พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 390

ตอนที่ 390 ยังมีความหวัง

หางตาซือถูเย้นดั่งปลายหอก เหลาไท่ไท่กำลังถามเขา ฟังดูเหมือนคำพูดคุยกันปกติ ที่จริงคือกำลังถามความเห็นของเขา

เพราะ ยกใครขึ้นมา ก็หมายความว่าคนนั้นจะกลายเป็นคนที่มีอำนาจที่สุดในวังหลัง

แต่ว่า เรื่องของวังหลัง ซือถูเย้นไม่สามารถเข้าไปก้าวก่าย เขาจึงพูดว่า “เหนียงเหนียงในวังหลังล้วนเป็นคนดีมีศีลธรรม ท่านแม่เรียกใช้ได้อย่างวางใจ เพียงแต่ต้องเอาบทเรียนของฮองเฮาเป็นตัวอย่าง อำนาจภายนอกมีมาก ไม่ควรที่จะเอามาอีก ไม่อย่างนั้นก็จะกลายเป็นฮองเฮาคนที่สอง”

ฮองไทเฮาครุ่นคิด ไม่มีอำนาจญาติพี่น้อง และมีตำแหน่งสูงกว่าสนม ดูแล้วก็จะมีเพียงหมุยเฟย

บ้านของหมุยเฟย เพราะมีเรื่องนางหญิงแก่ตระกูลเสี้ยทำให้เดือดร้อน ทรุดลงอย่างไม่มีวันฟื้นขึ้นมาได้ คนคนหนึ่งเมื่อเคยลำบาก อย่างน้อยก็จะรู้จักว่าต้องเป็นคนยังไงทำงานยังไง

ในใจฮองไทเฮาพอมีตัวเลือกแล้ว ก็คิดถึงอีกเรื่องหนึ่งขึ้นมา “วันนี้ฮองเฮาวิ่งมาขอร้องข้า บอกว่าเจ้าใส่ร้ายเรื่องอี้เฟยกับองค์รัชทายาทเป็นชู้กัน เป็นเรื่องอะไรกันแน่?”

ซือถูเย้นหัวเราะ “ท่านแม่ถามว่าอี้เฟยกับองค์รัชทายาทเป็นอะไรกัน หรือถามว่าข้าใส่ร้ายเขาไหม?”

ฮองไทเฮาหัวเราะแล้วตีเขาไปหนึ่งที “ข้าเคยสงสัยเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่? แต่ว่าฮองเฮาท่าทางร้อนใจมาขอร้องข้า จะต้องเป็นเจ้าที่ปล่อยข่าวออกไป”

ซือถูเย้นร้องเสียงหลง “ข้าไม่ได้ปล่อยข่าวอะไรออกไปจริงๆ เรื่องนี้ข้ารู้ดีว่าอะไรควรอะไรไม่ควร สิ่งนี้ทำลายชื่อเสียงของราชวงศ์ ข้าไม่ทำแบบนั้นหรอก”

“งั้นเกิดอะไรขึ้นละ? ฮองเฮาคงไม่สร้างเรื่องมาหลอกข้ามั้ง? ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งต่อนางกับองค์รัชทายาท ยังเอาอี้เฟยมาเดือดร้อน........”

นางพูดๆอยู่ แล้วก็หยุดพูด นอกจาก นอกจากพวกเขาหวาดกลัวไปเอง

ทำไมต้องหวาดกลัว? เพราะว่าเรื่องนี้คือความจริง

สีหน้าฮองไทเฮาเปลี่ยนไปอย่างไม่น่ามอง นางมองดูซือถูเย้น “เจ้าบอกข้ามา เจ้ารู้อะไรบ้าง? หลีโม่ไปเห็นเข้าจริงๆใช่ไหม?”

ซือถูเย้นโอบหัวไหล่นางไว้ หัวเราะพร้อมกับด่าว่า “เหลาไท่ไท่ ขี้สงสัยจังเลยนะ หลีโม่ไม่เห็นอะไรเลย หากเห็นนางไม่รีบเข้าวังมาฟ้องท่านก่อนหรือ? หลีโม่กับอี้เฟยไม่ถูกกันนะ”

“จริงหรือ? เจ้าอย่าคิดว่าข้าโง่แล้วจะมาหลอกข้านะ” ฮองไทเฮาไม่เชื่อคำพูดของเขา

ซือถูเย้นพูดขึ้นว่า “จะหยอกเหลาไท่ไท่คนหนึ่งไปทำไหมกัน? จะหยอก ข้าไปหาผู้หญิงสาวๆสวยๆโน้น”

“ชิ อย่ามาทำเป็นเปลี่ยนเรื่องพูด แต่ในเมื่อเจ้าพูดถึงเรื่องนี้ ข้าก็รู้สึกเป็นห่วง ฮองเฮาคนนั้นช่างใจบาป วางยาหลีโม่ ทำให้หลีโม่มีบุตรไม่ได้ เชื้อสายอ๋องซื่อเจิ้งของเจ้าจะขาดไม่ได้ เรื่องนี้เจ้าอย่าหาว่าข้าเรื่องมาก ต่อให้ข้าไม่พูด นางสนมของเจ้าก็ต้องพูด”

“โถ่ จะหานางสนมให้ข้ารวดเร็วขนาดนี้เลยหรือ? เรื่องนี้ข้าตัดสินใจไม่ได้ ไปพูดกับหลีโม่โน้น” ซือถูเย้นพูดอย่างเกียจคร้าน

ฮองไทเฮาพูดว่า “ถ้าเจ้ารับปาก ข้าก็จะไปถามจริงๆนะ?”

“ไปถามสิ” ซือถูเย้นท่าทางจริงจัง

ฮองไทเฮาหรี่ตาลง “นางจะยอมตกลงหรือ?”

“กล้าไม่รับปากหรือ? ท่านไปพูดด้วยตัวเองเลยนะ นางไม่อยากยอมก็ต้องยอม” ซือถูเย้นพูดอย่างจริงจัง

“ดูเจ้าสิทำเป็นวางมาด เกรงว่าก็กลัวพระฉายาแหละ เอาเถอะ ลูกหลานตระกูลมู่หลงของเรา ล้วนกลัวพระฉายา ดูท่านสามก็รู้แล้ว ต่อหน้าหมันเอ๋อร์จะกลัวจนหัวหด” ฮองไทเฮาหัวเราะ รอยยิ้มกลับดูกระด้างมาก แสดงว่าในใจยังซ่อนเรื่องที่ไม่สบายไว้อยู่

ทำไมซือถูเย้นจะดูไม่ออกกับท่าทางของนาง? มองดูนาง แล้วพูดปลอบว่า “เอาล่ะ เอาล่ะ ดีใจหน่อย ต่อให้ฟ้าถล่มลงมาก็ยังมีผู้ชายตระกูลมู่หลงค้ำอยู่ไม่ใช่หรือ? ท่านควรจะทานก็ทาน ควรจะนอนก็นอน ควรจะเล่นก็เล่นไป”

นางนึกว่า ตลอดชีวิตนี้หากต้องมีอะไรเปลี่ยนแปลง นั่นก็คือเปลี่ยนจากฮองเฮากลายเป็นฮองไทเฮา

นั่งอยู่เนิ่นนาน แล้วก็ได้ยินเสียงข้างนอกดังขึ้น

สาวใช้ในพระตำหนักเดินเข้ามา “เหนียงเหนียง องค์รัชทายาทกับใต้เท้าไถ้ฝู้มา”

ฮองเฮามองไปยังประตูพระตำหนัก พูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “ให้เข้ามา”

นางไม่ใช่ฮองเฮาอีกต่อไปแล้ว เป็นเพียงเหลียงพิง แม้เพียงตำแหน่งใดๆก็ไม่มี ใช้นามสกุลของแม่ ความหมายว่า นางไม่ใช่คนของเชื้อพระวงศ์อีกต่อไปแล้วหรือ? แต่นางก็ไม่ใช่คนของตระกูลเหลียงนี่ นับจากที่นางอภิเษกกับฮ่องเต้เป็นต้นมา นางก็ไม่ใช่คนของตระกูลเหลียงอีกต่อไปแล้ว

หลังจากที่องค์รัชทายาทกับไถ้ฝู้เข้ามาแล้ว ก็ปิดประตูไว้อย่างมิดชิด คนในพระตำหนักทั้งหมดถูกขับไล่ให้ออกไปจนหมด

เมื่อประตูถูกปิดลง องค์รัชทายาทก็คุกเข่าลง ร้องไห้อย่างไร้น้ำตาแล้วพูดว่า “ท่านแม่ ลูกอกตัญญู ทำให้ท่านแม่ต้องเดือดร้อน”

ฮองเฮาไม่ขยับ เพียงอยู่ด้านบนแล้วมองดูเขาร้องไห้ ดวงตาของเขาไม่มีน้ำตาสักหยด

นางเองก็ไม่มี

ไถ้ฝู้เห็นท่าทางเป็นนี้ของนาง รู้ว่าในใจนางเกลียดชัง จึงพูดขึ้นว่า “วันนี้ที่ทำแบบนี้ ก็เพราะไม่มีทางเลือก จะยอมให้ซือถูเย้นปลดองค์รัชทายาทหรือ ปลดองค์รัชทายาทแล้ว เจ้ายังมีความหวังหรือ?”

ฮองเฮาหัวเราะขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด “ไม่มีความหวังหรือ? องค์รัชทายาทถูกปลด คนที่จะได้รับแต่งตั้งจะเป็นใคร? อ๋องเหลียง อ๋องเหลียงก็เป็นลูกชายของข้า ยังไงข้าก็ยังมีความหวัง”

ไถ้ฝู้พูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “เจ้าคิดว่าอ๋องเหลียงยังจะสามารถมีชีวิตอยู่หรือ? เมื่อกี้ข้าไปถามหมอยาที่ตรวจอาการในวันนั้นมาแล้ว หมอยาบอกว่าโอกาสรอดมีแค่สองส่วน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม