ตอนที่ 496 คนร้ายยอมรับสารภาพ
โหรวเหยามองนางอย่างอึ้งๆ บ่นพึมพำว่า “อาการหนักถึงขนาดนี้? ข้าคิดว่า คนอย่างนางยังไงก็ไม่ตายไปง่ายๆแบบนี้หรอก”
หลีโม่พูดว่า “เจ้ายังอุตส่าห์คิดถึงนาง หากนางยินยอม ก็ไปดูนางสิ ข้าก็ไม่รู้ว่านางจะอยู่ได้ถึงเมื่อไหร่ ความจริงแล้ว ความตั้งใจที่อยากจะมีชีวิตอยู่ของนางมีไม่มาก”
“ความตั้งใจที่อยากจะมีชีวิตอยู่ของนางมีไม่มาก? เป็นไปได้ยังไง?” โหรวเหยาแทบไม่อยากเชื่อ “นางทำเรื่องชั่วร้ายมากมายขนาดนี้ ก็ไม่ใช่เพราะคิดอยากจะชีวิตอยู่ไม่ใช่ อยากเป็นเจ้าคนนายคนไม่ใช่หรือ?”
“บางทีหลังจากที่ออกมาจากตระกูลซุนแล้ว นางคงไม่ได้ดั่งที่ใจหวัง อ๋องหนานหวยไม่ได้ดูแลนางเป็นอย่างดี”
“นั่นก็สมควรแล้ว คนในครอบครัวตัวเองมีก็ไม่รัก ไปพึ่งพาหมาป่าชั่วร้ายที่มีความทะเยอทะยานเหล่านั้น ไม่สมน้ำหน้านางหรือ? หากไม่ใช่เพราะท่านแม่รู้ว่านางบาดเจ็บใช้ให้ข้ามาดู ข้าไม่มาหรอก” โหรวเหยาพูดอย่างโกรธเคือง ดวงตาก็แดงขึ้นมา
“ฮูหยินซุนช่างเป็นคนดีมีเมตตา ถูกนางทำร้ายจนตาบอดทั้งคู่แล้ว ยังคิดถึงนาง” ซือถูจิ้งพูดอย่างถอนหายใจ
ในที่สุดโหรวเหยาก็อดทนไม่ไหวร้องไห้ออกมา “ท่านแม่บอกว่าเมื่อก่อนนางไม่ใช่คนแบบนี้ เพียงแค่ถูกอาจารย์ของนางสอนให้ไม่ดี ยังไงท่านแม่ก็ยังจำและคิดถึงส่วนที่ดีของนางอยู่ ไม่จำส่วนที่นางร้าย ข้าไม่ได้ดีขนาดนั้น ข้าไม่ได้ดูนางหรอก นางจะตายก็ตายไปเถอะ ไม่ว่ายังไงก็ไม่ใช่คนของตระกูลซุนอีกแล้ว”
หลีโม่กุมมือนางไว้ “ในใจเจ้าสบายใจยังไงก็ตามทำนั้นเถอะ ไม่ต้องฝืนใจตัวเอง”
โหรวเหยาอืมรับคำ นั่งลงไม่พูดอะไรอยู่เนิ่นนาน นางพูดขึ้นว่า “ท่านแม่ให้ข้ามาดูนาง ข้าก็จะไปดูนาง แค่ดูเท่านั้น นางจะเป็นร้ายดีข้าไม่สนใจ”
ซือถูจิ้งรู้ว่าในใจนางทั้งรักทั้งเกลียด ความรู้สึกแบบนี้ทำให้ทรมานมาก “หลีโม่ เจ้าพานางไปเถอะ”
“อืม” หลีโม่ตอบคำ
นางพาโหรวเหยาไป เย็นเอ๋อร์กำลังถือน้ำออกมาพอดี หลีโม่ถามว่า “ฟื้นขึ้นมาหรือยัง?”
“ยังเลยค่ะ หมอหลวงยังอยู่ข้างใน”
“เจ้าตักน้ำล้างหน้าให้นางหรือ?”
“ใช่ค่ะ บ่าวตักน้ำอุ่นมาช่วยเช็ดหน้าให้นาง อบอุ่นมือให้นางด้วย”
“ดี เจ้าไปเถอะ” หลีโม่ให้เย็นเอ๋อร์เดินออกไป
โหรวเหราพูดอย่างเหน็บแนมว่า “คนชั่วอย่างนาง ยังมีคนสงสารนาง หลีโม่ ไม่รู้จะด่าว่าเจ้าโง่ดีหรือปัญญาอ่อนดี”
หลีโม่พูดพร้อมกับหัวเราะว่า “ตอนนี้ข้าเผชิญหน้ากับผู้ป่วย ข้าเป็นหมอ ไม่มีสถานะอย่างอื่น เย็นเอ๋อร์เป็นคนของข้า ก็เป็นเหมือนข้าเหมือนกัน เมื่อตอนที่ข้าไม่เป็นหมอแต่เป็นคู่ต่อสู้ เจ้าจะเห็นว่าข้าไม่ได้โง่และไม่ได้ปัญญาอ่อน”
โหรวเหยาไม่พูดอะไร เดินเข้าไปเบาๆ
มองเห็นคนบนเตียงที่สีหน้าไร้ชีวิตชีวา น้ำตาของนางก็ไหลออกมา นางพยายามเช็ดให้หมด อธิบายอย่างวุ่นวายว่า “ที่จริงข้าก็ไม่ได้เสียใจอะไร ข้าไม่มีความรู้สึกกับนางตั้งนานแล้ว ระหว่างความเป็นพี่น้องถูกตัดขาดตั้งแต่แรก แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เห็นนางในสภาพแบบนี้ น้ำตาก็อดกลั้นไว้ไม่ไหว”
หลีโม่เข้าใจ ก็เหมือนในภพปัจจุบัน นางไม่เคยเห็นพ่อของตัวเอง แต่รู้ว่าเขาเป็นใคร เมื่อได้ข่าวการตายของเขา ที่จริงในใจก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่น้ำตากลับอดทนไว้ไม่ไหว ร้องไห้อยู่ตั้งนาน
“เจ้านั่งอยู่ทีนี่สักพักนะ ข้าออกไป”
หลีโม่เพิ่งออกไปจากประตูไป ก็เห็นต้าจินองครักษ์ของอ๋องเหลียงมา
“พระฉายา อ๋องเหลียงรับสั่งให้ท่านไปเข้าเฝ้าที่ห้องทรงพระอักษร”
“มีเรื่องอะไรหรือ?” หลีโม่ถาม
องครักษ์ต้าจินพูดว่า “คนร้ายสองคนนั่นทนรับการทรมานไม่ไหว ยอมรับสารภาพแล้ว ว่าใครเป็นผู้บ่งการอยู่เบื้องหลัง”
หลีโม่ดูเหมือนพูดออกมาอย่างไม่รู้ตัวว่า “ยอมรับสารภาพแล้ว? พวกเขาไม่ได้ยอมรับสารภาพว่าข้าองค์หญิงเป็นคนอยู่เบื้องหลังใช่ไหม?”
องครักษ์ต้าจินอึ้งไป “ไม่ใช่”
หลีโม่โล่งอกไปที “ไม่ใช่? งั้นก็ดี”
อ๋องเหลียงพูดขึ้นอย่างโกรธเคืองว่า "รู้แบบนี้ตอนที่จับสองคนนั้นได้ ข้าจะฆ่าให้ตายตอนนั้นเลย
อ๋องเย่พูดอย่างเรียบเฉยว่า “คนเยอะวุ่นวาย เจ้าจะฆ่าก็ฆ่าไม่ได้หรอก คนอื่นวางแผนอุบายรอนางอยู่แล้ว ครั้งนี้ไม่สำเร็จก็ยังมีครั้งต่อไป”
“แต่เปากงกงไปรายงานฮ่องเต้แล้ว นี่เป็นเรื่องที่มีผู้ร้ายบุกรุกวังหลวง ด้วยนิสัยของฮ่องเต้ เกรงว่าจะปล่อยให้สงบไปง่ายๆไม่ได้แน่”
อ๋องเย่พูดอย่างราบเรียบว่า “วางใจได้ ตอนนี้ท่านพ่อของเจ้าจะยังไม่ลงโทษพี่สะใภ้ ยังต้องให้พี่สะใภ้รักษาอาการป่วยของเขาอยู่ไม่ใช่หรือ?”
“ถึงจะพูดเช่นนี้ แต่ก็จะทำเป็นว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นคงไม่ได้” อ๋องเหลียงรู้จักนิสัยของฮ่องเต้ดี เป็นจักรพรรดิมาตั้งหลายปี และความเป็นพ่อลูกสายเลือดเดียวกัน จะไม่รู้ได้ยังไง?
สีหน้าอ๋องเหลียงเงียบสงบ “จะยังไงก็ได้ ขอเพียงไม่ทำลายถึงชีวิตก็พอ ตอนนี้ได้ส่งคนออกไปหมดแล้ว คิดว่าเช้าวันมะรืนนี้ก็จะมีข่าวกลับมาแล้ว”
ในใจหลีโม่กระตุกขึ้นมาทันที เงยหน้ามองดูอ๋องเย่ “อ๋องเย่ เจ้าเรียกคนกลับมาก่อนไหม ยังจะฆ่าอ๋องหนานหวยไม่ได้”
อ๋องเย่มองดูนางอย่างสงสัย “ทำไม?”
“ข้าไม่แน่ใจว่าแม่พิษหนอนใช่กุ้ยไท่เฟยหรือไม่ หากแม่พิษหนอนเป็นอ๋องหนานหวย งั้นเหล่าชีก็จะตกอยู่ในอันตราย”
“แต่ก่อนหน้านี้ได้ทดสอบแล้วไม่ใช่หรือ?” อ๋องเย่พูด
“ใช่...” ตอนนี้หลีโม่ก็ไม่มีหลักฐานอะไรที่จะสามารถพูดโน้มน้าวสองคนนี้ได้ เพียงแต่รู้สึกไม่สบายใจ รู้สึกว่าเรื่องราวไม่น่าจะง่ายขนาดนั้น
“วางใจเถอะ แม่พิษหนอนน่าจะเป็นกุ้ยไท่เฟยนั่นแหละ” อ๋องเหลียงพูดขึ้น “ข้าได้ข่าวมาว่า เพราะเหตุนี้อ๋องหนานหวยยังกล่าวโทษซุนฟางเอ้อร์ ครั้งแรกซุนฟางเอ้อร์ก็ถูกทำร้ายแล้ว น่าจะเป็นเพราะเรื่องนี้ อ๋องหนานหวยมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก รับไม่ได้กับการถูกหักหลัง”
หลีโม่พูดว่า “ไม่ ซุนฟางเอ้อร์ไม่ได้ถูกคนของอ๋องหนานหวยฆ่า แต่เป็นกุ้ยไท่เฟยที่ฆ่านาง”
“พวกเขาสองแม่ลูกเป็นพวกงูเห็นนมไก่ ไก่เห็นตีนงู ใครฆ่าก็ไม่เหมือนกันหรือ? อีกอย่างก่อนหน้านี้ก็ได้เคยพิสูจน์แล้ว แม่พิษหนอนได้ถูกทอนพิษไปแล้ว ที่จริงแม่พิษหนอนถูกถอนแล้ว ลูกพิษหนอนก็จะไมกำเริบ” อ๋องเหลียงพูด
เรื่องราวไม่ง่ายแบบนั้นแน่ เป็นไปไม่ได้ที่จะง่ายขนาดนี้ ในใจหลีโม่ยิ่งอยู่ยิ่งไม่สงบ เพราะแม้แต่อ๋องเย่กับอ๋องเหลียงต่างก็คล้อยตามที่กุ้ยไท่เฟยวางไว้แล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...