ผู้หญิงมองเฟิ่งชิงหัวอย่างสงสัย จากนั้นมองไปที่จ้านเป่ยเซียว โดยที่น้ำตายังคงคลออยู่ที่หางตา “จริงรึ?”
“จริงๆแน่นอน” เฟิ่งชิงหัวรีบกล่าว “ดูเรือนหลังนี้ พื้น และเตียงที่ท่านนอนสิ ทุกอย่างดีมาก”
ผู้หญิงมองไปที่จ้านเป่ยเซียวอีกครั้งและลองเรียก “ลูกเขย?”
เมื่อเห็นว่าจ้านเป่ยเซียวยืนนิ่งและไม่พูดอะไร ท่านแม่เม้มริมฝีปาก “เจ้าโกหกข้า”
“ที่ไหนกัน ลูกเขยของท่านเป็น เป็นคนขี้อาย ฮ่าฮ่า ขี้อาย” เฟิ่งชิงหัวหัวเราะอย่างเคอะเขิน
ขณะที่พูดก็ขยิบตาให้จ้านเป่ยเซียว
เมื่อมองไปที่ท่าทางของเฟิ่งชิงหัวแล้ว จ้านเป่ยเซียวรู้สึกว่าช่างเป็นเรื่องมหัศจรรย์อย่างยิ่ง
ผู้หญิงคนนี้ไม่อะไรเลยและเขาคิดว่านางไม่มีข้อบกพร่องยกเว้นความโลภเงิน วันนี้ ดูเหมือนว่าได้ค้นพบบางอย่าง
เมื่อเห็นจ้านเป่ยเซียวจ้องมองนางด้วยสายตาอ่านไม่ออก เฟิ่งชิงหัวรู้สึกแต่ว่านางกำลังถูกอยู่ในเล่ห์กล
“เจ้ายืนนิ่งอยู่ทำไมกัน ท่านแม่ของข้ากำลังพูดกับเจ้า” เฟิ่งชิงหัวพูดอย่างกระวนกระวาย
จ้านเป่ยเซียวมองเฟิ่งชิงหัวและพูดอย่างช้า ๆ “เจ้าเพิ่งพูดว่าข้าเป็นอะไรของเจ้า?”
เจ้าเป็นศัตรูตัวซวยของข้า เป็นตัวร้ายของข้า เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นอะไร!
เฟิ่งชิงหัวบ่นอยู่ในใจ แต่ต่อหน้านางก็ยิ้มอย่างสดใส “ท่านอ๋อง ท่านเป็นท่านอ๋องของข้า”
“ใคร ๆ ก็เรียกข้าว่าท่านอ๋อง งั้นข้าจะต้องไปช่วยพวกเขาแก้ปัญหาทีละคนหรือ?”
หยูจีมองไปที่เฟิ่งชิงหัวและถามด้วยความสับสนว่า “ลูกสาว เจ้ากำลังพูดอะไร? เหตุใดท่านแม่ถึงไม่เข้าใจล่ะ?”
“ท่านแม่ ข้ากับท่านอ๋องกำลังแสดงความรักอยู่ ฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่าฮ่า” เฟิ่งชิงหัวหัวเราะจนใบหน้าตึง
เฟิ่งชิงหัวหันไปหาจ้านเป่ยเซียวและพูดว่า “ท่านอ๋อง เจ้าพูดเรื่องตลกเป็นได้เมื่อไหร่กัน แน่นอนว่าเจ้าเป็นสามีของข้า เจ้ายังไม่รีบมาพบแม่สามีเร็วๆ?”
ในความเป็นจริง เฟิ่งชิงหัวก็ไม่อยากเผยอะไรออกมาให้แม่ของนางรู้ แต่ต่อหน้าจักรพรรดิและไทเฮา จ้านเป่ยเซียวมักจะดูเหมือนไม่สนใจนาง ก่อนหน้านี้แม้แต่ต่อหน้าเฉิงเซี่ยงสองสามีภรรยาที่จะเป็นพ่อแม่สามีก็ไม่มีสีหน้าที่ดี และแม่ของนางที่ปรากฏออกมานี้ก็คงมีสีหน้าที่ไม่ดีด้วย ดังนั้น นางจึงอ้อนวอนเขา
แต่หลังจากที่นางพูดจบ จ้านเป่ยเซียวก็หันกลับมาและยิ้มอย่างใจดีให้กับหยูจีและพูดว่า “ท่านแม่ ท่านไม่ต้องกังวล คิดซะว่าจวนของข้าเป็นเหมือนเรือนของตน ขาดอะไรก็รับสั่งคนใช้ให้ส่งมา”
เห็นได้ชัดว่าหยูจีเป็นคนประเภทที่แผลเป็นหายดีและลืมความเจ็บปวด ดังนั้นนางจึงมีความสุขทันทีและชี้ไปที่หน้ากากของจ้านเป่ยเซียวด้วยความอยากรู้อยากเห็น “ลูกเขย เหตุใดเจ้าชอบสวมหน้ากาก?”
จ้านเป่ยเซียวกำลังจะพูด แต่เฟิ่งชิงหัวพูดขึ้นมาก่อนว่า “ท่านแม่ นี่เป็นเพียงความชอบส่วนตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเขา เราแค่เคารพเขาก็พอนะ”
“อ้อ หน้าตาลูกเขยคงไม่ขี้เหร่ใช่ไหม?” หยูจีมองจ้านเป่ยเซียว เพื่อรอคำตอบจากเขา
เฟิ่งชิงหัวแย่งพูดอีกครั้ง “ท่านแม่ ท่านกำลังคิดอะไรอยู่ เป็นไปได้อย่างไรที่ลูกสาวจะสมรสกับคนที่หน้าตาขี้เหร่ ไม่รู้ว่าลูกเขยของท่านหน้าตาดีเพียงใด อาจจะมีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นคนเดียวที่เหมาะสมกับลูกสาวท่าน”
หยูจีมองจ้านเป่ยเซียวดีๆอีกครั้ง ริมฝีปากนอกหน้ากากและใบหน้าครึ่งหนึ่งที่โผ่ลออกมา นางพยักหน้าอย่างจริงจัง “อืม นับได้ว่าไม่เลว”
จ้านเป่ยเซียวกระแอมไออย่างแรงสองครั้ง
แต่หยูจีไม่เข้าใจและพูดต่อ “เพราะชิงหัวของข้าหน้าตาสวยที่สุดและมีผู้ชายไม่กี่คนในโลกที่คู่ควรกับนาง”
เฟิ่งชิงหัวพยักหน้า “ท่านแม่พูดถูก เพราะรูปร่างหน้าตาของข้าเหมือนท่าน”
หยูจีสัมผัสใบหน้าของนาง ทั้งได้ใจและภูมิใจ “ใช่แล้ว”
จ้านเป่ยเซียวมองใบหน้าที่ธรรมดาเกินไปของหยูจีและคิดถึง “ใบหน้าที่แท้จริง”ของเฟิ่งชิงหัวก่อนหน้านี้ รู้สึกว่าแม่ลูกคู่นี้ค่อนข้างมั่นใจในหน้าตาของพวกนาง
เฟิ่งชิงหัวเจ้าใจขึ้นมาทันที “เจ้ารอข้าใช่หรือไม่?”
จ้านเป่ยเซียวเงยหน้าขึ้นมองดวงจันทร์ดวงนั้นพร้อมพูดอย่างเย็นชา “ข้าเห็นว่าเจ้าลืมสิ่งที่เจ้าพูดก่อนหน้านี้ไปแล้ว”
เฟิ่งชิงหัวพูดเสียงอ่อน “เพราะข้าไม่ได้อยู่ที่จวนมาสองสามวันแล้ว ดังนั้นข้าจึงไม่อยู่ในสถานะปกติอยู่พักหนึ่งเพคะ”
“งั้นไปกันเถอะ”
“เอ่อ เจ้าไปก่อน รอข้าอาบน้ำก่อน” เฟิ่งชิงหัวกล่าว
นางเป็นหญิงตัวเล็ก ๆ ที่น่าสงสารเสียจริง นางเพิ่งดูแลท่านแม่ที่ป่วยเสร็จก็ต้องไปเข้านอนร่วมกับคนป่วยอีก
เมื่อจ้านเป่ยเซียวได้ยินเขาก็ยิ้มทันที “จริงรึ? งั้นข้าก็จะกลับไปอาบน้ำก่อน รอเจ้า”
พูดจบก็เดินจากไป
เฟิ่งชิงหัวยืนอยู่ที่หน้าประตู มุมปากของนางกระตุกเล็กน้อย
คนๆนี้ทำไมพูดกำกวมจัง ท่าทางแบบนี้ ดูเหมือนพวกเขาสองคนดูเหมือนนัดเวลาและสถานที่แล้ว ต่างคนต่างเตรียมพร้อมเพื่อหนี
ในเวลานี้ ม่านเฉ่าก็จะพักผ่อนแล้ว ดังนั้นเฟิ่งชิงหัวจึงไม่รบกวนนางอีกต่อไป ไปนำน้ำร้อนสองถังกลับไปที่ห้องเพื่อทำความสะอาด เปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าบางเบา ผมของนางยังคงหมาดๆ นางเดินไปยังเรือนที่พักหลักของจ้านเป่ยเซียว
เมื่อเข้าไป ไฟที่ไม่จำเป็นในห้องก็ดับลง มีเพียงแสงสลัวๆ อยู่ข้างในที่ส่องสว่างอยู่ในห้อง
จ้านเป่ยเซียวกำลังพิงเตียง พลิกหนังสือ แสงมาจากลูกแก้วขนาดเท่ากำปั้นข้างเตียงของเขา
แสงจันทร์แวววาวฉายบนใบหน้าของเขา เขาดูสบายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลานี้ เมื่อเขาถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกและสวมเพียงเสื้อคลุมสีขาวอย่างดวงจันทร์ ดูแล้วค่อนข้างยุ่งเหยิงเล็กน้อยและคอวีลึกตรงหน้าอก หากยืนอยู่ข้างหน้าเขา อาจจะมองเห็นข้างในได้ชัดเจน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: พลิกชะตาหมอยา เฟิ่งชิงหัว
จะอัพเรื่องนี้ต่อไปมั้ยค่ะ😭...
เรื่องนี้หายไปนาน...