พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 74

บทที่ 74 เข้าใจผิด

เซียวเห็นนาเงียบอยู่ตลอดเวลา ขนาดพูดกระแทกแดกดันก็ยังเงียบอยู่เหมือนเดิม ในใจร้อนรนบวกกับความกังวล ทั้งยังไม่เชื่อใจนางเพิ่มเข้าไป ไม่สนใจว่าอ๋องอานชินยังอยู่ รีบเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว มือทั้งสองข้างจับไปที่ไหล่ของหลีโม่ เขย่าพร้อมพูดด้วยความโกรธ “ เจ้าพูดอะไรหน่อยสิ เขาเป็นอย่างไรบ้าง ”

เขาเป็นนายพล ปกติพละกำลังก็ต่างจากคนอื่นอยู่แล้ว หลีโม่ที่อ่อนแรงเหน็ดเหนื่อยอยู่แล้ว ถูกเขาเขย่าแรงขนาดนี้ ก็หน้ามืดเป็นลมหมดสติไปทันที

เซียวโธ่ตกใจ รีบประคองนางไว้ทันที

อ๋องอานชินเดินเข้าไป เอ่ยด้วยความไม่พอใจ “ เซียวโธ่ เจ้าไปพาลโกรธนางทำไม ถ้านางมีวิธี จะมัวมานั่งอยู่เฉยๆแบบนี้ทำไม ที่ทำได้นางก็ได้ทำไปจนหมดแล้ว ”

ซือถูจิ้งเห็นเซียวโธ่หุนหันพลันแล่นอย่างนี้ ทำเอาหลีโม่เป็นลมหมดสติไป ก็โกรธขึ้นมาเช่นกัน จึงพลักเซียวโธ่หนึ่งครั้ง “ เจ้าคนไม่มีหัวคิด ถ้าเก่งนักเจ้าก็รักษาเองสิ รังแกผู้หญิงเป็นผู้ชายภาษาอะไร ”

นางแย่งหลีโม่มาจากอ้อมแขนเซียวโธ่ อยากจะอุ้มออกไป แต่ว่าแรงไม่พอ “ ตุบ ” เสียงดังขึ้น หลีโม่ล้มกองลงที่พื้น ความโกรธบนใบหน้านางก็หายไป จึงพูดขึ้นด้วยความเสียหน้า “ พวกเจ้าอุ้มสิ ”

หลีโม่ที่ตกลงกับพื้นกลับได้สติขึ้นมา นางค่อยๆขดตัวขยับลุกขึ้น ปีนกลับขึ้นไปบนเก้าอี้ ก็ยังรู้สึกเวียนหัวอยู่ จึงเอาหัวฟุบลงที่โต๊ะ แล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “ อีกครึ่งชั่วโมง ข้าจะฟังเข็มให้เขา ข้าขอพักก่อนสักนิด ”

น้ำเสียงนางเหนื่อยล้าอ่อนแรง คือหมดแรงเหน็ดเหนื่อยจริงๆ

ตั้งแต่หน่วยรบพิเศษถูกผู้บัญชาการฆ่าตาย มาจนถึงทะลุมิติมาที่จวนเฉิงเสี้ยง บังคับแต่งงาน ถูกตี ถูกวางยาพิษ ถูกข่มเหง ความทุกข์ลำบากทั้งหมดที่พบเจอตั้งแต่เข้าวังมา ทั้งหมดเกิดขึ้นในแค่ไม่กี่วันมานี้ นางเริ่มต้นมาจากคนมั่งคั่งที่อ่อนแอไม่มีอำนาจค่อยๆลุกขึ้นมา แม้กระทั่งการบังคับตัวเองให้เป็นเหมือนหมาตัวหนึ่งที่คอยดมกลิ่นหาโอกาสทุกซอกทุกมุม แต่ว่า สิ่งที่ได้กลับมาก็คือเสี้ยฮ่าวหรานตายเพราะนาง และเพิ่งจะได้คนพึ่งพามา ก็กลับตกอยู่ในอันตรายอีกครั้ง ที่สำคัญที่สุดคือ นี่ไม่ใช่จุดจบ เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ภายในจวนเฉิงเสี้ยงยังมีเล่ย์เหลี่ยมกลอุบายอีกมากมายที่รอนางอยู่ เพียงแค่ไม่ระวัง นางและหลี่ซื่อต้องตายด้วยน้ำมือของพวกเขา อีกอย่าง ตายอย่างน่าอนาถอย่างแน่นอน

ต่อให้มีจิตใจที่แข็งเกร่งแค่ไหน มาเจอกับปัญหาที่ไม่มีทางออกเช่นนี้ ต่างก็ถอดใจด้วยกันทั้งนั้น

อีกอย่าง นางก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแค่เสียคนพึ่งพาคนหนึ่งไป หรือว่าเพราะการตายของเสี้ยฮ่าวหรานมีผลกระทบต่อนาง ทำให้จิตใจของนางสับสนกระวนกระวายอ่อนแอ

เห็นท่าทางนางเป็นเช่นนี้ เซียวโธ่รู้สึกตัวเองน่ารังเกลียดที่สุด ปกติผู้หญิงอ่อนแออยู่แล้ว ลำบากนิดหน่อยก็ทนไม่ไหวแล้ว

เซียวโธ่ไม่ค่อยรู้จักหลีโม่เท่าไรนัก รู้เพียงแค่ว่านางเป็นลูกสาวที่เกิดจากเมียหลวงของเฉิงเสี้ยงเสี้ย เคยยกเลิกงานแต่งกับอ๋องเหลียง เหตุการณ์ต่อจากนั้นเพราะว่าเขามัวแต่ยุ่งเรื่องอื่น จึงไม่ค่อยได้สนใจ แค่เคยได้ยินซือถูเย้นพูดถึง จากนั้นเสี้ยหลีโม่คนนี้ที่ยกเลิกงานแต่งกับอ๋องเหลียงก็ได้ช่วยชีวิตอ๋องเหลียงเอาไว้

ซือถูจิ้งเห็นหลีโม่ฟุบอยู่สักพักแล้วยังไม่ตื่น ก็รู้ว่านางเหนื่อยล้า เกิดสงสารขึ้นมาเล็กน้อย จึงสั่งให้คนเอาไปเอาน้ำอุ่นมาไว้ให้นางล้างหน้า

หลีโม่ได้ยินที่เขาสั่ง จึงเงยหัวขึ้นแล้วพูด “ เอาน้ำเย็น น้ำบ่อดีที่สุด ”

นางจำเป็นต้องรักษาการตื่นตัว น้ำบ่อเป็นน้ำเย็น สามารถทำให้นางตื่นตัวอยู่ตลอดได้

“ ได้ น้ำบ่อ ” ซือถูจิ้งถามต่ออีก “ ยังต้องการอะไรอีกไหม ”

หลีโม่คิดอยู่ครู่หนึ่ง “ เหล้าแอลกอฮอล์สูง เตาไฟ ”

เข็มที่ยาวที่สุดของนาง หลังจากที่ซื้อมาจากมือหมอก็ยังไม่ได้ฆ่าเชื้อ เพราะนางคิดว่าคงไม่ได้ใช้เข็มยาวเล่มนี้ แต่ว่า ตอนนี้จำเป็นต้องใช้แล้ว

เซียวโธ่กลับคิดว่านางต้องการดื่มเหล้า โมโหขึ้น “ ห้ามเอาเหล้ามา ”

อ๋องอานชินเอ่ยขึ้นด้วยความนิ่ง “ พอแล้ว เจ้าหุบปากไป ””

สองมือซือถูจิ้งกอดอก กระโดดขึ้นไปบนเก้าอี้มองลงมาดูเซียวโธ่ “ ข้าขอเตือนเจ้า ถ้าเจ้ายังกล้าพูดไม่ได้ดีใส่หลีโม่อีก ข้าจะตัดลิ้นเจ้าออกมา ”

เซียวโธ่กลัวองค์หญิงใหญ่เป็นอย่างมาก นางไม่เคยสิ่งใดบนโลกนี้ ไม่ทำตามมีเหตุผลไม่ทำตามกฎ ถ้ามีเรื่องขึ้นมาจริงๆจะทำให้เจ้าปวดหัวเอาได้

สายตาที่มองหลีโม่ ก็เปลี่ยนไปมาก

แขนเสื้อไม่ได้พับขึ้นสูงมากนัก แต่ดูออกได้ว่ารอยแผลเป็นนี้ยาวขึ้นไปยาวแขน และไม่รู้ว่านางประสบพบเจออะไรมาบ้าง ถึงได้เป็นเช่นนี้ได้

เพราะรอยแผลเป็นที่แขนของนาง เขามองดูนางที่ล้างหน้าแล้ว บนหน้าผากก็มีรอยแผลเหมือนกัน ดูแล้วน่าจะเป็นแผลใหม่ เพียงแต่เมื่อครู่ผมหน้าม้าได้ปิดบังเอาไว้ เลยมองไม่ให้ แต่ตอนนี้ผมเปียกจับตัวกัน รอยแผลบางส่วนจึงโผล่ออกมาให้เห็น

ซือถูจิ้งกับอ๋องอานชินก็มองเห็นเช่นกัน มีความโกรธในดวงตาของอ๋องอานชิน เสี้ยหลีโม่เจอกับอะไรมา 阿语ก็เจอกับสิ่งนั้นเช่นกัน ที่จวนเฉิงเสี้ยงพวกนางแม่ลูกมีชะตาชีวิตที่เหมือนกัน

เซียวโธ่เป็นคนที่แบ่งแยกบุญคุณความแค้นชัดเจน นึกขึ้นได้ที่เมื่อกี้พูดไม่ดีใส่นาง จึงเดินเข้าไป “ เสี้ยหลีโม่ ข้าขอถอนคำพูดที่พูดไปเมื่อครู่ รอยบาดแผลที่แขนของเจ้า ไม่เป็นไรใช่ไหม ”

หลีโม่เงยหน้าขึ้นมองเซียวโธ่ ล้างหน้าแล้ว นางก็สดชื่นขึ้นเป็นกอง เหตุการณ์ฉุกเฉินวุ่ยวายเมื่อสักครู่ได้สงบลงแล้วเล็กน้อย นางรู้ว่าการที่ไม่พูดไม่ตอบอะไรเลยเมื่อกี้ ทำให้คนหวาดระแรงเป็นอย่างมาก ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ ต่างเป็นห่วงคนที่นอนอยู่บนเตียงนั้นอย่างถึงที่สุด

โดยเฉพาะเซียว ที่มีอุปนิสัยนายทหารแบบนี้ แม้จะฉุนเฉียวง่าย แต่เป็นคนตรงไม่มีแผนการในใจ กลับเข้ากันได้ดีกว่า

นางเอ่ยขึ้น “ ข้าไม่เป็นไร ”

หลีโม่เดินไป เห็นแขนเสื้อที่ใหญ่กว้างไว้อย่างดี แล้วเอาเหล้าโซจูเทลงมือล้างให้สะอาด

นางเดินไปถึงเตียง มองใบหน้าที่ซีดขาวนั้น ค่อยๆรวบรวมความกล้าและความตั้งใจขึ้นในใจ ขณะที่นางหันกลับมองเซียวโธ่ ในดวงตามีความมุ่งมั่นเพิ่มขึ้น “ แม่ทัพใหญ่ ท่านอ๋อง ข้าต้องการให้พวกท่านช่วยข้าขยับตัวเขา หันหลังมาหาข้า ”

เซียวโธ่และอ๋องอานชินเห็นสายตาของนาง ทั้งสองมองตากันเล็กน้อย ไม่พูดอะไร จึงเดินเข้าไปทำตามที่นางบอก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม