พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 520

บทที่ 520 ใครเป็นไส้ศึก

หมุยเฟยกลับยังส่ายหัว “ไม่ อ๋องเย่ ต่อให้เจ้าฆ่าข้า ข้าก็ยังคงพูดอะไรไม่ได้ หลีโม่ไม่ตาย องค์ชายสามก็จะต้องตาย ข้าต้องแข็งใจในครั้งนี้สักครั้ง”

“เจ้า...” อ๋องเย่โกรธจนจะเป็นบ้า “เจ้าไม่พูด เกิดอะไรขึ้นกับอาสะใภ้เจ็ด เจ้าคิดว่าพวกเจ้าทั้งสองแม่ลูกยังจะสามารถมีชีวิตรอดหรือ?”

“ข้าพูดไม่ได้ ฆ่าข้า ข้าก็ไม่พูด” หมุยเฟยยังคงดื้อรั้น

องค์ชายสามยืนขึ้น ถอยหลังไปสองก้าว ลูบใบหน้าที่เปื้อนน้ำตา แล้วพุ่งไปตรงหน้าโต๊ะหยิบกรรไกรมาจ่อตรงคอ

หมุยเฟยโกรธจนขวัญหนีดีฝ่อ “ลูก เจ้าทำอะไร? รีบวางลง”

องค์ชายสามมองดูหมุยเฟย พูดอย่างอ้อนวอนว่า “ท่านแม่ ท่านสอนลูกมาตลอดว่า ต้องรู้จักกตัญญูรู้คุณ ท่านอาสะใภ้เจ็ดดีกับพวกเรามาก เมื่อก่อนท่านเคยทำร้ายนาง นางยังไม่คิดแค้นเจ้า ช่วยเหลือเราสองคนแม่ลูกมาตลอด หากไม่มีนาง พวกเราต้องถูกทำร้ายจนตายไปนานแล้ว ตอนนี้ นางต้องใช้ชีวิตของนางเพื่อแลกกับชีวิตของลูก ลูกมีชีวิตอยู่ก็เป็นเพียงคนเลวที่เนรคุณ ท่านอาเจ็ดสั่งสอนลูก เป็นผู้ชาย ต้องมีใจที่กว้างเหมือนฟ้า ปกป้องญาติมิตรของตน ลูกตายเสียยังดีกว่า”

พูดเสร็จ มือออกแรง ตรงคอก็เป็นรอยมีเลือดไหลออกมา หมุยเฟยตกใจกลัวจนตะโกนร้องไห้ออกมา “เจ้าวางลง เจ้าวางลง แม่พูด แม่พูดทุกอย่าง”

นางล้มนั่งลงกับพื้น พูดพร้อมกับร้องไห้ว่า “หลังจากคืนนั้นที่มีคนร้ายบุกเข้ามา กุ้ยไท่เฟยหายสาบสูญภายในวัง ทีแรกข้าก็คิดว่าเรื่องราวผ่านไปแล้ว ทุกอย่างจะดีขึ้น คิดไม่ถึงว่า นางกำนัลคนสนิทของข้าเสี่ยวชิงกลับวางยาพิษองค์ชายสาม บีบบังคับข้า ให้ข้าพาหลีโม่ไปยังดอยวัดเจิ้นโก๋ หากทำสำเร็จ ก็จะให้ยาถอนพิษแก่ข้า หากล้มเหลว พิษองค์ชายสามก็จะกำเริบภายในเจ็ดวันมีเลือดไหลออกทั้งเจ็ดทวารจนตาย”

“ดังนั้น เจ้าก็เลยพูดกับอาสะใภ้เจ็ดว่า เจ้าจะพาองค์ชายสามไปไหว้พระ เจ้ามั่นใจว่ายังไงอาสะใภ้เจ็ดก็ต้องไม่วางใจ จะต้องตามไปแน่ แล้วก็จัดการลงมือระหว่างทาง?”

“พวกเขาลงมือยังไง?” อ๋องเย่ถาม

หมุยเฟยพูดว่า “เพราะรถม้าขึ้นดอยไม่ได้ พวกเราก็เลยหาไกด์มานำทางพวกเรา ไกด์พวกนั้นก็เป็นคนของกุ้ยไท่เฟย พาพวกเราไปในป่าทึบ ในป่าทึบเต็มไปด้วยควันพิษ พวกเราถูกพิษกันทั้งหมด หลีโม่กับเตาเหล่าต้าถูกพาตัวไป ตอนที่ข้าฟื้นขึ้นมา เสี่ยวชิงก็อยู่ข้างกายข้า นางให้ข้าทานยาถอนพิษ และจัดเตรียมเกี้ยวไว้ บอกว่าให้ข้าไปอยู่บนเขาสองชั่วโมง”

“เสี่ยวชิง?” อ๋องเย่พูดเสียงเยือกเย็น “นางกำนัลคนที่ขวางข้าอยู่หน้าประตูเมื่อกี้?”

“ใช่” หมุยเฟยร้องไห้อย่างสิ้นหวัง “นางเป็นคนที่ข้าไว้ใจที่สุด กลับคิดไม่ถึงว่า นางจะเป็นไส้ศึกที่กุ้ยไท่เฟยส่งเข้ามา”

“หลิงลี่ จับตัวเสี่ยวชิงคนนั้นมา” อ๋องเย่ตะโกนออกไปหนึ่งที

“รับทราบ เจ้านาย” หญิงสาวสองคนรีบออกไป สักพัก ก็จับตัวเสี่ยวชิงโยนเข้ามา

อ๋องเย่โน้มตัวลง จับหน้าเสี่ยวชิงบีบบังคับให้นางเงยหัวขึ้น “รูปร่างหน้าตาก็ดี เพียงแค่ตามเจ้านายผิดคน”

เสี่ยวชิงไม่เกรงกลัวเลยสักนิด หัวเราะพร้อมพูดว่า “หากอ๋องเย่สงสารบ่าว...”

คำว่า “บ่าว” ยังพูดไม่จบ ก็เห็นใบหน้าที่ดื้อรั้นของนาง มีเหล็กบินลอยออกมาจากปากของนาง พุ่งตรงไปยังระหว่างคิ้วของอ๋องเย่

ได้ยินเพียงเสียง “หวงตัง” หนึ่งที อ๋องเย่ใช้มือรับไว้ เหล็กผ่านทะลุเข้าไปตรงฝ่ามือ เสี่ยวชิงหัวเราะอย่างโหดร้าย “เหล็กนี้มีพิษ ภายในครึ่งชั่วโมงหากไม่มียาถอนพิษ เจ้าก็จะตาย รีบส่งข้าออกจากวัง ข้ารับรองว่าเจ้าจะไม่ตาย”

องค์ชายสามได้ยินเช่นนี้ พุ่งตรงเข้ามา ตบหน้านางอย่างแรงสองที “รีบเอายาถอนพิษออกมา”

เสี่ยวชิงหัวเราะเยาะ “องค์ชายสาม ตัวเจ้าเองยังเอาตัวไม่รอด ยังจะคิดถึงคนอื่น?”

เจ้า...” หางตาองค์ชายสามโกรธจัด ถึงแม้จะแค่สิบขวบ แต่ความโกรธที่มีเดือดพล่านไปทั้งตัว แลดูน่าเกรงขาม “ทหาร คนที่พักของนาง ค้นตัวนาง หายาถอนพิษออกมาให้ได้”

เสี่ยวชิงพูดขึ้นอย่างเยาะเย้ยว่า “เวลามีไม่มากแล้ว หากอ๋องเย่ไม่อยากตาย ก็รีบพาข้าออกจากวัง”

อ๋องเย่ยิ้มขึ้นมา รอยยิ้มเจ้าเล่ห์มาก เห็นเขายกมือขึ้น เหล็กนั้นแทงผ่านทะลุเข้าไปในฝ่ามือของเขา เพียงแต่ไม่เห็นมีเลือดไหล

“เอามาอีกเม็ด ใส่ลงไปในน้ำ” อ๋องเย่สั่ง

หลิงลี่เทน้ำมาหนึ่งแก้ว เอายาโยนลงไป น้ำใส่มาก แล้วค่อยๆขุ่น อ๋องเย่มองดูแป๊บหนึ่ง เอาขึ้นมาดม “อืม เป็นยาถอนพิษ เอาไปให้เขาดื่ม”

ปกติยาพิษจะไร้สีไร้รส แต่ยาถอนพิษกลับไม่เหมือนกัน เพราะยาถอนพิษกว่าครึ่งทำขึ้นมาจากยาสมุนไพร ส่วนมากจะมีรสชาติ

หลังจากที่องค์ชายสามดื่มยาถอนพิษลงไปแล้ว สักพัก ริมฝีปากที่เป็นสีดำก็ค่อยๆจางลง หางตาที่เป็นสีแดงก็ค่อยๆหายไป หมุยเฟยกอดเขาไว้แล้วก็ร้องไห้เสียงดัง

อ๋องเย่พูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชาว่า “หากเจอปัญหาแล้วมาปรึกษากับข้าหรืออาสะใภ้เจ็ด ที่จริงก็เรื่องแค่นี้เอง หมุยเฟยไม่เชื่อถือพวกเราเลย”

หมุยเฟยรู้สึกผิดมาก “ข้าผิดไปแล้ว ตอนนั้นข้าทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี นางสารเลวนั่นก็พูดว่ายาพิษร้ายแรงขนาดไหน ข้าก็เลยปล่อยให้นางทำตามอำเภอใจ”

อ๋องเย่เมินหน้า สั่งหลิงลี่ว่า “ออกไปเค้นถามอีก กุ้ยไท่เฟยติดต่อนางยังไง จับอาสะใภ้เจ็ดไปขังไว้ที่ไหน”

“รับทราบ” หลิงลี่ก็ออกไปอีกครั้ง

สักพัก นางกลับมารายงานว่า “กุ้ยไท่เฟยส่งคนมาติดต่อนาง แต่นางไม่รู้ว่าคนต้นทางอยู่ที่ไหน เป็นคนส่วนไหนของในวัง บีบทางอีกคนก็สิ้นลมหายใจแล้ว”

อ๋องเย่ขมวดคิ้ว “งั้นก็หมายความว่ายังไม่รู้ว่าอาสะใภ้เจ็ดถูกขังอยู่ที่ไหน”

“ข้าน้อยไร้ความสามารถ” หลิงลี่พูดอย่างเสียใจ

“ไม่เป็นไร ยังมีคนรับช่วงต่ออีกคน” อ๋องเย่หัวเราะอย่างเยือกเย็น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม