พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 408

ตอนที่ 408 ซือถูจิ้ง

เมื่อคนที่เพิ่งมาปลดผ้าคลุมออก เผยใบหน้าผอมเรียวสีผิวขาวซีด

ฮองไทเฮาผงะลุกขึ้นโดยทันที “พระเจ้า ข้าตาฝาดไปหรือเปล่า? ”

นางโซเซจนล้มลง ผู้มาเยือนจึงเข้าไปประคองนางไว้ และถือโอกาสโอบกอดนาง

ฮองไทเฮาจึงได้สัมผัสถึงความเป็นจริง ร้องไห้ออกมาคว้านางมากอดไว้ “เจ้าก้อนดวงใจที่รักของข้า! ”

ซือถูเย้นยิ้ม “พอได้แล้วเพคะ เอาแต่เรียกเจ้าก้อนดวงใจ ไม่เลี่ยนเลยสักนิด ท่านอาไม่สามารถยืนได้นาน นางเพิ่งอาการดีขึ้น ให้นางได้นั่งลงเสียก่อน”

ไม่ผิด ผู้ที่มาเยือนก็คือคนที่ผ่านชีวิตครึ่งเป็นครึ่งตายมาก่อนอย่างยาวนาน ซือถูจิ้ง

ฮองไทเฮารีบปล่อยนาง หลีโม่ก้าวเข้ามาพยุงนางลงนั่ง “นั่งก่อน อย่าตื่นเต้นไปเพคะ”

“ไม่เป็นไร” ซือถูจิ้งถอนหายใจ แน่นอนว่าร่างกายของนางอ่อนแอลง แต่พักผ่อนเพียงสองวันก็ดีขึ้นมากแล้ว

“สรุปแล้วเกิดเรื่องอันใดขึ้น? เจ้าฟื้นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน? เหตุใดข้าจึงไม่ยักรู้? ” ฮองไทเฮาเช็ดหยาดน้ำตาไปพร้อมกับรัวคำถาม

หลีโม่ตอบ “ความจริงแล้วสองวันก่อนหาใต้เท้าหลี่พบแล้ว และในกลางดึกคืนนั้นตกลงซื้อเลือดเขาละมั่งมา มีเลือดเขาละมั่งมาทำยา ในคืนนั้นนางก็ได้ฟื้นขึ้นมา”

” เรื่องเกิดมาสองวันแล้วไม่บอกข้าเลยรึ? ” ฮองไทเฮาขุ่นเคือง

ซือถูเย้นปลอบโยน “ไม่สามารถบอกได้ ณ เดี๋ยวนั้น เมื่อกล่าวไปแล้วชีวิตของท่านอาก็จะตกอยู่ในอันตราย เสด็จแม่เพคะ รู้หรือไม่ว่าเหลียงสู้หลินเป็นคนที่กุ้ยไท่เฟยเสนอมา นางต้องการทรัพย์สมบัติของท่านอา หากข่าวที่ท่านอาฟื้นขึ้นมาแพร่ไปถึงหูนาง นางจะกลับมาปลิดชีวิตท่านอาอย่างไม่มีข้อแม้”

“เหลียงสู้หลินจะไปเป็นคนที่หมู่เฟยของเจ้าเสนอเข้ามาได้อย่างไร? ” ฮองไทเฮาประหลาดใจ “เขาเป็นคนที่ใต้เท้าชุยเสนอมา”

ท่านกลางเหตุและผล หลีโม่ค่อยๆ อธิบายให้หมู่ฮองฟัง” ซือถูเย้นผลักร้อยแปดพันเก้าเรื่องราวทั้งหมดไปให้หลีโม่

หลีโม่ถลึงตาใส่เขา ก่อนนำเรื่องที่จ้างวานคนไปลักลอบฆ่าใต้เท้าชุยแล้วสวมบทบาทออกไปช่วย และเรื่องที่เหลียงสู้หลินและเหลียงสู้หลินร่วมมือกันเรื่องงานแต่งเปิดเผยออกมาให้ฮองไทเฮาได้ทราบ และสุดท้ายนางเล่าว่า

“คราแรกที่พวกเราได้รู้ว่ากุ้ยไท่เฟยและเหลียงสู้หลินร่วมกันจัดฉากเรื่องสมรส เหตุเพราะต้องการทรัพย์สมบัติขององค์หญิง และเพราะเรื่องขององค์หญิงนี่เอง นางจึงขอให้หมู่ฮองเรียกตัวอ๋องหนานหวนกลับเมืองเพื่อสมรู้ร่วมคิดกันอีกทาง พวกเราจึงคิดแผนซ้อนแผนทำให้นางคิดว่าตนจะเสนอเหลียงสู้หลินให้เป็นพระราชบุตรเขยได้สำเร็จ นางไม่ทันได้ระแวดระวัง พระราชสาส์นที่ได้ประกาศไปในวันนี้จึงทำให้นางไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ ก็เพราะซือถูเย้นรับสั่งให้ซุนกงกงเปลี่ยนคำในพระราชสาส์น และประกาศออกไปเป็นที่เรียบร้อย แม้แต่ฮองไทเฮาก็มิได้เห็นมาก่อน หากเผลอบอกความจริงกับนางไปว่าในสาส์นพระราชเสาวนีย์ลงอักษรไว้ว่าพระราชบุตรเขยคือเซียวเซียว นางจะไม่ยอมให้ทุกสิ่งของนางต้องพังลง หาหนทางทำทุกสิ่งอย่างเพื่อทำลายมันอย่างแน่นอน เช่นนั้นความพยายามของพวกเราจะสูญเปล่าเป็นแน่แท้ ดังนั้นซือถูเย้นจึงต้องปิดบังฮองไทเฮาเพื่อให้เรื่องดำเนินไปด้วยดีนะเพคะ ฮองไทเฮาโปรดอย่ามองเขาผิดไป”

ฮองไทเฮาอดตกใจไม่ได้ “กล่าวมาขนาดนี้ นางยังไม่ยอมแพ้ความตั้งใจอีกหรือ”

“นางไม่เคยยอมแพ้และจะไม่ยอมแพ้” ซือถูเย้นกล่าว

ฮองไทเฮสคิดขึ้นมาได้ว่าช่วงนี้นางเข้าตำหนักวังถี่เหลือเกิน ที่แท้ไม่คิดเลยว่านางคิดจะทำถึงขนาดนี้ ไม่ว่าแผนของนางจะสำเร็จหรือไม่ก็ตามที

เหงื่อของนางยังไหลออกมาไม่หยุด ในตอนนั้นหากรู้ถึงแผนการของซือถูเย้นก่อน นางคงจะพลั้งปากบอกกุ้ยไท่เฟยไปจริงๆ

ฮองไทเฮาไม่สามารถระงับความโกรธและความเจ็บปวดใจลงได้ “นางแสนดื้อรั้น ข้าเจ็บปวดใจเสียจริง”

ซือถูจิ้งพูดขึ้น “ฮองไทเฮา บนโลกนี้ไม่มีสิ่งใดน่าไว้วางใจ คราวหน้าหากนางพูดอะไร โปรดอย่าปักใจเชื่อเป็นพอนะเพคะ”

ฮองไทเฮาเบิกตา “ดังนั้นนางจึงวางแผนให้เหลียงสู้หลินแต่งงานกันซือถูจิ้ง แล้วนำสมบัติของซือถูจิ้งไปใช้จ่ายรึ?”

“ถูกต้องแล้ว”

ฮองไทเฮายกยิ้มเย็น “ถ้าเช่นนั้นคราวนี้ นางต้องเสียทั้งขึ้นทั้งล่องเสียแล้ว”

หลีโม่เลิกคิ้ว “ความจริงแล้วจุดประสงค์ของพวกเราที่ปิดบังมาตลอดสองวัน คือขอให้ท่านหมั้นหมายเพื่อให้พวกเขาได้แต่งงานกัน หากพวกเราไปขออนุญาตจากเหาเย๋เขาไม่ยินยอมประกาศออกไปแน่น ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือการประกาศพระราชเสาวนีย์ออกไปในโถงราชวังบีบให้เขาต้องยอมรับถึงเรื่องหนังสือหย่าร้าง จนบัดนี้พระราชเสาวนีย์ก็ได้ประกาศออกไปแล้ว เขาตอบรับพระราชประสงค์ ทั้งหมดก็เรียบร้อย”

“เขามีเรื่องให้กังวลมากโข ข้าเข้าใจความรู้สึกเขาดี” ฮองไทเฮากล่าว

ซือถูเย้นพูดต่อ “ความกังวลของเซียวเซียว เหาเย๋ และฮองไทเฮาเกือบทำให้เกิดโศกนาฏกรรมเชียวนะ ข้ากลับรู้สึกว่าไม่มีสิ่งใดให้ต้องกังวล หากอยากแต่งก็แต่งเสีย อยากสมรสก็สมรส เรื่องในใต้หล้าล้วนมีทางออกแน่นอน”

“บัดนี้น่ะใช่ เพียงแต่ในตอนนั้นหางชิงชีวิตยังไม่ตาย...” ฮองไทเฮามองซือถูเย้น “หานชิงชีวฆ่าตัวตายจริงหรือ”

ซือถูเย้นเงียบไปครู่หนึ่งก่อนตอบออกมา “เพคะ และที่นางฆ่าหยาวจื่อก็เป็นเรื่องจริงเช่นกัน”

“คนชั่วช้า!” ฮองไทเฮาโกรธจนทนไม่ไหว “ฆ่าตัวตายนับว่าง่ายไปเสียด้วยซ้ำสำหรับนาง ถ้ามาอยู่ในเงื้อมมือข้า จะทำให้นางสำนึกอย่างช้าๆ”

ฮองไทเฮารู้ว่าซือถูจิ้งรู้ว่านางเสียใจต่อการจากไปของหยาวจื่อ นางให้ความสำคัญกับเรื่องความรู้สึกเสมอ

ซือถูจิ้งไม่พูดสิ่งใด แต่สีหน้าเผยความเย็นชา คราแรกนางสงสัยหานชิงชีว แต่ไม่มีหลักฐานความจริง และไม่อยากให้เขาทั้งสองต้องบาดหมางกัน บัดนี้เมื่อได้รู้ว่านางฆ่าหยาวจื่อ ซือถูจิ้งเกรงว่าตนจะทนไม่ไหวจนทำร้ายนางด้วยน้ำมือตนเอง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม