พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 363

ตอนที่ 363 จับเป็ดวางบนชั้น

แต่ความตั้งใจทั้งหมดของอ๋องเหลียง กับไม่ได้เจอกับอี้เอ๋อร์ หังไปตามที่อยู่ที่ฮู่ฉาวหามาให้ ก็พบว่าไม่มีคนอยู่บ้าน

หลีโม่หิ้วเหล้าอย่างดีไว้สองไห บนคอห้อยลูกมะพร้าวไว้สองลูก บนลูกมะพร้าวติดกระดาษสีแดงไว้ หน้าละห้อยเมื่อไปถึงกลับต้องกินแห้ว ไม่รู้ว่าหน้าขำหรืออยากร้องไห้

อ๋องเหลียงท้อใจมาก พูดขึ้นเงียบๆว่า “พวกเขาไปจากเมืองหลวงแล้วหรือ? ต้องใช่แน่ๆ อี้เอ๋อร์จะต้องรับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นแน่ ข้าไม่น่าเข้าวังไปก่อน น่าจะไปตามหานางก่อน”

หลีโม่มองดูเขา พูดปลอบว่า “ไม่ต้องเป็นห่วง พวกเขาจะต้องกลับมาแน่”

แต่ ในใจหลีโม่รู้สึกเป็นห่วง ถึงแม้จะสั่งทางด้านประตูเมืองไว้แล้วว่าห้ามให้ทั้งสองออกจากเมืองไป แต่หลิวเยว่ไม่ออกจากเมืองก็ต้องหลบซ่อนอยู่ในเมืองหลวง จะหาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

หวังเพียงว่า นางจะออกมาเอง

ทั้งสองหน้าละห้อยค่อยๆกับมา เซียวโธ่เห็นทั้งสองหอบหิ้วของกลับมา จึงถามขึ้นว่า “ทำไมหรือ? ขอไม่สำเร็จหรือ?”

“ไม่มีคนอยู่” หลีโม่วางของลง

เซียวโธ่มองดูบนลูกมะพร้าวสองลูกมีกระดาษสีแดงติดไว้ ก็หัวเราะขึ้นมา “ในเมื่อไม่อยู่ งั้นก็ไม่ต้องขอแล้ว”

“อ๋องเยว่ตงยังอยู่ในห้องซือถูจิ้งหรือ?” หลีโม่ถามขึ้น

“ใช่ ท่านอ๋องก็เข้าไปแล้ว ยังอยู่ทั้งสองคนเลย เมื่อกี้ยังทะเลาะกันอีก เกือบจะตีกันละ” เซียวโธ่พูดอย่างอ่อนใจ

“อารมณ์ของทั้งสองคนก็เหมือนกับดาวอังคารชนโลก เฮ้อ ช่างเถอะ ไม่สนใจพวกเขาละ ข้าไปดูในครัวไปหาอะไรมาให้พวกเขาทานดีกว่า” หลีโม่พูดไปด้วย แล้วก็พาเย็นเอ๋อร์กับมามาไปห้องครัว

เซียวโธ่เห็นอ๋องเหลียงนั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างหมดอาลัยตายอยาก คิดอยู่สักพัก แล้วก็เข้าไปถามว่า “เจ้าอยากจะแต่งงานกับอี้เอ๋อร์มากจริงๆหรือ?”

อ๋องเหลียงเงยหน้าดูเขา “เจ้าไม่รู้หรือ?”

“แต่ว่า แต่งงานมีอะไรดี?” เซียวโธ่ถามอย่างไม่เข้าใจ

อ๋องเหลียงหวังพูดอย่างเรียบเฉยว่า “ข้ารักนาง อยากอยู่กับนาง อยากเห็นนางทุกวัน ดีที่สุดก็คือมีนางเดินไปกับข้าตลอดชีวิต ง่ายๆแค่นี้”

เซียวโธ่ขมวดคิ้ว คิดอยู่พักหนึ่ง “แต่ว่ารักคนคนหนึ่ง ก็ไม่จำเป็นต้องแต่งงานไม่ใช่หรือ?”

“ทำไมไม่แต่งงาน? จะรอให้คนอื่นมาสู่ขอนางไปหรือไง?” อ๋องเหลียงถามกลับ

“นานขนาดนั้นแล้วยังไม่มีใครมาสู่ขอ แล้วจะมีคนมาสู่ทันทีหรือ? เป็นไปไม่ได้” เซียวโธ่พูดปลอบ

อ๋องเหลียงกรอกตา “เจ้าหมายความว่ายังไง? เมื่อก่อนเอ้อร์ท่านอาก็เพราะรอเขาไปรบกลับมา ค่อยไปสู่ขอเจ้าเมืองตันชิง กลับคิดไม่ถึงว่าเมื่อกลับมาจะทำได้เพียงไปร่วมงานแต่งงาน เมื่อพลาดแล้วก็จะไม่มีอะไรแล้ว”

เขาหยุดไปสักพัก “ช่างเถอะ ข้าพูดไปเจ้าก็ไม่เข้าใจ เจ้ามันคนดื้อรั้น”

