พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 736

บทที่ 736 รีบออกไปเสีย

เดิมทีซือถูเย้นคิดว่าอยากจะรับประทานอาหารเย็นให้เสร็จก่อนแล้วพาหลีโหม่ออกไปเดินเล่น แต่นางกลับเมื่อยล้าปวดตามเอวและกระดูก เมื่ออาบน้ำชำระร่างกายเสร็จก็นอนแผ่หราอยู่บนเตียงอย่างเกียจคร้านไม่อยากจะขยับเขยื้อนตัวอีก

ซือถูเย้นถอนหายใจ “กิจกรรมที่ใช้แรงเล็กน้อยเพียงเท่านั้น ก็ไม่อยากลุกตัวขึ้นมา จะทำอะไรกัน?”

“เก็บสายตาที่เหมือนปีศาจร้ายของเจ้าไปเสีย”หลีโม่พูดขึ้นอย่างมีน้ำโห

“เจ้านอน อดที่จะทำให้คนอื่นคิดมากไม่ได้นะ!”นัยน์ตาของซือถูเย้นมีเปลวเพลิงลุกฮือขึ้นอีกครั้ง

“เจ้าเปลี่ยนไปแล้ว ไม่ใช่ข้าที่เบื่อ รำคาญอ๋องซื่อเจิ้งแล้ว”หลีโม่ยกหัวขึ้น ใบหน้าแสดงให้เห็นถึงความเสียดาย

ซือถูเย้นหัวเราะอย่างดูแคลน “”เอาเถอะ ไม่โยกโย้กับเจ้าแล้ว เดิมทีคิดอยากจะออกไปเดินเล่นกับเจ้า พอและ เมื่อวานนี้ฝ่าบาทรับสั่งให้คนเอาบัญชีมาให้ ข้ายังไม่ได้ดูเลย เจ้านอนเสียเถอะ ข้าจะไปดูบัญชีที่ห้องหนังสือ

ฝ่าบาทส่งบัญชีมาให้ ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยสำคัญเท่าไหร่ เขายังเป็นอ๋องซื่อเจิ้ง ในท้ายที่สุดแล้วก็ยังให้เขาเข้าไปข้องเกี่ยวกับงานราชสำนักและการเมือง

กล่าวโดยสรุปแล้วก็คือ ทำๆ ไปอย่างนั้น

ซือถูเย้นทำท่าทีอย่างสบาย ๆ ดูบัญชี แต่ก็เป็นเพียงแค่ท่าทีที่ทำ ๆ ไปเช่นนั้นเอง

เพียงแค่ว่า ฝ่าบาททรงมีความคิดว่าเรื่องเล็กน้อยนั้น ก็คือเป็นสิ่งที่พระองค์คิดขึ้น แต่หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ เขาคิดมาโดยตลอดว่า เรื่องราวในบ้านเมืองนั้นหาได้มีเรื่องเล็กไม่

อีกทั้ง กรณีของโจวซาน คนของใต้เท้าเหลียงก็หาได้ตรวจอะไรพบไม่ เขามักจะคิดไปว่าเรื่องนี้มีอะไรทะแม่ง ๆ

เมื่อซือถูเย้นไปแล้ว หยางมามาก็เอาน้ำมันยาเข้ามา พูดขึ้นว่า “พระชายา หม่อมฉันช่วยนวดให้นะเพคะ”

หลีโม่รู้สึกอายเสียจนใบหน้าแดงซ่าน “ไม่ต้อง ไม่มีอะไร นอนสักพักก็ดีขึ้น”

หยางมามายิ้มแล้วก็พูดไปด้วย “ไม่สำคัญ หม่อมฉันก็อายุปูนนี้แล้ว ยังมีเรื่องอะไรบ้างที่ยังไม่เคยพบ?บัดนี้ท่านอ๋องยิ่งใส่พระทัยพระองค์ หม่อมฉันรู้สึกมีความยินดีจากใจจริงยิ่งนัก”

หลีโม่ยืดคอออกไป “เย็นเอ๋อร์เล่า?”

“สั่งให้ออกไปแล้วเพคะ”หยางมามารู้ว่านางรู้สึกอาย หัวเราะแล้วก็พูดขึ้น

หลีโม่ถึงได้เลิกผ้าห่มออกแล้วหยัดตัวลุกขึ้น บัดนี้เย็นเอ๋อร์เป็นเด็กสาวที่ยังไม่ได้ออกเรือน สำหรับเรื่องนี้แล้ว ยังต้อง……หลีกเลี่ยงจะสอนสิ่งไม่ดีให้กับเด็กน้อย

นางฟุบลงบนเตียง หยางมามาเอายาน้ำมันนั้นมาถูบนฝ่ามือจนร้อย จากนั้นก็แบฝ่ามือทั้งสองคน แล้วแนบลงบนแผ่นหลังของหลีโม่ แล้วก็เริ่มบีบนวด

เรี่ยวแรงของนางกำลังพอดี ไม่ได้หนักมือจนเกินไป แล้วก็ไม่ได้เบาจนเกินไป เมื่อผลักลงมา หลีโม่ก็รู้สึกสบายจนต้องส่งเสียงงึมงำออกมา

หยางมามานวดไปพลางก็พูดไปว่า “บัดนี้ความสัมพันธ์ของท่านอ๋องและพระชายาแน่นแฟ้น ถ้าหากว่าทำให้ยิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้นอีก ก็จะดียิ่งกว่าเดิมนะเพคะ”

หลีโม่รู้ว่าสิ่งที่นางพูดว่าทำให้ยิ่งใกล้ขึ้นกันไปอีกมันหมายความว่าอย่างไร และก็รู้ว่าในใจของนางรู้สึกผิดเรื่องหงฮัวนั้น กล่าวปลอบใจขึ้นว่า “มามา เอาจริง ๆ ดูจากเรื่องหลักการของยาแล้วนั้น หงฮัวเพียงแค่ช่วยเรื่องขจัดภาวะเลือดหยุดไหลเวียน ไม่ได้ทำให้ไม่ตั้งครรภ์หรอก เจ้าไม่ต้องเก็บเอามาใส่ใจ” “ที่พระชายารับสั่งเช่นนี้ ก็เพราะว่าต้องการปลอบใจหม่อมฉัน สรรพคุณของหงฮัวนั้น หลังจากที่หม่อมฉันได้ไปค้นหาก็รู้อะไรขึ้นเยอะ อีกทั้งยังได้ไปถามหมอหลวงอีกตั้งหลายรอบ ถ้าหากว่าคนปกติกินเข้าไป ก็ไม่มีปัญหาใหญ่อะไร เพียงแค่ว่า ในตอนนั้นพระชายาได้รับบาดเจ็บ ร่างกายอ่อนเปลี้ยเพลียแรง อีกทั้งหงฮัวนั้น หม่อมฉันก็ใส่ลงไปเสียเยอะ……”

หยางมามาพูดขึ้น แล้วสะอื้นออกมา

หลีโม่พลิกตัว กุมมือของนางเอาไว้ “มามา อย่าเป็นเช่นนี้เลย เจ้าทำอะไรเพื่อข้ามากมายพอแล้ว หลายวันมานี้ เจ้าอยู่กับข้าร่วมฝ่าฟันเรื่องราวความทุกข์ยากลำบากและอันตราย ถ้าหากว่าไม่มีเจ้า บางทีข้าอาจจะตายไปนานแล้ว ถึงแม้ว่าโดยสถานะเราจะเป็นเจ้านายและลูกน้องกัน แต่ว่าในใจของข้านั้น เจ้าเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของข้า ต่อไปอย่าได้พูดเช่นนี้อีกนะ ต่อไป พวกเรายังมีเวลาอีกมากมายที่ต้องอยู่ร่วมกัน ถ้ามัวแต่รู้สึกผิดต่อกันต่อไปจะใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างไร?”

หยางมามามีหยาดน้ำตาเอ่อล้นคลอเบ้า “พระชายา ยิ่งพระองค์ดีกับหม่อมฉัน ในใจของหม่อมฉันก็ยิ่งรู้สึกผิดและเสียใจ”

“อย่าทำเช่นนี้สิ เจ้าเป็นทุกข์ ใจของข้าก็ยิ่งไม่มีความสุข”

หยางมามารีบปาดน้ำตาจนแห้ง “ไม่พูดแล้ว ๆ เพคะ นวดอีกสักหน่อยดีกว่า”

