ตอนที่ 713 ไปเยี่ยมฉินโจว
เมื่อเหยียบเข้าไปในวิหารเซียวเซียง ก็เห็นเงาสีเขียว ๆ เคลื่อนไหวไปมา นางอยู่ท่ามกลางกระบี่ หมุนไปหมุนมา ดูเท่ห์มาก
นางหยิบกระบี่ขึ้นมา นางดูสง่างามมาก ท่าทางของนางล่องลอยไปกับกระบี่ราวกับเทพธิดา
หลีโม่มองจนเหม่อลอย นางไม่เคยเห็นเพลงกระบี่ที่ดูดีมากขนาดนี้มาก่อน นางคิดมาตลอดว่า วรยุทธ์มีไว้ฆ่าคน มันเป็นเรื่องที่โหดร้าย มันมีความสวยงามที่ไหนกัน?
ในทีวีปกติเพลงกระบี่ที่ถ่ายกัน ก็จะมีแต่อะไรที่พิเศษ มันงดงามประณีต แต่ว่า นางคิดว่ามันปลอม
แต่วันนี้ได้เห็นด้วยตา นางถึงได้รู้ว่า ในทีวีที่ถ่ายให้ดูมันไม่ได้สวยเท่าของฉินโจวเลย
“ท่านอ๋อง พระชายา” อาจิ่งเห็นพวกเขาสองคนมา ก็รีบเดินขึ้นหน้ามาหา
ฉินโจวได้ยินดังนั้นก็เก็บกระบี่ หันหลังกลับมา ท่าทางงดงามมาก
ฉินโจวยังคงแต่งตัวเป็นผู้ชายอยู่ นางโพกหัว สวมชุดสีเขียว เหมือนมือกระบี่มาก ๆ
“พวกเจ้ามาแล้วเหรอ” นางโยนกระบี่ให้อาจิ่ง แล้วยกมือคำนับ
สายตาของนางมองไปที่หน้าของหลีโม่ จากนั้น ค่อยมองไปที่หน้าของซือถูเย้น
หลีโม่ยิ้มแล้วมองไปที่นาง อาจเป็นเพราะแสงแดด ที่ส่องมาที่หน้าของนาง นางกางมือออก แล้วเรียกเย็นเอ๋อร์ให้เอาของขวัญที่หยางมามาเตรียมไว้ให้มา
“เจ้ามาที่นี่ตั้งหลายวันแล้ว เดิมควรจะมาหาเจ้าตั้งนานแล้ว เพียงแต่มีเรื่องทำให้เสียเวลาไป อ๋องอิงจุ้น อภัยด้วย”
หลีโม่ถอนสายบัว
ฉินโจวพูดว่า “ไม่เป็นไร เจ้ามีเรื่องก็ไปทำเถอะ ข้าอยู่สบายดี”
นางกลับไม่อยากให้นางมา ฐานะของนางในเมืองหลวงต้าโจว มันยุ่งยาก หากพวกเขามาบ่อย ๆ มันอาจทำให้คนอื่นสงสัยได้
นางเชิญซือถูเย้นกับหลีโม่เข้าไปในที่พัก
ตำหนักซีย่วน มีด้วยกันทั้งหมดแปดตำหนัก วิหารเซียวเซียงเป็นหนึ่งในนั้น เงียบสงบ แต่ก็ไม่วังเวงจนไม่มีคน
น้ำชามีคนดูแล เป็นชาอูอวินจากต้าซิง ชาอูอวินเป็นชาราคาแพง อยู่ที่ตำหนักซีย่วน กินอยู่อะไรดีมาก โดยเฉพาะฐานะพิเศษอย่างฉินโจว ฮ่องเต้สั่งให้ดูแลอย่างดี
หลีโม่ถามว่า “ อ๋องอิงจุ้น อยู่ที่นี่ชินหรือเปล่า?”
“ไม่มีอะไรไม่ชินหรอก คนเป็นทหารไม่เรื่องมากหรอก ขอมีให้กิน ก็พอแล้ว” ฉินโจวพูด
เรื่องนี้ หลีโม่เห็นด้วย นางเป็นสายลับหน่วยพิเศษ ก็ถือเป็นทหาร สำหรับทหารแล้ว ลำบากนิดหน่อยไม่ใช่ปัญหาเลย
ซือถูเย้นลุกขึ้นมา แล้วพูดว่า “พวกเจ้าคุยกันก่อนนะ ข้าจะออกไปเดินเล่นสักหน่อย”
หลีโม่บอกไปที่เขา เขาบอกว่าฉินโจวเหมือนจะคิดอะไรกับนาง แต่ตอนนี้เขากลับทิ้งนางไว้แบบนี้เหรอ?
ซือถูเย้นไม่รอให้นางตอบรับ เขาเดินออกไปทันที
ภายในตำหนักเหลือแค่ฉินโจวกับหลีโม่ บรรยากาศแปลกมาก โดยเฉพาะ หลีโม่นึกถึงคำพูดที่ซือถูเย้นกับซูชิงพูดกับนาง นางก็เลยทำอะไรไม่ถูก
อีกทั้ง ตอนนี้นางกำลังว้าวุ่นใจ ไม่รู้ว่าทำไมซือถูเย้นจู่ ๆ ถึงได้เดินออกไป
ฉินโจวเหมือนจะมองออก นางถามเบา ๆ ว่า “พวกเจ้า ...... ทะเลาะกันเหรอ?”
หลีโม่ก้มหน้าลง “เปล่า ไม่ได้ทะเลาะกัน”
พวกเขา ไม่ได้ทะเลาะกันเลย แต่ให้เกียรติกันด้วยซ้ำ
“เจ้าจะไปดูเขาหน่อยไหม? ไม่ต้องอยู่เป็นเพื่อนข้าหรอกนะ” ฉินโจวพูด
หลีโม่ส่ายหน้า ยิ้มเสียใจ “ขอโทษด้วย เสียมารยาทจริง ๆ”
“ความสัมพันธ์ของเรา ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรแบบนี้หรอก” ฉินโจวขมวดคิ้ว
“อือ ข้าเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน” ฉินโจวพยักหน้า
หลีโม่เห็นท่าทางของนาง คิดว่าเมื่อก่อนแทนตัวเองด้วยตำแหน่ง ตอนนี้อดหัวเราะไม่ได้
ฉินโจวตะลึงไป เห็นนางหัวเราะ ในใจของนางก็สบายใจไปด้วย “เจ้าขำอะไร?”
หลีโม่ส่ายหน้า แต่ก็ยังอดหัวเราะไม่ได้ “นึกถึงตอนที่เรารู้จักกันใหม่ ๆ ตอนนั้น เจ้าเหมือนจะอคติกับข้า อีกทั้งยังไม่เชื่อใจข้าด้วย”
ฉินโจวเองก็หัวเราะเหมือนกัน “ใช่ ข้าในตอนนั้น มีตาไร้แวว หากเชื่อเจ้าแต่แรก อาจจะ หยุดยั้งอะไรหลาย ๆ เรื่องก็ได้”
สายตาขณะที่พูดเหมือนจะเศร้ามาก
หลีโม่รู้ว่านางพูดถึงเรื่องที่ภูเขาหางหมาป่า นั่นเป็นประสบการณ์ที่นางเจ็บปวดมากที่สุด ตอนนี้พอพูดถึง หลีโม่เองก็รู้สึกไม่ต่างกัน
นั่นมันเป็นที่ที่นางเคยรักษามาก่อน เคยสัมผัสมาก่อน มันเป็นชีวิต
“ตอนที่ข้าอยู่ที่หมู่บ้านมู่จ้าย ผู้ใหญ่บ้านดีกับข้ามาก ไม่ใช่แค่เขา ชาวบ้านก็ใจดีกับข้ามาก ๆ ตอนนี้ข้ามักจะนึกถึงรอยยิ้มของพวกเขาเสมอ แวดล้อมที่ลำบากแบบนั้น พวกเขายังคงรักษาจิตใจที่แตกสลายไว้ได้ เชื่อมั่นพระชายาที่มาจากแคว้นของศัตรู ข้า .......”
หลีโม่เสียงสะอื้น นึกถึงคนพวกนนั้น ในใจของนางก็รู้สึกเจ็บปวด
การต่อสู้เพื่ออำนาจ ทำไมคนที่ต้องมารับเคราะห์ต้องเป็นชาวบ้านตาดำ ๆ ด้วย?
ฉินโจวมองไปที่นาง สายตาของนางอ่อนโยนมาก นางพูดปลอบไปว่า “อย่าเสียใจไปเลยนะ มันผ่านไปแล้ว”
นางยังคงปลอบใครไม่ค่อยเป็น แต่ว่า อย่างน้อย นางก็ยินดีที่จะไปปลอบ
หลีโม่ยกน้ำชาขึ้นดื่ม กลิ่นหอมของชาอูอวิน มันทำให้คนรู้สึกสบาย
คำพูดที่ทำให้เจ็บปวด ไม่ควรพูดต่อ หลีโม่เลยเปลี่ยนเรื่อง เพราะ ฉินโจวไม่ถนัดหาประเด็นมาคุย
กำลังคิดจะเปิดประเด็นใหม่ ฉินโจวก็ถามขึ้นมาว่า “ในเมืองหลวง มีที่เที่ยวสนุก ๆ บ้างไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม
จบแบล้วววววว...
900 ตอนแล้ว ชีวิตของหลีโม่แทบหาความสุขไม่เจอเลย แถมลูกก็ถูกคนอื่นเอาไปทิ้งอีก สงสารจับใจ...
ตะว่าไปเรื่องนี้หมุยเฟยกับฮ่องเต้เลวร้ายแบบกินกันไม่ลงนะ ทำร้ายทุกคนที่ดีกับตัวเอง แล้วแางว่าจำเป็นๆ กลับเป็นพวกอี๋เฟยซะอีกที่แย่งแยกพวกำองชัดเจนไปเลย หมุยเฟยนี่นับว่าเป็นคนที่ได้ดีจากการเนรคุณผู้คนรอบข้างโดยแท้...
ฮ่องเต้กับลู่กงกงนี่ ตอนตายคงมีกันแค่ 2 คนละนะ...
อี๋เฟยนี่คือนางฉลาดสุดละในบรรดาเมียของเต้...
ท่านซือถูเย่นใจเย็นๆจากสุราก่อนเจ้าค่ะ สนใจยัยน้องด่วนเด่วจะโดนมิใช่น้อย55555...
โธ่ๆท่านซือถูเย่น เค้าลางกลัวว่าที่ภรรยาในอนาคตมาแต่ไกล รีบซ่อนสุราเลยนะ แต่ไม่น่าจะทัน หลอกใครก็หลอกได้แต่ไม่ใช่กับแม่นางหลีโม่555555...