พูดจบ เขาก็ลุกขึ้น เดินเข้าห้องไป

เซียวโธ่นั่งคิดอยู่ตั้งนาน เดี๋ยวขมวดคิ้ว เดี๋ยวถอนหายใจ

สุดท้าย เขาก็เดินออกไป

หลีโม่กับมามาทำอาหารค่ำกลับมา สั่งเย็นเอ๋อร์ว่า “เย็นเอ๋อร์ เจ้าเอาลูกมะพร้าวกับเหล้าไปเก็บก่อน พรุ่งนี้ค่อยไปใหม่ เก็บดีๆหน่อยนะ มะพร้าวหาซื้อยาก” วันนี้ไม่เคาะประตูมาตั้งหลายร้าน กว่าจะหาซื้อมาได้

เย็นเอ๋อร์รับปากแล้วเดินไปเก็บ นางกลับมาบอกว่า “ไม่เห็นแล้ว สงสัยท่านอ๋องเหลียงคงเก็บไว้ดีแล้ว”

“อืม งั้นก็ดี” หลีโม่กับพวกเขาถือข้าวของเดินเข้าไปพร้อมกัน

ด้านนอกจวนเฉิน

มีคนคนหนึ่งเดินไปเดินอยู่ในเหงามืดหน้าจวนเฉินเป็นชั่วโมงแล้ว บนคอเขาแขวนมะพร้าวไว้สองลูก ในมือถือเหล้าไว้สองไห ก็ยังไม่รู้ว่าจะเข้าไปดีหรือไม่เข้าไปดี

เท้าของเขากำลังเดินขึ้นบันไดหิน แล้วก็ลังเลอยู่สักพักถอยหลังกลับมาอีก หันตัวเดินไปสองก้าว แล้วก็หันกลับมามองประตูดำมืด หยุดมาครุ่นคิดอีก ไปมาอยู่แบบนี้กว่าสิบรอบ

“เฮ้อ” คราวนี้หัวสมองเซียวโธ่โตเลย เขาเสียใจ เสียใจมากจริงๆ รีบลุกขึ้นยืน ยังไม่ทันได้พูดอะไรก็โดนยันกลับไปนั่งเหมือนเดิม

เฉินเหล่าไท่จูนอ้าปากกว้างหัวเราะ จ้องมองเซียวโธ่จนน้ำลายจะไหล คืนนี้ช่างอัศจรรย์ยิ่งนัก อัศจรรย์จริงๆ ดูแล้ววันนั้นที่ไปจวนเหาที่พูดตั้งเยอะ ได้เรื่องแล้วจริงๆ เด็กคนนี้คงโดนที่บ้านบังคับหรือเปล่า?

“ท่านปู่ของเจ้าพูดยังไงกับเจ้าหรือ? ท่านปู่ของเจ้าใช้เจ้ามาใช่ไหม?” เฉินไท่จูนถามขึ้น

“ท่านปู่?” เซียวโธ่ส่ายหัวอย่างงงงวย “เปล่า ท่านปู่จะให้ข้ามาทำไม?”

เมื่อเฉินไท่จูนได้ยินดังนี้ ก็ดีใจ “งั้นก็แสดงว่า เจ้ามาเอง?”

เซียวโธ่ตอบตามความจริง “ใช่ ข้ามาเอง”

เขาค่อยๆยื่นมือ ชี้ไปที่มะพร้าวกับเหล้า “ของพวกนี้ข้ายืมเขามา ข้าต้องเอา........”

“พ่อบ้าน ของที่ลูกเขยเอามาเก็บไว้ดีดีนะ ห้ามทำหาย” เฉินไท่จูนพูดขึ้น ตัดคำพูดของเซียวโธ่

พ่อบ้านรีบมาเก็บของไป รวดเร็วมาก ชาตินี้เซียวโธ่ยังไม่เคยเห็นเลย

เขามองอย่างตะลึง มองดูแม่ทัพตระกูลเฉินทั้งสิบสองคนกับแววตาเฉินไท่จูน เหมือนกับจะกลืนกินเขาเข้าไปในท้อง เขาจึงมีความคิดที่อยากจะวิ่งหนีไป

แต่เขาก็รู้ว่าเข้ามาในจวนเฉินแล้ว จะไม่สามารถหนีออกไปได้แน่ๆ

“น้องเขย ทำไมถึงมาค่ำขนาดนี้? น่าจะมาเช้ากว่านี้ หลิ่วหลิ่วคงดีใจแย่” เฉินหลงถีบเก้าอี้เซียวโธ่ แล้วพูดขึ้น

เฉินหนิวก็พูดขึ้นว่า “ใช่ ยังไม่มีใครไปเรียกหลิ่วหลิ่วหรือ? รีบไปสิ”

เซียวโธ่ร้อนใจ รีบลุกขึ้นยืน “ข้าไม่ได้มาสู่ขอ”

ดาบคมๆสิบสองเล่มสว่างออกมา วางอยู่บนคอของเขา เซียวโธ่กลืนน้ำลายลงคอ “ข้าแค่อยากจะมาถามหลิ่วหลิ่วว่า จะยินยอมแต่งงานกับข้าไหม?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม