ผิดต่อพวกเราสองแม่ลูก”

คำว่าไม่ผิดนี้ เป็นเพียงการกลั่นแกล้งที่ไม่รุนแรงอะไร และแน่นอนว่า ก็ต้องเคยวางแผนใส่ร้ายยางทุกอย่าง

ซุ่นยุ่นกูกูเหมือนกับคิดไม่ถึงว่าหลี่ซ่วยหยุ่นจะใจกว้างให้อภัยนางได้ง่ายเช่นนี้ น้ำตาของนางก็ไหลพรากลงมาทันที โขกหัวทำเพื่อขอบคุณอย่างแรงหลายครั้ง “บ่าวเสียใจจนยากที่จะรับไหว เมื่อผ่านครั้งนี้ไปแล้ว ในที่สุดบ่าวก็ได้เข้าใจว่าอะไรที่เรียกว่าวัฏจักรของกฎแห่งกรรม และกรรมตามสนองที่ทำให้ทุกข์ใจ”

เห็นได้ชัดว่าหลี่ซ่วยหยุ่นไม่คุ้นชินกับการที่ถูกคนคุกเข่าไหว้เช่นนี้ จากนั้นจึงเห็นเย้นเอ๋อร์ดึงนางลุกขึ้นมา แล้วถามว่า “เจ้ามีคิดจะทำอย่างไรต่อไป?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม