พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 644

บทที่644 ฮองเฮาและฮองไทเฮา

รถม้าได้มาถึงที่ประตูของตำหนักเพื่อตระเตรียมไว้ตั้งนานแล้ว หลีโม่สั่งให้คนไปมัดตัว เหลียงมามา แล้วพาเข้าวังไปพร้อมกัน

ในตำหนักหยันสี่ ฮองไทเฮาที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งได้ตื่นบรรทมมาตั้งแต่เช้าตรู่

เมื่อวานนี้นางได้รับข่าวว่า พระชายาอ๋องซื่อเจิ้งได้กลับมาแล้ว

ได้ดูแลฉากละครในหลายวันมานั้น นับว่าเป็นการเปิดประเดิมขึ้น นางตั้งหน้าตั้งตารอคอยเป็นอย่างที่สุด

คนทั่วทั้งพระราชวังก็ได้วุ่นวายกันมาตั้งแต่เวลาเช้าตรู่ ฮองไทเฮามีความคุ้นชินอยู่อย่างหนึ่ง คือเมื่อลุกขึ้นมาในตอนเช้าแล้วจะต้องอาบน้ำ น้ำที่เตรียมไว้สำหรับอาบนั้นก็จะต้องมีกลีบดอกไม้โปรยเอาไว้ หลังจากล้างปากก็ต้องใช้น้ำนมแพะและรังนกที่ตุ๋นเป็นเวลาสองชั่วยามมากลั้วให้ชุ่มคอ แป้งหอมก็ต้องใช้แป้งจากดอกไป๋จื่อของร้านหญ่าเกา ซึ่งมีราคาที่แพงมหาศาล

ในช่วงก่อนหน้าสมัยที่ยังเป็นพระชายา วังหลังก็เคยตัดรายจ่ายออก ค่าใช้จ่ายของนางก็ลดลงไปด้วย บัดนี้ได้เป็นฮองไทเฮา การควบคุมดูแลวังหลังเป็นของนางและหูฮวนหลิง ดังนั้นปริมาณการใช้จ่าย ก็หรูหรามากขึ้นกว่าแต่ก่อนเป็นหลายเท่าตัว

อีกทั้งฝั่งครอบครัวเดิมของฮวนหลิงล้วนเป็นผู้มีเงิน ในช่วงนี้ก็มอบให้เป็นบรรณาการต่อนางไม่น้อย ด้วยเหตุนี้เอง ถึงแม้นางจะบอกว่ารู้สึกพึงพอใจต่อหูฮวนหลิง แต่ลึก ๆ แล้วนั้นกลับหาได้อยู่ในสายตาไม่ ในเมื่อจริง ๆ แล้วเป็นหญิงที่ทำการค้าขาย ก็จะรู้จักละครพวกนี้ที่ต้องประจบประแจงเอาอกเอาใจเป็นอย่างดี

หญิงรับใช้ดูแลของ ตำหนักหยันสี่ ในมือของหรูหรงได้จับหวีที่ทำจากกระดูกแรดที่ แคว้นชิง ได้ส่งมาเป็นของบรรณาการค่อย ๆ บรรจงหวีให้กับฮองไทเฮา จากที่จ้องมองภายในกระจกก็เห็นได้ว่าอายุราว ๆ หกสิบปีเห็นจะได้ ในช่วงหลายปีมานี้ จวนจิ้งโก๋วเหาก็ได้ส่งมอบเงินมาให้ไม่น้อย มอบไว้ให้นางเอาไว้จัดแจงและใช้สอย โดยที่ส่วนใหญ่นางใช้ไปเพื่อการบำรุงปรนเปรอตัวเอง ดังนั้น จากท่าทางหน้าตาแล้วเลยทำให้ดูอายุอานามเพียงแค่ห้าสิบปีเท่านั้น

เพียงแค่ว่ายิ้มไม่ได้ เพราะว่าถ้ายิ้มละก็ รอยตีนกาที่อยู่บริเวณปลายหางตาจะยิ่งดูเห็นได้ชัดขึ้น

“ฮองไทเฮานี่ยิ่งพิศดูไปก็ยิ่งงดงามนะเพคะ” หรูหรง ดูแลรับใช้นางมาสิบกว่าปี รู้ว่านางชอบที่สุดก็คือการได้ยินคนพูดเยินยอที่รูปโฉมของนาง

ฮองไทเฮายกมือขึ้นกดบริเวณหางตา แล้วก็ถอนหายใจพร้อมกับพูดว่า “คนที่ก็ร่วงโรยไปตามกาลเวลาจริง ๆ ในตอนที่ข้ายังเป็นสาว คนมาขอแต่งงานถึงบ้าน ทำเอาเสียจนประตูของจวนจิ้งโก๋วเหาต้องพังลง ตอนนี้ข้ายังจำได้ ฮ่องเต้องค์เก่าเมื่อครั้งแรกที่ได้พบข้า ดวงตานั้นก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง ถ้าไม่ใช่เพราะว่าในภายหลัง พวกนางจิ้งจอกร้อยเล่ห์พวกนั้น …… เอาเถอะ ๆ ล้วนก็ผ่านไปแล้ว”

นัยน์ตาที่มีความคั่งแค้นใจพลุ่งพล่านก็ค่อย ๆ สงบลง จ้องมองเงาของตัวเองภายในกระจกด้วยความภาคภูมิใจ ซุนไท่เฮาเมื่อเทียบกับนางนั้น ยังนับว่าห่างกันอีกหลายขุม

เงียบไปพักหนึ่ง นางก็พูดขึ้นว่า “ข้าได้ยินมาว่าพระชายาอ๋องซื่อเจิ้งเป็นหญิงงามบอบบาง ไม่รู้ว่าหากมาเทียบกับข้าในสมัยสาว ๆ นั้น จะห่างไกลแค่ไหน?”

“ว่าไปตามจริงแล้วเทียบไม่ได้กับฮองไทเฮาเลยเพคะ” นางกำนัลในตำหนักที่คอยดูแลเดินยิ้มปรี่เข้ามา พร้อมกับถือถือชุดของฮองไทเฮาเอาไว้อยู่ในมือ

ฮองไทเฮาพูดขึ้นด้วยเสียงราบเรียบ “ก็เพราะว่า ไอ้เจ็ด ไม่รู้ความ แต่งเอาสะใภ้เข้ามา โดยที่ไม่ได้พามาให้ข้าดูเลยสักนิด พูดไปแล้ว จริง ๆซุนไท่เฮานี่ก็ไม่รู้จักมารยาท ถ้าหากว่าเป็นคนที่รอบรู้สักหน่อย พระชายาในพระราชวังนี่ไม่ต้องเข้ามาเยี่ยมทำความเคารพนางอย่างเป็นทางการด้วยตนเอง?ไม่ว่าจะอย่างไร ก็เป็นถึงพระชายาของฮ่องเต้องค์ก่อน เหยียบเข้ามาอยู่ข้างกาย ไอ้เจ็ดเองไม่ต้องเรียกหรอว่าเสด็จแม่รอง?”

กล่าวขึ้นด้วยใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุขว่า “ฮองไทเฮาอย่าได้พิโรธไป เมื่อก่อนไม่ได้ก้มหัวให้กับพระองค์ วันนี้ไม่ควรที่จะต้องแก้ไขชดเชยให้หรือ?ทำตามมารยาทของฮองไทเฮา จะว่าไปแล้ว เหลียงมามาเป็นคนที่ทำเรื่องต่าง ๆ ได้ดี นางออกตัว คิดว่าพระชายาผู้นั้นก็ไม่สามารถสนับสนุนได้ สำแดงอำนาจให้นางได้ประจักษ์เสีย วันนี้เข้าวังมาถวายความเคารพ นางเองก็ต้องมานอบน้อม พระองค์เองก็ได้อยู่ต่อเบื้องหน้าขององค์หญิงพระชายา เอาให้นางได้หลาบจำ”

ฮองไทเฮาค่อย ๆ พูดขึ้น “ข้าเองก็ไม่ได้อยากสร้างความลำบากให้กับนาง เพียงแค่ว่าพระชายาของอ๋องซื่อเจิ้ง หากไม่ได้มีมารยาท ขนบธรรมเนียมของต้าโจวเห็นทีจะโดนนางทำให้เสียชื่อไหม?เมื่อก่อนข้าเองก็คุ้นเคยกับนายหญิงแก่ของจวนเฉิงเสี้ยง รู้ว่านางไม่ใช่คนแบบนั้น เสี้ยหลีโม่ทำเกินไปหน่อยแล้วจริง ๆ ”

“เห็นแล้วช่างน่ารำคาญใจ” ฮวนหยานทำปากจึ้กจั้ก “บัดนี้ชาวบ้านในเมืองหลวงก็พูดว่านางดี ไม่ใช่หรือ?ในตอนนั้นฝ่าบาททรงประชวรหนัก นางเองก็มีท่านอ๋องหนุนหลัง จะมีชื่อเสียงดี ๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างนั้นหรือ?ข้าน้อยเองมีความรู้น้อย ไม่รู้ว่าเป็นลูกสาวเป็นหลานสาวอย่างไร เพื่อสถานะที่สูงส่งและร่ำรวย ถึงได้ทำร้ายคนในครอบครัวตัวเอง ได้ยินมาว่าแม่เลี้ยงของนางนายหญิงหลิงหลงและน้องเลี้ยงเสี้ยโล่เยว่ก็ถูกนางทำเสียจนไม่เป็นผู้เป็นคน”

“ได้ยินมาว่าวันนี้พระชายาซื่อเจิ้งก็เข้าวังหลวงมาถวายความเคารพ เหนียงเหนียงนับว่าท่านจะได้เจอกับคนผู้นี้เข้าให้แล้วเพคะ ”หญิงกำนัลผู้ดูแลตำหนักจิ่งหนิงหงซางได้จัดแจงชุดของนางให้เรียบร้อย พูดขึ้นอย่างอมยิ้ม

“อืม ข้าเองก็อยากพบนางเป็นอย่างยิ่ง เมื่อก่อนเคยได้ยินฮวนซีพูดถึงนาง ว่าเป็นคนที่โดดเด่นกว่าใคร” หูฮวนหลิงเก็บรอยยิ้มตรงมุมปาก พูดขึ้นอย่างนุ่มนวล

“เหนียงเหนียง จะโดดเด่นหรือไม่โดดเด่นนั้น ข้าน้อยไม่อาจทรายได้ แต่ทว่าที่ได้ยินมานั้นก็บอกว่ามีบทบาทเก่งกาจ” หงซางพูดขึ้น

“เก่งกาจก็ไม่ได้สลักสำคัญ ข้ามีสัมพันธ์เป็นพี่สะใภ้น้องสะใภ้กับนาง ก็ต้องรักใคร่ปรองดองกัน”

“เหนียงเหนียงช่างมีจิตใจประเสริฐนัก”

หูฮวนหลิงค่อย ๆ เลิกคิ้วขึ้น “ไป แวะไปที่ตำหนักหยันสี่ก่อน จะให้ฮองไทเฮารอข้าไม่ได้”

ภายในตำหนักหยันสี่ ก็มีบรรดากุ้ยเฟยที่สวมไว้ด้วยชุดหรูหราต่างก็พากันเข้ามาเป็นเวลานานแล้ว โดยรออยู่ที่ด้านหน้าพระตำหนัก

ไฟของทั่วทั้งวังยังไม่ทันได้ดับลง แสงอาทิตย์รุ่งอรุณแตกอยู่ตรงขอบฟ้าที่เป็นสีเทาฟ้าจาง แล้วก็ค่อย ๆ สว่างขาวขึ้น ถึงมีแสงสีทองที่พาดผ่านไปตรงเส้นขอบฟ้า

“ฮองเฮาเหนียงเหนียงเสด็จ!”จากเสียงของขันทีในพระตำหนักจิ่งหนิง พลันก็มองเห็นกุ้ยเฟยหน้าตำหนักรุดตรงเข้าไปถวายความเคารพ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม