ตอนที่ 452 เจ้าแต่งกับฟางเอ๋อร์ดีกว่า
กุ้ยไท่เฟยขมวดคิ้ว มองไปทางฟางเอ๋อร์ “เจ้าบอกว่าครั้งก่อนฮ่องเต้ใช้ใบหน้าปลอมอย่างนั้นหรือ?”
“ต้องใช่แน่นอน ” ซุนฟางเอ้อร์พูดอย่างมั่นใจ “ถ้าไม่ใช่ใบหน้าปลอม ก็คงจะลบปานแดงออกไม่ได้ เพียงแต่คิดไม่ถึง ว่าหลีโม่จะทำใบหน้าปลอมขึ้นมาได้”
“เจ้าทำได้ไหม?” อ๋องหนานหวยถาม
ซุนฟางเอ้อร์กล่าว “ทำได้ จริงๆแล้วเรื่องนี้จะว่าง่ายก็ไม่ง่าย จะว่ายากก็ไม่ยาก ขอแค่จับจุดให้ถูก ก็ทำออกมาได้แล้ว”
“ใบหน้าปลอมนี้ถ้าเอามาติดหน้า จะมองไม่ออกเลยหรือ?”
“คนที่รู้วิชานี้จะมองออก แต่ใครจะกล้ามองจ้องหน้าฮ่องเต้เล่า? แต่หน้ากากนี้มีข้อด้อยก็คือ ร้อนเกินไปไม่ได้ หนังหน้าปลอมจะมีน้ำไหลออกมา แล้วละลายไป ลมแรงไปไม่ได้ จะทำให้หนังหน้ายับ ตกลงมา แล้วก็ทนอยู่ได้ไม่นาน มันไม่ระบายอากาศ ไม่เป็นผลดีต่ออาการฮ่องเต้ โดยปกติแล้ว 2ชั่วยามก็ต้องถอดออก ถ้าเป็นอากาศตอนนี้ อย่างมากอยู่ข้างนอกได้1ชั่วยามครึ่ง ถ้าไม่เอาออกมา อุณหภูมิของร่างกายจะทำให้หน้าปลอมบางลง รอบแดงก็จะเผยให้เห็นออกมา หรือทำให้หน้ากากปลอมหลุดได้”
“จากวัง มาถึงแท่นพิธี อย่างน้อยต้องใช้เวลา1ชั่วยาม บวกกับตอนนี้ฮ่องเต้ร่างกายไม่ดี เกี้ยวเสด็จจะเดินเร็วไม่ได้ ดังนั้น ฮ่องเต้จะต้องเปลี่ยนหน้ากากระหว่างทาง ” อ๋องหนานหวยกล่าว
“ท่านอ๋องมีแผนอย่างไร?” ซุนฟางเอ้อร์ถาม
กุ้ยไท่เฟยถามว่า “เจ้าว่าเช่นไร?”
ซุนฟางเอ้อร์ก็ยิ้ม “แท่นบูชาไม่มีอะไรบดบัง ถ้าฮ่องเต้จะเปลี่ยนหน้ากาก ก็ต้องให้ราชองครักษ์มาบังให้ ถ้าในตอนนั้นมีนักฆ่าปรากฏตัวขึ้น ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นไรเหมือนกันนะ?”
อ๋องหนานหวยหัวเราะ “ถ้าเป็นเช่นนั้นก็น่าสนุก”
กุ้ยไท่เฟยพอใจซุนฟางเอ้อร์มาก แล้วก็ชื่นชมว่า “ถ้าวันนั้นเจ้าไม่ไปกับท่านอ๋อง ข้ากลัวว่าท่านอ๋องจะไปร่วมสังหารด้วย เจ้าเป็นคนมีสติกับทุกเรื่อง มีเจ้าอยู่ข้างกายท่านอ๋อง ข้าก็วางใจ”
ซุนฟางเอ้อร์โน้มตัวขอบคุณ “กุ้ยไท่เฟยชมเกินไปแล้ว”
กุ้ยไท่เฟยมองนางยิ้มๆ “อย่างเรียกกันห่างเหินเช่นนั้น เจ้าเป็นคนตระกูลซุน ถึงแม้ตระกูลซุนไม่นับเจ้า แต่ข้านับเจ้าเป็นญาติ ต่อไปก็เรียกข้าท่านป้าก็แล้วกัน”
“ได้ค่ะ ท่านป้า” ซุนฟางเอ้อร์น้ำตาคลอ
กุ้ยไท่เฟยมองอ๋องหนานหวย “พูดไปพูดมา พวกเจ้าสองคนก็โตมาด้วยกัน เคยคิดว่าจะดองกันมั้ย?”
อ๋องหนานหวยหน้านิ่งไป “ท่านแม่ ข้ายังไม่อยากแต่งงาน”
“เจ้านี่นะ ควรจะมีลูกเมียได้แล้ว ถึงแม้ข้างกายจะมีหญิงมากมาย แต่ก็ไม่มีคนมาดูแลจริงๆจังๆเสียที แม่รู้ว่าตอนนี้ซุนฟางเอ้อร์ติดตามเจ้า ไม่มีตำแหน่งหน้าที่อะไร เจ้าไม่กลัวจะทำลายชื่อเสียงนางหรอกหรือ? ” กุ้ยไท่เฟยถอนหายใจ
“นางไม่ได้ต้องอะไรแบบนี้ ” อ๋องหนานหวยมองไปที่นาง “ใช่ไหม?”
ซุนฟางเอ้อร์พยายามยิ้ม “ใช้เพคะ ท่านป้าไม่ต้องลำบากใจเพราะข้าหรอก ข้าเป็นลูกที่ถูกทิ้ง ได้รับการอุปถัมภ์จากท่านอ๋องก็ถือว่าเป็นบุญแล้ว ไม่กล้าจะหวังสิ่งอื่น”
สายตากุ้ยไท้เฟยก็เป็นประกาย “ไม่กล้าคาดหวัง แต่ไม่ใช่ไม่คิด แต่ข้าก็ไปจัดการอะไรพวกเจ้าไม่ได้ แล้วแต่พวกเจ้าก็แล้วกัน เพียงแต่ ข้าขอตักเตือนสักคำ ถ้าวันงานพวกเจ้าเปิดเผยฮ่องเต้ไม่สำเร็จ พวกเจ้าต้องรีบกลับแดนหนานโก๋ว ถ้าจะแต่งงาน ก็จัดแจงแต่งเสียที่นี่แล้วค่อยกลับไป ดูกันก่อน ถ้าไม่สำเร็จ ยังไงก็ต้องจัดการแต่งเสีย”
ซุนฟางเอ้อร์ก้มหน้า เลยมองไม่เห็นความรู้สึกทางใบหน้า แต่ว่า ร่างกายนางแข็งทื่อ ไม่รู้ว่าไม่ยินยอมหรือเพราะว่าความคิดของอ๋องหนานหวย
ส่วนอ๋องหนานหวย ก็ไม่มีใบหน้าที่ไม่ดีใจ
กุ้ยไท่เฟยเห็นดังนั้น ก็หัวเราะกับซุนฟางเอ้อร์“ ซุนฟางเอ้อร์ครั้งก่อนเจ้าทำขนมกุ้ยฮัวให้ข้ากิน ข้ายังคิดถึงรสชาตินั้นหรือเลย เจ้าทำให้ข้าอีกได้ไหม? ข้าอยากกิน”
ตั้งแต่หลีโม่เข้าวังมา ก็ไม่ได้ฝังเข็มให้อ๋องเหลียงเลย ตอนนี้ก็เตรียมการหมดแล้ว หน้ากากก็ทำแล้ว กำลังตากให้แห้ง ดังนั้น ก็เลยหาเวลามาฝังเข็มให้อ๋องเหลียง
หลีโม่ไม่พูดเรื่องในวัง ถึงแม้เข้าจะไม่เอ่ยปากขอร้องไห้เหลียงพิง แต่ว่า ในใจเขาเองก็ไม่สบายใจเท่าไรหรอก
พอดีว่าเซียวโธ่พาหลิ่วหลิ่วมาโชว์ความรักกัน ใช้ผ้าพันคอหนังจิ้งจอกลายแปลกๆมา
“เจ้านี่ก็แต่งตัวแหวกแนวเหมือนกันนะ ” อ๋องเหลียงเอ่ยปาก ผู้ชายที่แต่งงานแล้วจะเปลี่ยนไป ก่อนหน้านี้เซียวโธ่คงจะไม่ใช้ของแบบนี้เด็ดขาด เพราะใช้แล้วดูไม่ภูมิฐาน
หลิ่วหลิ่วเงยหน้าขึ้น พูดอย่างมีความสุขว่า “มองอะไรกัน? ลายนกเป็ดน้ำเล่นน้ำต่างหาก ไม่ใช่เป็ดเล่นน้ำ”
“นกเป็ดน้ำหรือ? ” อ๋องเหลียงเข้าไปดูใกล้ๆ “อย่าว่าเลยนะ ไม่ยักจะรู้ว่านกเป็ดน้ำมันมีรูปร่างแบบนี้ ปากแบนๆเช่นนี้ ไม่ใช่เป็ดแล้วเรียกว่าอะไร? อีกอย่างนะ เจ้าแน่ใจนะว่าท่าทางของมันคือกำลังเล่นน้ำ ไม่ใช่กำลังจะจมน้ำหรอกนะ?”
หลิ่วหลิ่วโกรธ นี่เป็นผลงานชิ้นแรกที่ทำสำเร็จของนาง บังคับให้เซียวโธ่ใส่ออกมาโชว์ เดิมคิดว่าจะมีคนชมเชย ไม่คิดว่าจะถูกมองเช่นนี้
“เจ้าว่าไงหลีโม่ ลายบนผ้าพันคอเป็นลายอะไร? ” หลิ่วหลิ่วถามหลีโม่
หลีโม่กำลังฆ่าเชื้อเข็มอยู่ ในหัวก็กำลังคิดเรื่องวันพรุ่งนี้ ไม่ได้ฟังว่าเขาคุยอะไรกัน ได้ยินหลิ่วหลิ่วถาม ก็เงยหน้ามอง “ทำไมถึงได้ปักลายอีกากินน้ำละ? ไม่มีลายอื่นให้ปักแล้วหรือ?”
หลิ่วหลิ่วหน้าเสีย นางดึงผ้าพันคอจากคอเซียวโธ่ออก “มามาก็บอกข้าปักสวยออก”
“ถ้าเป็นอีกา2คู่ ก็ถือว่าปักได้สวยอยู่ ” อ๋องเหลียงหัวเราะ
หลิ่วหลิวโกรธจนหันหลังหนี หลีโม่มองพวกเขาแปลกๆ “เอะอะอะไรกัน? เป็นอีกาแล้วยังไง? ใครบอกว่าอีกาไม่เป็นมงคล? ความเชื่อบ้าบอ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...