พลิกชะตารัก มรดกเซียน นิยาย บท 299

ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าเหตุใดพี่อู๋ถึงให้ความเคารพฉินหมิงมาก ปรากฎว่าอีกฝ่ายเป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่อายุยังน้อย!

มีก็แต่ประธานเว่ย ผู้เห็นเหตุการณ์และเหล่านักเลงทั่วไปบางคนต่างก็รู้สึกว่าตัวเองทำอะไรไม่ถูก

พวกเขาไม่ใช่นักสู้ ดังนั้นแน่นอนว่าพวกเขาย่อมไม่รู้ว่าผู้ที่แข็งแกร่งในระดับปรมาจารย์คืออะไร

แม้จะฟังดูทรงพลัง แต่พวกเขาก็ไม่รู้ว่ามันทรงพลังเพียงใด!

ในหมู่ของพวกเขา เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยมองดูฉินหมิงด้วยดวงตาเป็นประกาย ดวงตาที่สวยงามของเธอเต็มไปด้วยความเร่าร้อน!

“เนี่ยอู๋ คิดว่าเด็กนี่เป็นคนที่แข็งแกร่งในระดับปรมาจารย์งั้นเหรอ?”

หลัวซื่อฉงชี้ไปที่ฉินหมิงด้วยสีหน้าที่แปลก ๆ

จากนั้นเขาก็ชะงักไปชั่วครู่ ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา หัวเราะจนฟันแทบหัก!

เขาได้รับข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับฉินหมิงจากตระกูลซุนมาก่อนแล้ว เขารู้ว่าฉินหมิงเป็นเด็กกำพร้าและไม่มีความสามารถอะไรเลย เขาคงไม่ใช่แม้แต่นักฝึกยุทธด้วยซ้ำ!

ยิ่งไปกว่านั้นด้วยวัยของฉินหมิง หากเขาเป็นปรมาจารย์ผู้แข็งแกร่งในระดับปรมาจารย์จริง ๆ เขาย่อมต้องมีชื่อเสียงและกลายเป็นบุคคลที่โดดเด่นในหมู่คนรุ่นใหม่แห่งเจียงเฉิงอย่างแน่นอน!

แต่เขาไม่เคยได้ยินชื่อของฉินหมิงมาก่อน!

ทั้งหมดนี้ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าฉินหมิงไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งในระดับปรมาจารย์เลยแม้แต่น้อย!

“หลัวซื่อฉง นายหัวเราะอะไร!”

เนี่ยอู๋ตวาดด้วยความโกรธ

ในความเป็นจริง ก่อนหน้านี้เขาก็เคยกังขาว่าฉินหมิงยังเด็กเกินไปและไม่มีใครรู้จักเขา อีกทั้งเขายังดูไม่เหมือนผู้มีพลังในระดับปรมาจารย์เลยแม้แต่น้อย

แต่เป็นเพราะฉินหมิงยกระดับการบ่มเพาะของเขาขึ้นสู่ระดับกลางของระดับสวรรค์ประทานได้ในคราวเดียว ใจของเขาจึงไม่มีข้อสงสัยอะไรต่อชายหนุ่มตรงหน้าอีก

ถ้าฉินหมิงไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งในระดับปรมาจารย์ เขาจะมีความสามารถขนาดนี้ได้อย่างไร!

เรื่องนี้เขามั่นใจอย่างที่สุด!

“ก็หัวเราะให้คนโง่อย่างนายไง!”

“นายไปตามหาไอ้ขยะคนนี้มาแกล้งทำเป็นชายที่แข็งแกร่งในระดับปรมาจารย์เพื่อทำให้ฉันกลัวงั้นเหรอ?”

“คิดว่าฉันหลอกง่ายเหมือนเด็กสามขวบหรือยังไง?”

กลุ่มนักเลงที่เหลือมีพลังมากและส่งเสียงเชียร์กัน

อย่างไรเสีย บ้านเมืองก็นับได้ว่ามีชื่อมีแป แม้แต่ผู้คนในโลกใต้ดินก็ไม่กล้าที่จะต่อสู้กันง่าย ๆ มิฉะนั้น หากมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก หายนะจะตามมา!

ดังนั้นความขัดแย้งและการต่อสู้กันของโลกใต้ดินจึงมักจะเป็นการสู้กันของนักฝึกยุทธผู้ชำนาญ

เหล่านักเลงและลูกน้องที่เหลือค่อยทำหน้าที่เป็นผู้โบกธง ส่งแรงใจ หรือจัดการกับผลที่ตามมาอะไรเหล่านั้น!

"ทำได้ดีมาก!"

เนี่ยอู๋เยาะเย้ย กระโดดออกไป และหยุดชายสองคนในชุดสีเขียว

“ขั้นแรก...ไม่สิ ขั้นกลางระดับสวรรค์ประทาน?”

“เป็นไปได้ยังไง!”

หลัวซื่อฉงตกใจมากเมื่อรู้สึกถึงความผันผวนของพลังลมปราณบนร่างกายของเนี่ยอู๋

เขารู้มานานแล้วว่าการบ่มเพาะพลังยุทธของเนี่ยอู๋ชะงักอยู่ที่ขั้นสูงของระดับมานะสร้าง เดิมทีเขาคิดว่าเขาจะสามารถทำลายเนี่ยอู๋และฉินหมิงได้อย่างง่ายดายด้วยการเพียงแค่ส่งผู้ใต้บังคับบัญชาในระดับสวรรค์ประทานไปสักสองคนก็พอ!