พิษรักองค์ชายโฉมงาม นิยาย บท 742

บทที่ 742 เริ่มเตรียมแผนการ

หูฮวนซียืนขึ้น แล้วมองดูหลีโม่

“ทำไมถึงเป็นแบบนี้?”

หลีโม่เล่าเรื่องทุกอย่างที่เห็นในวังให้กับหูฮวนซี แล้วพูดว่า “ข้ามาหาเจ้า เพราะอยากให้เจ้าระวังตัว เพราะฮ่องเต้รู้ว่ามีเรื่องเกี่ยวกับการข้ามภพ งั้นก็จะต้องจับตาดูคนพวกนี้เป็นพิเศษ อย่างเช่นข้าที่มีนิสัยเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ”

หูฮวนซีพยักหัว “ข้ารู้แล้ว”

หลีโม่พูดอย่างจริงจังว่า “ฮวนซี ข้าคิดว่า ละครในเมืองหลวงนี้ ยิ่งอยู่ก็ยิ่งเล่นใหญ่ และก็ยิ่งอยู่ยิ่งโหดเหี้ยม บางทีอาจจะมีคนต้องเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องมากมาย เจ้าจะต้องไม่มีส่วนร่วมในเรื่องนี้ ไม่ว่ายังไงก็ตาม เข้าใจไหม?”

หูฮวนซีพูดขึ้นอย่างเคร่งเครียดว่า “ข้ารู้แล้ว เจ้าก็ต้องระวังตัวให้ดี”

หลีโม่มองดูนางอย่างลึกซึ้ง “ความวุ่นวายเป็นโอกาสของคนค้าขาย แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะเจริญอยู่แต่ในต้าโจว เชื่อว่าตอนที่อยู่ในภพปัจจุบัน เจ้าของทำธุรกิจไปแล้วทั่วโลก ตอนนี้ต้าโจวมีประเทศเพื่อนบ้านมากมาย เจ้าควรที่จะไปจากเมืองหลวงสักพักไหม ออกไปสร้างชื่อเสียงติ่งเฟิงในต่างประเทศ?”

หูฮวนซีรู้ว่าหลีโม่ต้องการให้นางไปจากเมืองหลวง จะได้ไม่ต้องเดือดร้อนไปกับเรื่องในครั้งนี้ โดยเฉพาะหูฮวนหลิงเป็นฮองเฮา ถูกฮ่องเต้หลอกใช้เป็นเรื่องที่แน่นอนอยู่แล้ว

ทางเรือนหูฮวนหลิงได้เงินปันผลในทุกเดือนทุกปีไม่น้อยเลย เงินพวกนี้ หากนำไปสนับสนุนฮ่องเต้กระทำเรื่องที่ไม่อยากให้ใครรู้ จะเป็นการส่งผลกระทบต่อพวกซือถูเย้นเป็นอย่างมาก

ฮ่องเต้จะใช้เงินในกองคลัง ก็ต้องมีเหตุผลที่เพียงพอ จะต้องแจ้งให้หู้ปู้กับขุนนางทั้งหลายให้ทราบ หากมีเงินสนับสนุนใยช่องทางอื่น เขาก็จะสามารถกระทำเรื่องที่ไม่ต้องให้ใครรับรู้ได้อย่างมากมาย

เงินส่วนตัวของฮ่องเต้ ส่วนมากก็มาจากตระกูลหู

แต่ตอนนี้คนที่ดูแลกิจการตระกูลหูคือหูฮวนซี ติ่งเฟิงอยู่ในอำนาจการดูแลของนาง หากนางสามารถย้ายไปขยายกิจการที่อื่น แบบนั้น ก็จะสามารถเอามาเป็นข้ออ้างในการหยุดเงินปันผล เพราะการขยายกิจการยังไงก็ต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก

“ฮวนซี ขอบคุณนะ” หลีโม่พูดด้วยเสียงเบา

“อย่าได้พูดแบบนี้ อยู่ที่นี่ ข้ากับเจ้าถึงนับว่าเป็นญาติพี่น้องกัน” หูฮวนซีคิดถึงนายท่าน แน่นอน ยังมีนายท่านด้วย

จุดมุ่งหมายของนายท่านคือการแสวงหาโชคดีและหลีกเลี่ยงความชั่วร้ายมาตลอด ไม่เข้าไปมีส่วนร่วมในเรื่องการเมือง เชื่อว่าการตัดสินใจทำเช่นนี้ เขาจะต้องเห็นด้วยแน่

แต่นางก็อดที่จะเป็นห่วงหลีโม่ไม่ได้ เพราะนางดูออก หลีโม่กำลังตั้งใจที่จะเป็นฝ่ายรุกแล้ว

“อืม ต่อไป เราไปมาหากันน้อยหน่อย” หลีโม่เดินมาข้างหน้า แล้วโอบกอดนาง “ฮวนซี ขอบคุณที่มีเจ้า”

หูฮวนซีถูกนางทำซึ้งจนอยากร้องไห้ “ใช้ความรู้สึกนี้แบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าถนัด”

ทั้งสองคนมองตากันอย่างลึกซึ้งอีกครั้ง แล้วหลีโม่ก็หันตัวเดินออกไป

หลังจากที่หลีโม่กลับมาถึงจวนแล้ว ก็ได้ไปที่ตำหนักหลานรั่ว

หวั่นจิ้งได้ย้ายออกไปแล้ว เหลือไว้เพียงหวั่นหุ้ยที่ยังอยู่ที่นี่

หลังจากที่นางถูกส่งกลับมา ก็อยู่อย่างไม่สบายใจมากตลอด กลัวถูกไล่ออกไปจากจวนอีก

เห็นหลีโม่มาอย่างกะทันหัน นางรีบลุกขึ้นยืน มองดูนางอย่างหวาดระแวง “เจ้า...เจ้าคิดจะทำอะไร?”

นางไม่คิดอยู่แล้วว่าเมื่อวานที่หลีโม่เก็บนางไว้จะเป็นความจริงใจ นางคงอยากที่จะแสดงด้านที่ดีมีเมตตาต่อหน้าท่านอ๋องแน่ๆ เสแสร้ง

หลีโม่นั่งลง นิ้วมือเคาะตรงหน้าโต๊ะเล่นอยู่เบาๆ สายตามองดูหวั่นหุ้ย

หวั่นหุ้ยถูกนางจ้องมองจนขนลุก จึงถามขึ้นว่า “พระชายามาทำอะไร?”

หลีโม่ค่อยหัวเราะพร้อมพูดว่า “ไม่ต้องตื่นเต้น ข้ามาเพื่อคุยเล่นกับเจ้าเท่านั้น”

“เชิญพระชายาพูด” หวั่นหุ้ยไม่คิดว่าพวกนางจะมีอะไรต้องคุยกัน

หลีโม่พูดอย่างสนิทสนมว่า “นั่งลงสิ”

หูฮวนหลิงถามขึ้นว่า “พระชายา มีเรื่องไม่สบายใจหรือ?”

หลีโม่ถอนหายใจเบาๆ “เฮ้อ...ช่างเถอะเพคะ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”

หูฮวนหลิงยิ้มพูดว่า “เจ้ามีเรื่องอะไร ก็พูดมาเถอะ หากข้าช่วยได้ก็จะช่วยอย่างแน่นอน”

หลีโม่ส่ายหัว แล้วก็ฉีกยิ้ม “เกรงว่าฮองเฮาคงจะช่วยไม่ได้”

“เจ้าไม่พูด แล้วรู้ได้อย่างไรว่าข้าช่วยเจ้าไม่ได้?” ฮองเฮาพูดพร้อมหัวเราะ

หลีโม่ใช้ให้หวั่นหุ้ยออกไปก่อน ฮองเฮามองดูหวั่นหุ้ยแว๊บหนึ่ง มองไม่เห็นใบหน้าของนาง กลับได้ยินหลีโม่พูดขึ้นด้วยเสียงเบาว่า “ฮองไทเฮาสองผู้หญิงสองคนไปให้ในจวนของข้า เรื่องนี้ฮองเฮาเหนียงเหนียงก็ทราบดี เดิมคิดว่าท่านอ๋องคงจะไม่ยอมให้โอกาสพวกนาง กลับคิดไม่ถึงว่า สองวันก่อน นังสารเลวคนนี้แอบเข้าไปภายในหนังสือของท่านอ๋อง ทั้งสองคน.....เฮ้อ”

สีหน้าหลีโม่โกรธจัด “ดูถูกนังคนนี้เกินไป”

ฮองเฮาอึ้ง แล้วพูดปลอบว่า “นี่ถือเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ผู้ชายใครไม่มีเมียน้อยมั่ง? พระชายาใจกว้างหน่อย”

ในใจนางกำลังดูถูกหลีโม่อย่างมาก เจ้าคิดว่าเจ้าสาวที่สุดในปฐพีหรือ? ถึงได้จะสามารถให้ท่านอ๋องรักเจ้าคนเดียว

“วันนั้นข้าไปเจอเข้า ทั้งสองจึงยังไม่ทันมีอะไรกัน เพียงแต่เป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นในเวลาช้าเร็วเท่านั้น ใช่ว่าข้าใจแคบ รับไม่ได้กับการที่ท่านอ๋องมีผู้หญิงคนอื่น แต่หวั่นหุ้ยคนนี้ค่อนข้างสวย ข้ากลัวว่า...กลัวว่าจะเหมือนฮ่องเต้ที่หลงแต่ซุนฟาง...กุ้ยเฟยเหนียงเหนียง เฮ้อ”

สีหน้าฮองเฮาเปลี่ยนไป แสดงสีหน้าแปลกใจ “หวั่นหุ้ยคนนี้ งดงามมากหรือ? ไม่รู้ว่าเมื่อเทียบกับกุ้ยเฟยเหนียงเหนียงแล้ว เป็นยังไร?”

“มีเสน่ห์ยั่วหยวนกว่านิดหนึ่ง” หลีโม่ถอนหายใจอีก “อีกอย่าง ยังเป็นเสน่ห์ที่เด็ดขาดมาก ผู้ชายชอบแบบนี้อยู่แล้ว ถึงแม้นางจะอยู่ในทะเบียนทาส คยในตระกูลก็ถูกดำเนินคดีแล้ว ไม่สามารถขึ้นเป็นรองพระชายา แต่ยังไงก็ท่านอ๋องคนหนึ่งเท่านั้น หากเขาต้องการ คนอื่นก็พูดไม่กี่คำ ก็ไม่มีอะไรแล้ว หากหลงใหลมากๆ ยังจะสนใจใครจะพูดอะไรหรือ? นิสัยของท่านอ๋องเหนียงเหนียงก็น่าจะรู้ดี ทำอะไรเด็ดขาดตรงไปตรงมา ถึงแม้เขาจะเป็นพี่น้องของฮ่องเต้ แต่ฮ่องเต้ทำอะไร มีกาลเทศะกว่าเขาตั้งเยอะ”

หูฮวนหลิงไม่ได้โง่ ฟังเข้าใจที่หลีโม่พูด

ตอนนี้ในวังหลังซุนฟางเอ้อร์เป็นที่โปรดปรานที่สุด หากมีใครสักคนสามารถเบี่ยงเบนความรู้สึกของฮ่องเต้บ้าง หัวใจของเขาก็จะค่อยๆออกห่างซุนฟางเอ้อร์ อีกอย่างที่สำคัญที่สุด หวั่นหุ้ยอยู่ในทะเบียนทาส มากสุดก็แค่หลงใหล จะไม่ได้รับการแต่งตั้งใดๆ หากนางเป็นคนนำไปถวาย แล้วฮองเต้ชอบหวั่นหุ้ย นางก็จะได้ความดีความชอบ

ฮองเฮาหัวเราะ “พระชายาไม่ต้องเป็นห่วง ความรู้สึกที่ท่านอ๋องมีให้กับพระชายาไม่เหมือนกัน”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พิษรักองค์ชายโฉมงาม