หลีโม่พูดอย่างเต็มไปด้วยพลังและความรู้สึกที่ลึกซึ้ง “มามา เจ้าฟังข้านะ ตอนนี้ข้ามีชีวิตเป็นอย่างดี รู้สึกพอใจมากด้วย เจ้าก็รู้ว่าเมื่อก่อนข้ามีชีวิตเช่นไร หาได้มีใครสนใจข้าไม่ ไม่เคยมีใครสักคนที่ห่วงใย ตอนนี้ข้ามีไอ้เจ็ด มีเจ้าและก็เย็นเอ๋อร์ ข้ามีความสุขมากแล้ว ข้ารู้จักพอเพียง เรื่องของลูกนั้น ก็เหมือนกับที่เจ้าบอก ก็เป็นส่วนเติมเต็มให้ยิ่งใกล้ชิดกัน ไม่มีก็ไม่ได้สำคัญอะไร”

“ไม่ อย่าได้พูดไปเรื่อยนะเพคะ อย่างไรก็ต้องมี”หยางมามารีบพูดขึ้น

“ถ้าเจ้าหวังให้ข้ามี ต่อไปเจ้าก็ต้องดูแลข้า ข้ายังอายุน้อย ชาวบ้านเขามีคำพูดประโยคหนึ่งที่พูดว่า ถ้าไม่กลัวอับอาย ก็มีลูกได้จนถึงอายุสี่สิบเก้า? ”

หยางมามาขำพรืดออกมา “อายุสี่สิบเก้าก็ยังจะมีลูก?อายุสิบเก้าก็ควรจะมีได้แล้ว อายุสี่สิบเก้านี่ก็ต้องอุ้มหลานตัวโตแล้วนะเพคะ”

ซือถูเย้นเงยหน้าขึ้นมองในทันที ในทันใดนั้นสีหน้าของเขาก็ดูเยือกเย็น “ใครอนุญาตให้เจ้าเข้ามา”

หวั่นหุ้ยรู้สึกตกใจกับท่าทีและน้ำเสียงที่ดูเย็นชาของเขา แต่นางเคยเห็นเขาพูดจาด้วยความอ่อนโยนกับเสี้ยหลีโม่ นางไม่ยอมเชื่อ ว่าท่านอ๋องจะไม่ชอบนาง

นางเดินตรงเข้าไป น้ำเสียงยิ่งอ่อนโยนขึ้นอีก “ท่านอ๋อง หม่อมฉันมาในคืนนี้ ก็ด้วยมีเรื่องอยากจะพูดกับพระองค์”

“ออกไป!”ซือถูเย้นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

นางรู้สึกตกใจ แต่ก็ไม่ยอมถอยหลัง กลับยังคงก้าวเข้าไป ผ้าบางเบาที่อยู่บนไหล่ไหลลื่นลงในจังหวะที่นางขยับตัว เผยให้เห็นบริเวณไหล่ที่ขาวราวกับหยก

“ท่านอ๋อง ฮองไทเฮาให้หม่อมฉันดูแลรับใช้พระองค์……”

นางที่กำลังเคลื่อนตัวด้วยท่วงท่าสง่างาม เมื่อพูดจบแล้ว ก็พุ่งตรงเข้าไป ยื่นมือแล้วดึงซือถูเย้นเอาไว้

“เจ็บ เจ็บนะ……”นางเจ็บปวดจนต้องกัดปาก สีหน้าซีดโพลน

ซือถูเย้นบิดที่ข้อมือของนาง การรับมือกับหญิงสาวร่างเปราะบางนั้น ตัวเขาเองก็ไม่ยั้งมือ ได้ยินแค่เสียง “กึก”กระดูกที่ข้อมือก็ถูกบีบจนร้าว

“จื่นเฉิง ๆ!”ซือถูเย้นตะโกนขึ้นด้วยความโมโห

จื่นเฉิงได้ออกไปทำธุระ ในตอนที่เขาโกรธอยู่นั้นพลันก็ลืมไปเสียสิ้น แต่เมื่อองครักษ์ได้ยินเสียงของเขาลอยออกมา กลับเห็นคุณหนูหวั่นหุ้ยที่รูปโฉมสะคราญล้มลงอยู่บนพื้น ร้องห่มร้องไห้สะอึกสะอื้น

“ท่านอ๋อง!”

ซือถูเย้นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ลากนางออกไป ข้าไม่อยากเห็นนางอีก”

“พ่ะย่ะค่ะ!”องครักษ์พลันพุ่งตัวลงมือในทันที

หวั่นหุ้ยร่ำร้องขออภัยโทษ “ท่านอ๋อง หม่อมฉันผิดไปแล้ว ต่อไปหม่อมฉันไม่กล้าทำแล้ว ขอพระองค์อย่าได้ขับไล่หม่อมฉันเลยนะเพคะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม