พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 634

บทที่ 634 ฉู่จิ้งผู้อำมหิต

องค์หยิงอานสงบสติ แล้วพูดว่า “หลังจากที่พวกเจ้ากลับมาแล้วสามวัน ฮองเฮาหวางก็สิ้นแล้ว ฉินโจวเป็นคนฆ่านาง”

“อะไรนะ?” ทุกคนตกใจ

หลีโม่ส่ายหัว “ข้าไม่เชื่อ ไม่ว่ายังไงฉินโจวก็ไม่มีทางฆ่าฮองเฮาเด็ดขาด” กว่าแผ่นดินจะสงบสุขไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ฉินโจวจะก่อเรื่องในเวลาแบบนี้ได้ยังไง? ฆ่าฮองเฮา นี่เป็นความผิดสถานหนัก ฮ่องเต้ก็ปกป้องนางไว้ไม่ได้

“มีพยานหลักฐานแน่นหนา” องค์หญิงอานพูดอย่างหนักใจ

“ใครคือพยาน? แล้วหลักฐานคืออะไร?” หลีโม่ถาม

องค์หญิงอานมองดูแววตาทุกคนที่ค่อนข้างตกใจ จึงพูดขึ้นอย่างขมขื่นว่า “พยานคือฉินเหลาไท่ไท่ ส่วนหลักฐานเป็นดาบประจำตัวของฉินโจว และจับได้ในที่เกิดเหตุ”

หลีโม่กับซือถูเย้นมองหน้ากัน เห็นทีเมื่อกี้ที่สงสัยกันนั้น มีความเป็นไปได้สูงมาก

องค์หญิงอานถอนหายใจ แล้วเล่าเรื่องทั้งหมดว่า

“วันนั้น ฮองเฮามีรับสั่งเหลาไท่ไท่ตระกูลฉินเข้าวังมาแต่เช้า เพราะได้แต่งตั้งให้เหลาไท่ไท่ตระกูลเป็นก้าวหม้งชิ้นหนึ่ง ดังนั้นเหล่าไท่ไท่เข้าวังมาเพื่อถวายความขอบคุณ ในราชโองการไม่ได้มีรับสั่งให้ฉินโจวเข้าวังไปด้วย แต่เหลาไท่ไท่ตระกูลฉินต้องการให้ฉินโจวไปด้วย หลังจากเข้าวังไปแล้ว ก็ไปยังตำหนักหยีซวนของฮองเฮา ได้ยินว่ายังเรียกไท่เฟยไปด้วยอีกหลายคน ต่อมาฉินโจวกับฮองเฮาหวางทะเลาะกันเรื่องงานแต่งงานกับตระกูลหลง สุดท้ายฉินโจวก็ชักดาบแทงฮองเฮาหวางจนตายทันที”

หลีโม่ถอนหายใจ “เจ้าหมายความว่า ยังมีไท่เฟยอีกหลายคนเห็นฉินโจวฆ่าคนต่อหน้าต่อตา?”

“ไท่เฟยไม่เห็นกับตา เป็นเหลาไท่ไท่ที่เห็น เพราะตอนที่ทะเลาะกัน เหลาไท่ไท่ตระกูลฉินเชิญฮองเฮากับฉินโจวเข้าไปด้านใน ว่ามีเรื่องส่วนตัวจะคุย แต่หลังจากที่เขาไปแล้ว ฉินโจวยังโกรธมาก ตะโกนด่าอยู่ตลอดเวลา ไท่เฟยพวกนี้ต่างก็ได้ยิน ต่อมาก็ได้ยินฮองเฮาหวังกริ๊ดร้อง เมื่อตอนที่มีคนวิ่งเข้าไป ฮองเฮาหวางก็ตายแล้ว”

“เป็นไปไม่ได้เลย” หลีโม่พูด “ฉินโจวกับฮองเฮาหวางทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไรกันแน่?”

“เป็นเรื่องงานแต่งของฉินโจว ฮองเฮาหวางบอกว่าแม่ทัพใหญ่หลงมาหานาง ให้นางช่วยออกราชโองการให้ฉินโจวกับเหลนตระกูลหลงแต่งงานกัน ฉินโจวไม่ยอม ฮองเฮาหวางจึงพูดว่า อ๋องอิงจุ้นอคติต่อหลานของแม่ทัพใหญ่หลงขนาดนี้ หรือว่าคิดอยากเป็นหงส์? ฉินโจวจึงโกรธมาก ไม่สนใจสถานะ กระทบกระทั่งกับฮองเฮาหวาง ฮองเฮาหวางมีสถานะสูงส่ง อดทนยอมได้ที่ไหน? จึงด่าไปหลายที ปกติฉินโจวก็เป็นคนใจร้อนอยู่แล้ว รู้ว่าฮองเฮาคิดอยากที่จะให้นางกับฮ่องเต้บาดหมางกัน เพราะคำพูดพวกนี้ไม่เหมาะสมที่จะพูดต่อหน้าไท่เฟย เหลาไท่ไท่ตระกูลฉินอยู่ในเหตุการณ์ ก็โกรธแล้วก็ตบฉินโจวไปหนึ่งที จับตัวนางแล้วก็พาเข้าไปสั่งสอนภายในห้อง แล้วก็เชิญฮองเฮาหวางเข้าไปให้ฉินโจวขอโทษ แต่หลังจากที่เข้าไปแล้ว ฮองเฮาหวางกลับพูดจาเสียดสีเหน็บแนม ดังนั้นฉินโจวจึงฆ่าฮองเฮาหวาง...”

ซือถูเย้นฟังแล้วก็รู้ปัญหาแล้ว “นั่นก็หมายความว่า คนที่เห็นฉินโจวฆ่าคน มีเพียงเหลาไท่ไท่ตระกูลฉิน?”

“ใช่ แต่เหลาไท่ไท่ตระกูลฉินก็ไม่น่าที่จะโกหกมั้ง? นั่นเป็นถึงหลานรักของนางนะ” องค์หญิงอานพูด

ซือถูเย้นพูดขึ้นอย่างเชื่องช้าว่า “ใครจะไปรู้?”

องค์หญิงอานเงียบ มองดูซือถูเย้น เห็นท่าทางเขาเปลี่ยนไป แล้วก็ครุ่นคิดขึ้นมา

หลีโม่ถามว่า “องค์หญิง ตอนนี้ฉินโจวเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ฉินเหลาไท่ไท่มัดนางเองกับมือ ส่งไปขังในคุกหลวงแล้ว และในราชสำนัก ฉินเหลาไท่ไท่คุกเข่ายอมรับผิดด้วยตัวเอง บอกว่าตัวเองอบรมสั่งสอนไม่ดี ที่มีหลานโหดเหี้ยมแบบนี้ ขอฮ่องเต้ลงโทษตระกูลฉิน ยังบอกว่าให้ปลดฉินโจวออกจากการเป็นทหาร แล้วลบออกจากบัญชีทหาร”

ซือถูเย้นพูดขึ้นอย่างเยือกเย็นว่า “หากไม่มีชื่อในบัญชีทหาร ก็จะไม่สามารถมีอำนาจสั่งการทหารได้อีก เหลาไท่ไท่เล่นได้ไม่เลวจริงๆ”

องค์หญิงอานถอนหายใจ “ที่จริง ข้าเองก็รู้สึกว่าสถานการณ์ตอนนั้นราบรื่นเกินไป ดังนั้น จึงคอยระวังมาตลอด เพียงแค่รู้สึกว่าถึงแม้เรื่องราวจะไม่ชอบมาพากล แต่ก็สืบไม่ได้ความอะไร แต่ฉินเหลาไท่ไท่ คนคนหนึ่งปกติที่ไม่สนใจอะไร กลับกระตือรือร้นขึ้นมากะทันหัน ตอนนั้นข้าก็รู้สึกแปลกใจแล้ว ยังมีหลิวซีปกติเป็นคนดูแลฉู่โยว่มานานหลายปี เป็นคนที่ตอนนั้นฮองไทเฮาประทานให้กับฉู่โยว่ ที่จริง รอบตัวองค์ชายองค์หญิงล้วนมีคนของฮองไทเฮา ข้างกายข้าก็มี เพียงแต่หลังมาถูกข้าไล่ออกไปแล้ว หากฮ่องเต้ยังไม่ตาย ยังอยู่ไนวัง งั้น...”

องค์หญิงอานพูดเองอยู่แท้ๆแล้วก็รู้สึกกลัว พูดต่อไปไม่ไหว

หลีโม่ถามขึ้นอย่างสงสัยว่า “หากฉู่จิ้งยังไม่ตาย ต้องสร้างเรื่องใหญ่ขนาดนี้ จุดประสงค์ก็เพียงเพื่อลดอำนาจการสั่งการของฉินโจวหรือ?”

หลีโม่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ จะต้องมีอะไรที่ยังคิดไม่ถึงแน่

หัวสมองซือถูเย้นกลับเหมือนถูกหินไฟสะกิด พูดขึ้นเสียงดังว่า “ไม่ ไม่เพียงแค่นี้แน่ ฮ่องเต้คังผิงเซ็นสัญญาลงนามสงบศึกกับพวกเรา พวกเรากลับมาแล้ว ในขณะเดียวกัน เซียวเซียวก็ถอนทัพแล้ว”

หลีโม่ลุกขึ้นยืน สีหน้าขาวซีด “ใช่ เซียวเซียวถอนทัพแล้ว ตอนนี้ฉินโจวก็ติดคุก อำนาจการสั่งการทหารก็จะตกอยู่ในมือของฉินเหลาไท่ไท่กับแม่ทัพใหญ่หลง หากในตอนนี้ ยกทัพไล่ตามมา ฆ่าพวกเราอย่างไม่ทันตั้งตัว ต้าโจวของเรา จะต้องย่อยยับแน่”

ซูชิงก็พูดขึ้นพร้อมด้วยสีหน้าขาวซีด “ใช่ หากพวกเราไม่รู้ถึงกลอุบายนี้ หอบสัญญาสงบศึกนี้กลับประเทศ แล้วคิดว่าชายแดนสงบสุข จะเหลือทหารไปสอดแนมที่ไหน? ถึงตอนนั้นข้าศึกบุกมาถึงเมืองแล้วพวกเรายังไม่รู้ตัวเลย”

ซือถูเย้นตบโต๊ะหนึ่งที พูดขึ้นอย่างโกรธเคืองว่า “เป็นแผนการที่อำมหิตมาก”

หล๊โม่ก็โกรธอย่างที่สุด แต่ก็อดที่จะไม่ชื่นชมฉู่จิ้งไม่ได้ วิธีการแกล้งตายแบบนี้ แม้แต่ตำแหน่งฮ่องเต้ของตัวเองยังทิ้งได้ชั่วคราว ก็เพื่อที่จะได้ครอบครองต้าโจว ความทะเยอทะยานของเขา เอาชนะได้ทุกอย่าง หากประสบความสำเร็จ ต้าโจวจะไม่ใช่เป้าหมายสุดท้ายของพวกเขา

และหากพวกเขาเอาสัญญาสงบศึกนี้กลับไป ทั้งประเทศชะล่าใจ ถึงตอนนั้นกองกำลังทหารเป่ยม่อบุกมา พวกเขาก็จะกลายเป็นคนบาปของต้าโจว ไปตลอดชีวิต

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม